เขามีใจหรือฉันคิดไปเอง?

กระทู้คำถาม
ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเรื่องราวของฉันกับเขาจะเป็นอย่างไร แต่ฉันอยากจะเก็บความทรงจำนี้ไว้ 
   เรื่องทุกอย่างมันเริ่มต้นจากวันนั้น วันนั้นฉันใส่รองเท้าผ้าใบคู่ใหม่ที่สั่งมาจากแอพลิเคชันหนึ่ง ฉันใส่ไปมหาลัย ด้วยความที่เป็นรองเท้าใหม่ฉันเลยยังไม่ชินกับมัน พอเดินไปฉันก็ไม่เห็นว่าพื้นมันต่างระดับ เลยทำให้ฉันล้มลงกับพื้น ทำให้หัวเข่าเป็นแผลทั้งสองข้าง ด้วยความที่หกล้มแล้วเลือดไม่ออกมันทำให้เจ็บและแสบมาก ๆ (เป็นรอยถลอกและมีเลือดซิบๆ) ด้วยความที่เรียนเสร็จแล้วกำลังเดินไปโรงอาหาร แต่ระยะทางที่เดินไปโรงอาหารมันก็ไกลพอสมควร ทำให้ต้องแบกสังขารตัวเองเดินไป แต่พอไปถึงโรงอาหาร โรงอาหารก็มีสองชั้น ฉันกับเพื่อนเลยตัดสินใจไปชั้นสอง (มีแอร์) ในขณะที่ได้โต๊ะแล้ว ฉันก็ขอนั่งพักและให้เพื่อนไปสั่งอาหารก่อนเพราะฉันเริ่มเดินไม่ไหว ด้วยความที่โรงอาหารไม่ค่อยมีคน ทำให้ฉันเห็นผู้ชายกลุ่มหนึ่งนั่งกันอยู่ประมาณสิบกว่าคน ในใจฉันก็แอบคิดว่าเอกพละอีกแล้วหรอ? เพราะช่วงก่อนหน้านี้ฉันเจอกลุ่มนี้บ่อยมาก ๆ และฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร หันมาสนใจแผลตัวเองต่อ สักพักฉันก็รู้สึกเหมือนมีคนมองฉันอยู่ฉันก็เงยหน้าขึ้นมาก็ไปสบตาเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งเขายืนอยู่ที่หน้าร้านอาหารร้านหนึ่ง ฉันสบตาเขาและเขาก็หลบสายตาฉันพร้อมกับก้มหน้ายิ้มทำให้ฉันถึงกับอดที่จะอมยิ้มไม่ได้ เพื่อนที่นั่งตรงข้ามฉันก็ถามว่าเป็นไรหรอ? ฉันเลยบอกว่าผู้ชายคนนั้นที่ยืนอยู่หน้าร้านอาหารเขามองมาและพอฉันสบตาเขาก็หลบสายตาทันที เพื่อนฉันก็หันไปมอง พอผ่านไปสักพักเขาก็กลับไปนั่งโต๊ะกับกลุ่มเพื่อนเขา ฉันท์สังเกตุได้ว่า จู่ๆพวกเพื่อน ๆ เขาก็หันมามองที่ฉันซึ่งโต๊ะ ตอนนั้นฉันนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารคนเดียว เป็นจังหวะที่เพื่อนฉันไปซื้อน้ำพอดี ทำให้ข้างหน้าฉันเป็นที่ว่างและมองเห็นกลุ่มพวกเขาได้ชัด ทำเอาฉันทำตัวไม่ถูก และเขาก็เดินออกมาจากโต๊ะเื่อมาซื้อน้ำ และเผอิญ ฉันนั่งอยู่หน้าร้านขายน้ำพอดี และฉันก็แอบสังเกตุว่า เขาหันมามองฉันเป็นพักๆ แต่ฉันก็ไม่กล้าหันไปมองเขา เพราะเพื่อนเขาก็นั่งมองฉันอยู่ที่โต๊ะ พอเพื่อนฉันซื้อน้ำเสร็จ นางก็มาบอกฉันว่า ผู้ชายคนนั้นเห็นแอบมองเธอนานมาก ตอนที่ยืนรอซื้อน้ำเขาก็หันมามองเธอ และก็ยืนนับเหรียญไป นับครบแล้วก็นับอยู่นั่นแหละ เขาน่าจะชอบเธอแล้วล่ะ
