เล่าประสบการณ์ การจัดฟันแบบโลหะ ไม่คล้องยาง (Self Ligating) หรือรู้จักกันโดยทั่วไปว่า จัดฟันดามอน (ดามอนคือยี่ห้ออุปกรณ์จัดฟัน)
ออกตัวว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ
เจ้าของกระทู้อยู่ในวัยอายุสามสิบต้นๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะจัดฟันในช่วงอายุน้อยๆ ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพราะอยู่ในวัยที่ร่างกายเจริญเติบโต ยังมีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้าอยู่ ฟันสามารถเคลื่อนที่ได้ง่าย หากพ้นช่วงวัยรุ่นไปแล้ว อาจต้องใช้ระยะเวลาในการจัดฟันที่นานขึ้น
โดยปกติเจ้าของกระทู้ตรวจสุขภาพฟันทุกหกเดือน และเข้าใจเสมอมาว่าตัวเองดูแล และรักษาสุขภาพฟันได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องด้วยสภาพฟันที่ซ้อนเก ทำให้เวลาแปรงฟันอาจแปรงได้ไม่ละเอียดถึงซอกฟัน แปรงสีฟันเข้าไม่ถึงทุกซี่ กอปรกับไม่ค่อยใช้ไหมขัดฟัน (Dental floss) ปีที่ผ่านมาจึงมีอาการเสียวฟันมากผิดปกติ โดยเฉพาะเวลากินของเย็น จึงไปพบทันตแพทย์ ระหว่างนั้นก็มีอาการเหงือกอักเสบ เป็นๆหายๆมาโดยตลอด ครั้งนี้ทันแพทย์ตรวจเจอว่าโพรงประสาทฟันอักเสบ ฟันผุลึกถึงรากฟัน จำเป็นต้องรักษารากฟัน อีกทางหนึ่ง หมอที่รักษาอยู่ด้วยประจำท่านนี้ ก็แนะนำว่าถ้าอยากดูแลฟันให้ง่ายขึ้น ไม่มีเหงือกอักเสบบ่อยๆ แก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติ และการบดเคี้ยวของตัวเอง ที่บ่นกับหมออยู่เรื่อยๆ ว่าชอบกัดกระพุ้งแก้มบ่อยๆเวลาเคี้ยว ก็ควรจัดฟัน
เบื้องต้นก็ยังไม่ฟังคำแนะนำของหมอ ก็เลือกรักษารากฟัน หมดตังค์ไปก็หลาย แต่หลังจากรักษารากฟันไปแล้ว ก็ยังมีเหงือกอักเสบซ้ำๆ มีคอฟันสึกเพิ่มเติม จึงตัดสินใจปรึกษากับหมอจัดฟันเฉพาะทางในคลินิกอีกท่านหนึ่ง เจ้าของกระทู้ได้สอบถามกับหมอจัดฟันถึงรูปแบบการจัดฟันประเภทต่างๆ ข้อดีข้อเสียโดยละเอียด รวมถึงสอบถามว่าฟันแบบเจ้าของกระทู้มีความจำเป็นต้องจัดมากน้อยเพียงใด
(หลีกเลี่ยงการจัดฟันมาตั้งแต่ตอน 11 ขวบ เพราะหมอที่ดูแลอยู่ในตอนนั้นแจ้งว่าต้องถอนฟัน 4 ซี่ ตนกลัวการถอนฟันมาก) หมอที่ให้คำปรึกษา ได้ตอบคำถามโดยละเอียด และให้เวลากลับไปทบทวน ในที่สุดเมื่อหาข้อมูลต่างๆจากใน Internet และข้อมูลจากหมอ ก็ตัดสินใจจัดฟัน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ในระยะยาว
เจ้าของกระทู้เลือกจัดฟัน แบบดามอน เพราะเห็นว่าช่วยลดระยะเวลาการจัดฟัน, เจ็บน้อยกว่า, พบหมอตามนัดน้อยกว่า และตัดปัญหาการเลือกสีฟันให้สุภาพ เหมาะกับการทำงานออกไป