   หลังจากนั้น ฉันก็เริ่มที่จะชอบเขาขึ้นมา แต่เขาก็ไม่ใช่สเปคที่ฉันชอบเลย ก่อนหน้านั้นฉันเคยเดินสวนกับกลุ่มพวกเขา ฉันฉันหันไปมองเขาและก็หันไปพูดกับเพื่อนว่า ฉันไม่ชอบผู้ชายกล้ามใหญ่(เขาชอบเพาะกล้ามและประกวด) แถวยังสักเต็มตัวอีก แต่พอมาตอนนี้ฉันเจอกับเขาบ่อยขึ้นๆ มีอยู่วันหนึ่ง ฉันนั่งกินข้าวกับเพื่อนอยู่ และพวกเขาก็เดินมา ฉันกับเขาสบตากัน และฉันก็ทำเป็นนิ่งๆ ด้วยความที่โต๊ะข้างหลังฉันว่าง ฉันก็แอบคิดว่า สงสัยเขาคงจะไปนั่งโต๊ะข้างหลัง ฉันก็คงจะไม่ได้มองเขา แต่ป่าวเลย เขารอให้คนที่นั่งโต๊ะเดียวกับฉันลุกเอาจานไปเก็บ และเขาก็เดินมาที่ฉัน ในใจฉันก็แอบคิดว่าจะมานั่งข้างๆฉันไม่ได้นะ เดี๋ยวฉันเขิน พอเขาเดินมาอยู่ข้างหน้าฉัน ฉันกลีบไม่กล้ามองเขา เขาก็เลยเดินไปนั่งหัวโต๊ะแทน(ฉันนั่งท้ายโต๊ะ) ในใจฉันก็แอบคิดว่า นี่ฉันกับเขาเริ่มเข้าใกล้กันอีกก้าว พอฉันเริ่มชอบเขามากขึ้น ฉันก็นึกย้อนกลับไปว่า เมื่อช่วงต้นเทอมเพิ่งเปิดเรียนใหม่ๆ(ปี4เทอม1) เป็นช่วงเว้นระยะห่างทางสังคม(โควิด) และเพื่อนฉันมีอยู่คนนึง นางไม่มีคอม ทำให้ต้องมาเรียนที่มอ เพราะว่าใครจะเรียนออนไลน์ก็ได้ หรือมาเรียนในห้องก็ได้ วันนั้นฉันนั่งเรียนแถวๆตรงประตู มันเป็นช่วงที่ห้องข้างๆเลิกเรียน แล้วจะต้องเดินผ่านห้องที่ฉันเรียน และก็มีกลุ่มผู้ชายกลุ่มหนึ่งมายืนออกันอยู่ที่หน้าห้องและก็มองเข้ามา พอฉันมานึกดูดีๆ กลายเป็นกลุ่มของเขาเฉยเลย และก็มีหลายครั้งที่เมื่อก่อนโรงอาหารจะเว้นระยะห่าง ทำให้โต๊ะไม่อนั่ง ฉันกับเพื่อนก็สั่งอาหารและก็ยืนรอ ตอนนั้นฉันรู้แค่ว่าเจอเอกพละบ่อยมาก แต่ไม่เคยสังเกตุเลยว่าจะเป็นกลุ่มของเขา ฉันเจอกลุ่มเขาบ่อยมากจนทุกครั้งที่มาโรงอาหารฉันก็จะมองหาเขา และเขาก็จะมองหาฉันเป็นประจำ ฉันกับเขามักจะได้นั่งโต๊ะทานอาหารใกล้ๆกันตลอด และทุกครั้ง เขาก็จะฉันมามองฉัน และพอฉันมองกลับเขาก็จะหลบสายตา
   พอโควิดเริ่มดีขึ้น เพื่อนในกลุ่มของฉันก็อยู่กับครบ ประมาณ10คน เยอะพอๆกับกลุ่มเขาเลย ทีนี้ทุกคนก็ช่วยกันสังเกตุพฤติกรรมเขา ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาชอบฉัน แต่ฉันก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่า จนบางครั้งเขามองจนเพื่อนในกลุ่มทนไม่ไหว ตะโกนออกไปว่า ถ้าจะมองขนาดนี้ก็เข้าาคุยเถอะ จะมองอะไรกันนักหนา ไม่จีบกนสักที! และก็มีอีกวัน ฉันนั่งคุยกับเพื่อนๆอยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ ฉันหันไปเห็นเขาเดินมากับเพื่อนสองคน ฉันก็ทำเป็นมองไม่เห็นและหันไปทางอื่น สักพักฉันได้ยินเสียงผิวปากดังมาก ฉันก็เลยหันไปมอง และเขาก็หันไปมองทางอื่น ฉันก็ถามเพื่อนในกลุ่มว่าเพื่อนเขาผิวปากหรอ? ทุกคนก็บอกว่า เขานั่นแหละที่เป็นคนผิวปาก ในใจฉันก็แอบเข้าข้างตัวเองนิดๆว่าเขาผิวปากเรียกให้ฉันหันไปหรือป่าวนะ  และมีอีกครั้งนึง ฉันเดินผ่านโรงยิมแล้วได้ยินพวกเขากำลังเรียนกันอยู่ ฉันก็เลยนั่งแวะกน้าโรงยิม เผื่อว่าจะได้เจอเขา พอนั่งไปสักพัก เหมือนว่าพวกเขาเลิกเรียนกันแล้ว เพื่อนเขาก็ค่อยๆออกมาทีละคน ฉันก็ทำเป็นมองและก็อ่านหนังสือไปด้วย เพื่อนเขาก็มองมาและก็เริ่มตะโกนเรียกชื่อเขา เรียกเสียงดังมาก พร้อมกับมองมาที่ฉัน แต่เขาก็ไม่ออกมาสักที และเพื่อนเขาก็เข้าไปตะโกนเรียกเขาในโรงยิมอีก เรียกไปกินข้าว ฉันต้องรีบไปสอบก็เลยไม่ได้เจอเขา
   หลังจากนั้น ฉันก็ต้องไปฝึกงานที่พังงา 3เดือน ทำให้ไม่ได้เจอกัน ฉันแอบส่องเฟสเขาทุกวัน และภาวนาว่า เขาอย่าโพสอะไรเกี่ยวกับความรักเลย เพราะเมื่อก่อนเขาโพสบ่อยมาก ถ้าในช่วงที่ฉันฝึกงานแล้วเขาโพสเกี่ยวกับความรัก นั่นก็แปลว่าเขาไม่ได้หมายถึงฉันแต่เขาก็ไม่ได้โพสอะไรเลย ทำให้ฉันรู้สึกดี จนฉันฝึกงานเสร็จ ฉันก็ยังไม่ได้กลับทันที เพื่อนในกลุ่มก็กลับไปกันหมด และเพื่อนก็บอกว่า ไปกินข้าวที่โรงอาหารเจอเขาด้วย เขามองมาที่กลุ่มบ่อยมาก และก็มองมาทุกวันเลย ฉันก็แอบเข้าข้างตัวเองอีกว่าเขาอาจจะมอหาฉันก็ได้ แต่พอวันต่อมาฉันต้องไปนำเสนอผลการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ฉันก็เจอเขาที่โรงอาหารอีกแต่ว่าเขามองมาที่กลุ่มฉันแต่ฉันนั่งอยู่ท้ายสุด แต่ฉันกับเขาไม่ได้สบตากันเลย เขาทำเหมือนกับฉันไม่ได้อยู่ตรงนั้น และก็ไปนั่งโต๊ะไกลมาก แถมยังก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์อีกและดูซึมๆไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย และตอนนี้เขาดูหล่อขึ้นมาก จากเมื่อก่อนตัดผมสกินเฮด ตอนนี้ไว้ผมแล้ว เมื่อก่อนเขาผิวเข้มและมีสิวนิดหน่อย แต่ตอนนี้เขาดูเขาขึ้น สิวที่หน้าก็รักษาเรีบยร้อยแล้ว แถมเขายังดูผอมลงอีกด้วย หรือว่าเขามีคนที่เขาชอบและอยากเปลี่ยนแปลงเพื่อคนๆนั้นหรือป่าว ซึ่งอาจจะไม่ใช่ฉันก็ได้ และฉันก็เริ่มตัดใจละ แต่พอวันถัดมา