ราคาตามแผนรักษาของคลินิก ราคา 75,000 บาท ไม่รวมค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น ค่าx-ray, ถ่ายรูป/พิมพ์ฟัน, เคลียร์ช่องปาก, รีเทนเนอร์ เป็นต้น
เจ้าของกระทู้มีสิทธิประกันสังคม 900 บาทต่อปี และมีประกันส่วนตัวที่ทำไว้ สามารถเบิกค่ารักษาทันตกรรมได้ปีละ 3000 บาท (ขูด, อุด, ถอน, ผ่าฟันคุด, รักษารากฟัน แต่ไม่รวม x-ray) จึงช่วยลดค่ารักษาอื่นๆไปได้บ้างค่ะ
*ค่ารักษาแต่ละคลินิกอาจมีความแตกต่างกัน และในคลินิกเดียวกันก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ และไม่เท่ากันในแต่ละบุคคล
ขั้นตอนที่ 1 - X-Ray ฟัน ทางคลินิกเป็นคลินิกเล็กๆ ไม่มีเครื่อง x-ray ฟันสำหรับจัดฟัน จึงเขียนใบส่งตัวให้ไป x-ray ฟันที่ศูนย์ x-ray ทันตกรรม แห่งหนึ่งย่านอนุเสาวรีย์ ทำการ x-ray 2 ฟิล์ม แบบเห็นเต็มช่องปาก กับด้านข้าง
(ไม่ทราบว่า ศัพท์เฉพาะทางเรียกว่าอย่างไร) จ่ายไปในราคา 1,000 บาทถ้วน
ขั้นตอนที่ 2 - ถ่ายรูป พิมพ์ฟัน ที่คลินิก ราคา 1,000 บาท -- จากนั้นหมอแจ้งแผนการรักษา และนัดให้มาถอนฟัน กับทันตแพทย์อีกท่านหนึ่ง ที่เป็นเฉพาะทางด้านศัลยกรรมช่องปาก สรุปต้องถอนทั้งหมด 4 ซี่ (ส่วนฟันคุดไม่มี เพราะเจ้าของกระทู้จัดการถอนไปหมดแล้วตั้งแต่ช่วงอายุ 19 - 20 ปี ทั้งหมดสี่ซี่)
ขั้นตอนที่ 3 - ถอนฟัน ได้แก่ฟันบนสองซี่ ฟันล่างสองซี่ ถ้าเข้าใจไม่ผิด จะเรียกว่าบริเวณหลังเขี้ยว ราคาซี่ละ 900 บาท รวม 3600 บาท -- หมอที่ทำการถอนฟัน เจ้าของกระทู้ต้องยอมรับว่าฝีมือดีมาก มือเบา เทคนิคดี โยกมือหนึ่ง สอง สาม ฟันก็หลุดได้โดยง่าย ทั้งที่จริงๆแล้ว ขั้นตอนการถอนฟัน เป็นขั้นตอนที่เจ้าของกระทู้กลัวมากที่สุด เพราะเคยมีประสบการณ์ไม่ดีเกี่ยวกับการถอนฟัน ทำให้สมองจินตนาการไปต่างๆ นานา อีกทั้งเจ้าของกระทู้มีโรคประจำตัวด้านจิตเวช ยาที่ทานประจำมีโอกาสส่งผลให้เลือดหยุดไหลช้า ทำให้เกิดความกังวลไปเท่าตัว ฉะนั้นก่อนถอนฟัน เจ้าของกระทู้จึงแจ้งถึงโรคประจำตัว ยาที่ทานประจำ และความกังวลที่มี แก่คลินิก เมื่อถึงวันนัดถอนฟัน ทั้งหมอ และผู้ช่วยทันตแพทย์ ได้มีวิธีการพูดคุยให้คลายกังวัล ทั้งก่อนถอนฟัน ระหว่างถอนฟัน และหลังถอนฟัน ทำให้รู้สึกสบายใจ คลายกังวล ซึ่งทำให้การถอนฟันครั้งนี้ ผ่านไปได้ด้วยดี ขอชื่นชมค่ะ
ขั้นตอนที่ 4 -- ติดเครื่องมือครั้งที่ 1 ฟันบน จ่ายครั้งแรก 15,000 บาท สองสัปดาห์ต่อมา ติดเครื่องมือฟันล่าง พร้อมใส่ที่ยกฟันเพราะฟันสบลึก จ่าย 15,000 บาท เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการติดเครื่องมือทั้งบน และล่าง
หลังติดเครื่องมือเสร็จแล้ว หมอทำนัดหนึ่งเดือนครึ่ง ซึ่งยังไม่ทราบว่าครั้งต่อไป หมอนัดเพื่อทำอะไรบ้าง แต่แจ้งราคาไว้ตั้งแต่แรกว่ามีค่าใช้จ่ายครั้งละ 2,500 บาท อีก 4 - 6 เดือนจะกลับมารีวิวใหม่ ถึงการเปลี่ยนแปลงของฟันค่ะ
ความรู้สึกตอนติดเครื่องมือ และหลังติดมาได้ราวเกือบสามสัปดาห์ โดยส่วนตัวไม่รู้สึกเจ็บเลย แต่รู้สึกตึงๆตลอดเวลา เมื่อฟันเผลอกระทบกัน หรือเคี้ยวอาหารก็จะไวต่อความรู้สึกมากเป็นพิเศษ จนทำให้ไม่อยากเคี้ยวอะไรแข็งๆ หรือเหนียวๆไปเอง แต่ความรู้สึกเจ็บปวด ทรมานจนกินอะไรไม่ได้ ไม่เกิดกับเจ้าของกระทู้ค่ะ
พิกัดคลินิกจัดฟัน อยู่ย่านพหลฯ-อารีย์ ติดกับคอนโดดัง เป็นคลินิกเล็กๆ ติดถนนไม่ต้องเข้าซอย แต่ไม่มีที่จอดรถ (ถึงคลินิกจะเล็ก แต่ทันตแพทย์ทั้งหมด เป็นทันตแพทย์เฉพาะทาง มีประสบการณ์ และเป็นอาจารย์ทันตแพทย์ มีความน่าเชื่อถือมากค่ะ)
มีภาพประกอบก่อน และหลังติดเครื่องมือไว้ให้ด้านล่าง (ขออภัยหากภาพใหญ่ไปเพราะยังลดขนาดไม่เป็น และริมฝีปากขาดความชุ่มชื้น อาจทำให้ภาพไม่น่าชม จึงใส่สปอยไว้ให้ค่ะ)
1. ฟันบนก่อนจัดฟัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. ฟันล่างก่อนจัดฟัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. ติดเครื่องมือบน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. ติดเครื่องมือล่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. ด้านข้าง และหมอใส่ที่ดึงฟันให้เข้ากันเร็วขึ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ
เล่าประสบการณ์ การจัดฟันแบบโลหะ ไม่คล้องยาง (Self Ligating) หรือรู้จักกันโดยทั่วไปว่า จัดฟันดามอน
ออกตัวว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ
เจ้าของกระทู้อยู่ในวัยอายุสามสิบต้นๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะจัดฟันในช่วงอายุน้อยๆ ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ เพราะอยู่ในวัยที่ร่างกายเจริญเติบโต ยังมีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้าอยู่ ฟันสามารถเคลื่อนที่ได้ง่าย หากพ้นช่วงวัยรุ่นไปแล้ว อาจต้องใช้ระยะเวลาในการจัดฟันที่นานขึ้น
โดยปกติเจ้าของกระทู้ตรวจสุขภาพฟันทุกหกเดือน และเข้าใจเสมอมาว่าตัวเองดูแล และรักษาสุขภาพฟันได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องด้วยสภาพฟันที่ซ้อนเก ทำให้เวลาแปรงฟันอาจแปรงได้ไม่ละเอียดถึงซอกฟัน แปรงสีฟันเข้าไม่ถึงทุกซี่ กอปรกับไม่ค่อยใช้ไหมขัดฟัน (Dental floss) ปีที่ผ่านมาจึงมีอาการเสียวฟันมากผิดปกติ โดยเฉพาะเวลากินของเย็น จึงไปพบทันตแพทย์ ระหว่างนั้นก็มีอาการเหงือกอักเสบ เป็นๆหายๆมาโดยตลอด ครั้งนี้ทันแพทย์ตรวจเจอว่าโพรงประสาทฟันอักเสบ ฟันผุลึกถึงรากฟัน จำเป็นต้องรักษารากฟัน อีกทางหนึ่ง หมอที่รักษาอยู่ด้วยประจำท่านนี้ ก็แนะนำว่าถ้าอยากดูแลฟันให้ง่ายขึ้น ไม่มีเหงือกอักเสบบ่อยๆ แก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติ และการบดเคี้ยวของตัวเอง ที่บ่นกับหมออยู่เรื่อยๆ ว่าชอบกัดกระพุ้งแก้มบ่อยๆเวลาเคี้ยว ก็ควรจัดฟัน