ฉันก็คิดว่ายังไงก็ไม่น่าจะได้เจอเขาแล้ว เพราะเขาน่าจะปิดคลอสเรียนแล้วเพราะอาทิตย์หน้าเขาจะสอบปลายภาค ฉันก็ไปโรงอาหารอีกเช่นเคย ฉันสั่งข้าวที่ชั้นสอง และก็ลงมาซื้อน้ำปั่นชั้นหนึ่ง ฉันหันไปมองหาเขาแล้วมองหาเขาอีก ก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะมาโรงอาหาร จนฉันได้น้ำและกำลังเดินไปชั้นสอง ฉันก็หันไปเห็นเขากับเพื่อนเดินมากันสองคน เขามองมาที่ฉันและฉันก็รีบเดินขึ้นไปชั้นสองทันที ฉันรู้สึกว่าหัวใจฉันเต้นแรงมาก เขาก็เดินตามหลังฉันมา พอเพื่อนๆที่โต๊ะเห็น ก็ส่งสัญญาณกันใหญ่ว่าเขาอยู่ข้างหลัง ฉันก็กระซิบว่ารู้แล้วๆ และฉันก็มานั่งที่โต๊ะ เขากับเพื่อนก็เดินานั่งโต๊ะถัดไปข้างหน้าฉัน ฉันก็เห็นว่าเขานั่งหันหลังให้ฉัน ฉันก็คิดว่าเขาคงไม่อยากเจอฉัน ระหว่างรอข้าวฉันก็นั่งมองเขาจากด้านหลัง และก็แอบคิดไปว่ามันจบแล้วล่ะ สฃสัยเราจะมาได้เท่านี้ แต่ว่าเขาก็หันมามองข้างหลังซึ่งกลุ่มฉันนั่งอยู่บ่อยมาก จนฉันทนไม่ไหวละ แกล้งทำเป็นนั่งเหม่อมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง แต่หางตาก็มองเห็นแล้วว่าเขามองมาที่กลุ่มฉันนานมาก แต่ไม่รู้ว่ามองใคร ฉันปล่อยให้เขามองไปสักพักและก็หันไปมองเขาแบบไม่ทันตั้งตัว เรารีบหันหน้ากลับทันทีเลย เหมือนเขาจะแอบตกใจนิดๆ เพราะฉันเห็นเขาแอบชำเลืองมามองฉันด้วย และเขาก็ถอดเสื้อกันหนาวที่เขาใส่ออก และก็ดึงแขนเสื้อมาปิดรอยสักไว้ ฉันก็แอบแปลกใจนิดหน่อย เมื่อก่อนเขาชอบโชว์รอยสักจะตาย ช่วงที่ฉันเดินไปเอาข้าวที่สั่งไว้ ก็เห็นว่าเขากับเพื่อนเขามองมาที่ฉันกันหมด จนฉันมานั่งที่โต๊ะเขาก็เลยเดินไปสั่งอาหารร้านเดียวกันกับฉัน แต่ตอนที่เขากลับมานั่งโต๊ะ เขาก็เดินไปนั่งอีกฝั่งนึง เพื่อนเขาก็งงๆว่าทำไมเปลี่ยนที่นั่ง และเพื่อนเขาก็มองมาที่ฉัน จากที่เขานั่งหันหลังให้ฉัน ตอนนี้เขาก็ย้ายที่นั่งหันหน้าเข้าหาฉัน ระหว่างที่นั่งกินข้าวอยู่ ฉันกับเขาสบตากันบ่อยมาก หลังจากกินข้าวเสร็จทุกคนก็แยกย้าย ฉันก็อยู่กับเพื่อนกันสองคน ออกจากโรงอาหารไปหาที่นั่งเย็นๆ และฉันก็เดินไปเจอเขานั่งทำรายงานกลุ่มกับเพื่อนๆ เขานั่งอยู่ท้ายอาคาร ฉันเลยเดินไปหน้าอาคาร และพยายามหาที่นั่ง ก็พบว่าเขามองฉันอยู่ก่อนแล้ว

ฉันชอบเขามากแต่ไม่รู้จะทำยังไงดี ให้มันหยุดอยู่แค่นี้หรือว่าจะสารภาพรักไป และเขาจะชอบฉันหรือป่าวก็ไม่รู้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่