เบื้องต้นก็ยังไม่ฟังคำแนะนำของหมอ ก็เลือกรักษารากฟัน หมดตังค์ไปก็หลาย แต่หลังจากรักษารากฟันไปแล้ว ก็ยังมีเหงือกอักเสบซ้ำๆ มีคอฟันสึกเพิ่มเติม จึงตัดสินใจปรึกษากับหมอจัดฟันเฉพาะทางในคลินิกอีกท่านหนึ่ง เจ้าของกระทู้ได้สอบถามกับหมอจัดฟันถึงรูปแบบการจัดฟันประเภทต่างๆ ข้อดีข้อเสียโดยละเอียด รวมถึงสอบถามว่าฟันแบบเจ้าของกระทู้มีความจำเป็นต้องจัดมากน้อยเพียงใด (หลีกเลี่ยงการจัดฟันมาตั้งแต่ตอน 11 ขวบ เพราะหมอที่ดูแลอยู่ในตอนนั้นแจ้งว่าต้องถอนฟัน 4 ซี่ ตนกลัวการถอนฟันมาก) หมอที่ให้คำปรึกษา ได้ตอบคำถามโดยละเอียด และให้เวลากลับไปทบทวน ในที่สุดเมื่อหาข้อมูลต่างๆจากใน Internet และข้อมูลจากหมอ ก็ตัดสินใจจัดฟัน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ในระยะยาว
เจ้าของกระทู้เลือกจัดฟัน แบบดามอน เพราะเห็นว่าช่วยลดระยะเวลาการจัดฟัน, เจ็บน้อยกว่า, พบหมอตามนัดน้อยกว่า และตัดปัญหาการเลือกสีฟันให้สุภาพ เหมาะกับการทำงานออกไป
ราคาตามแผนรักษาของคลินิก ราคา 75,000 บาท ไม่รวมค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น ค่าx-ray, ถ่ายรูป/พิมพ์ฟัน, เคลียร์ช่องปาก, รีเทนเนอร์ เป็นต้น
เจ้าของกระทู้มีสิทธิประกันสังคม 900 บาทต่อปี และมีประกันส่วนตัวที่ทำไว้ สามารถเบิกค่ารักษาทันตกรรมได้ปีละ 3000 บาท (ขูด, อุด, ถอน, ผ่าฟันคุด, รักษารากฟัน แต่ไม่รวม x-ray) จึงช่วยลดค่ารักษาอื่นๆไปได้บ้างค่ะ
*ค่ารักษาแต่ละคลินิกอาจมีความแตกต่างกัน และในคลินิกเดียวกันก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ และไม่เท่ากันในแต่ละบุคคล
ขั้นตอนที่ 1 - X-Ray ฟัน ทางคลินิกเป็นคลินิกเล็กๆ ไม่มีเครื่อง x-ray ฟันสำหรับจัดฟัน จึงเขียนใบส่งตัวให้ไป x-ray ฟันที่ศูนย์ x-ray ทันตกรรม แห่งหนึ่งย่านอนุเสาวรีย์ ทำการ x-ray 2 ฟิล์ม แบบเห็นเต็มช่องปาก กับด้านข้าง (ไม่ทราบว่า ศัพท์เฉพาะทางเรียกว่าอย่างไร) จ่ายไปในราคา 1,000 บาทถ้วน
ขั้นตอนที่ 2 - ถ่ายรูป พิมพ์ฟัน ที่คลินิก ราคา 1,000 บาท -- จากนั้นหมอแจ้งแผนการรักษา และนัดให้มาถอนฟัน กับทันตแพทย์อีกท่านหนึ่ง ที่เป็นเฉพาะทางด้านศัลยกรรมช่องปาก สรุปต้องถอนทั้งหมด 4 ซี่ (ส่วนฟันคุดไม่มี เพราะเจ้าของกระทู้จัดการถอนไปหมดแล้วตั้งแต่ช่วงอายุ 19 - 20 ปี ทั้งหมดสี่ซี่)
ขั้นตอนที่ 3 - ถอนฟัน ได้แก่ฟันบนสองซี่ ฟันล่างสองซี่ ถ้าเข้าใจไม่ผิด จะเรียกว่าบริเวณหลังเขี้ยว ราคาซี่ละ 900 บาท รวม 3600 บาท -- หมอที่ทำการถอนฟัน เจ้าของกระทู้ต้องยอมรับว่าฝีมือดีมาก มือเบา เทคนิคดี โยกมือหนึ่ง สอง สาม ฟันก็หลุดได้โดยง่าย ทั้งที่จริงๆแล้ว ขั้นตอนการถอนฟัน เป็นขั้นตอนที่เจ้าของกระทู้กลัวมากที่สุด เพราะเคยมีประสบการณ์ไม่ดีเกี่ยวกับการถอนฟัน ทำให้สมองจินตนาการไปต่างๆ นานา อีกทั้งเจ้าของกระทู้มีโรคประจำตัวด้านจิตเวช ยาที่ทานประจำมีโอกาสส่งผลให้เลือดหยุดไหลช้า ทำให้เกิดความกังวลไปเท่าตัว ฉะนั้นก่อนถอนฟัน เจ้าของกระทู้จึงแจ้งถึงโรคประจำตัว ยาที่ทานประจำ และความกังวลที่มี แก่คลินิก เมื่อถึงวันนัดถอนฟัน ทั้งหมอ และผู้ช่วยทันตแพทย์ ได้มีวิธีการพูดคุยให้คลายกังวัล ทั้งก่อนถอนฟัน ระหว่างถอนฟัน และหลังถอนฟัน ทำให้รู้สึกสบายใจ คลายกังวล ซึ่งทำให้การถอนฟันครั้งนี้ ผ่านไปได้ด้วยดี ขอชื่นชมค่ะ
ขั้นตอนที่ 4 -- ติดเครื่องมือครั้งที่ 1 ฟันบน จ่ายครั้งแรก 15,000 บาท สองสัปดาห์ต่อมา ติดเครื่องมือฟันล่าง พร้อมใส่ที่ยกฟันเพราะฟันสบลึก จ่าย 15,000 บาท เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการติดเครื่องมือทั้งบน และล่าง
หลังติดเครื่องมือเสร็จแล้ว หมอทำนัดหนึ่งเดือนครึ่ง ซึ่งยังไม่ทราบว่าครั้งต่อไป หมอนัดเพื่อทำอะไรบ้าง แต่แจ้งราคาไว้ตั้งแต่แรกว่ามีค่าใช้จ่ายครั้งละ 2,500 บาท อีก 4 - 6 เดือนจะกลับมารีวิวใหม่ ถึงการเปลี่ยนแปลงของฟันค่ะ
ความรู้สึกตอนติดเครื่องมือ และหลังติดมาได้ราวเกือบสามสัปดาห์ โดยส่วนตัวไม่รู้สึกเจ็บเลย แต่รู้สึกตึงๆตลอดเวลา เมื่อฟันเผลอกระทบกัน หรือเคี้ยวอาหารก็จะไวต่อความรู้สึกมากเป็นพิเศษ จนทำให้ไม่อยากเคี้ยวอะไรแข็งๆ หรือเหนียวๆไปเอง แต่ความรู้สึกเจ็บปวด ทรมานจนกินอะไรไม่ได้ ไม่เกิดกับเจ้าของกระทู้ค่ะ
พิกัดคลินิกจัดฟัน อยู่ย่านพหลฯ-อารีย์ ติดกับคอนโดดัง เป็นคลินิกเล็กๆ ติดถนนไม่ต้องเข้าซอย แต่ไม่มีที่จอดรถ (ถึงคลินิกจะเล็ก แต่ทันตแพทย์ทั้งหมด เป็นทันตแพทย์เฉพาะทาง มีประสบการณ์ และเป็นอาจารย์ทันตแพทย์ มีความน่าเชื่อถือมากค่ะ)
มีภาพประกอบก่อน และหลังติดเครื่องมือไว้ให้ด้านล่าง (ขออภัยหากภาพใหญ่ไปเพราะยังลดขนาดไม่เป็น และริมฝีปากขาดความชุ่มชื้น อาจทำให้ภาพไม่น่าชม จึงใส่สปอยไว้ให้ค่ะ)
1. ฟันบนก่อนจัดฟัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. ฟันล่างก่อนจัดฟัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. ติดเครื่องมือบน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. ติดเครื่องมือล่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. ด้านข้าง และหมอใส่ที่ดึงฟันให้เข้ากันเร็วขึ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้