สวัสดีค่าพี่สาวน้องสาวทุกๆคน วันนี้เราอยากจะมาเล่าเรื่องราวของเราให้ทุกคนฟัง กลับมานึกทีไรก็ขำตัวเองจริงๆ
เราเป็นสาวประเภทสองค่ะ รู้ตัวเองว่ามีใจเป็นผู้หญิงมาตั้งแต่จำความได้เลย แต่เราโชคดีตรงที่
ที่บ้านของเราทุกคนโอเคกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ พ่อกับแม่ขอแค่ให้เราเติบโตอย่างมีความสุขก็พอ แต่ก็นั่นแหละค่ะ
เห็นเค้าใจดีแบบนี้แต่เค้าก็ค่อนข้างที่จะเป็นห่วงเราเอามากๆเพราะว่าเส้นทางของการจะเป็นสาวประเภทสองนี่มัน
ค่อนข้างที่จะเสี่ยง เช่น เทคฮอร์โมน ทำศัลยกรรม หรือการยอมรับในสังคม ซึ่งสมัยก่อนทุกคนก็น่าจะรู้ว่า
ประเทศเราไม่ได้ยอมรับสาวประเภทสองขนาดนั้น เป็นธรรมดาที่พ่อกับแม่ของเราเค้าจะกังวลในส่วนนี้
ตอนประถมเรายังไม่ค่อยมีแววออกสาวเท่าไหร่เพราะว่าต้องตัดผมสั้นทรงนักเรียนนี่แหละค่ะ5555
เป็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนนึงแต่จิตใจก็เป็นเหมือนเด็กผู้หญิงเลยนะ เราชอบเล่นกับเพื่อนสาว เล่นแบบที่ผู้หญิงเค้าเล่นกัน
คนรอบข้างก็เอ็นดูเราเป็นเหมือนเด็กผู้หญิงคนนึงเลย>< ตอนนั้นเราผิวคล้ำๆค่ะเพราะชอบไปเล่นตากแดดกับเพื่อนๆ
กระโดดยางเอย ขายของเอยใดๆ มาจริงจังว่าจะเปลี่ยนตัวเองให้ละมุนขึ้นตอน ป.6 นี่แหละค่ะ
และนี่คือเราเองตอนม.ต้นค่ะ เป็นเด็กผู้ชายนุ่มนิ่มคนนึงที่อยากจะสวย อยากจะเป็นผู้หญิงผมยาว
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมรูปมอต้นของเรา เราถึงผมยาว ใช่มั้ยคะ? จริงๆแล้วทางโรงเรียนอนุญาตให้เราไว้ผมยาวได้ค่ะ
เพราะว่าเราเป็นเด็กกิจกรรม เราโชคดีมากๆ ที๋โรงเรียนใจดีกับเรา แต่ก็ไม่ได้ไว้ผมยาวอะไรมากนะคะ
เป็นแค่ผมสั้นประมาณติ่งหูแบบในรูปเลย ช่วงนั้นผิวคล้ำมากๆ เพราะว่ากิจกรรมที่โรงเรียนแน่นสุดอะไรสุด
ไม่มีเค้าโครงหน้าแบบปัจจุบันเลยตอนนั้นแอบเขิน><
เราเริ่มเทคฮอร์โมนตั้งเเต่ ป.6 ค่ะแต่ว่าอยู่ในความดูแลของแม่นะ แม่ก็คอยช่วยดูช่วยเตือนตลอด
ถ้าพูดถึงเรื่องความละมุน มันก็ยังไม่ถึงขนาดนั้นนะ เเค่รู้สึกว่าพอช่วงเข้า ม.1 เราผิวดีขึ้น ผิวใสขึ้น
ส่วนเรื่องหน้าอกยังไม่เห็นผลค่ะ เพราะว่าเรากินแค่ฮอร์โมน ยังไม่ได้กินยากดฮอร์โมนเพศชายมันก็ยังเลยไม่ละมุนแบบเนียนนี
ช่วงนั้นเราก็เริ่มดัดฟันแล้ว การดัดฟันไม่รู้คนอื่นคิดว่ายังไงนะ แต่สำหรับเราการดัดฟันเป็นศัลยกรรมสิ่งแรกเลยที่เรารู้สึกว่า
โครงหน้ามันเปลี่ยน ลองดูอย่างในรูป เราไม่ได้ทำศัลยกรรมอะไรเลยนะคะ แต่มันช่างแตกต่างจากรูปแรกจริงๆ55555
เราเริ่มหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น เริ่มมีเค้าโครงน้องนีมาบ้างแล้ว ทุกครั้งที่ได้แต่งหน้าแต่งตัวในงานโรงเรียน
เรามีความสุขทุกๆครั้งเลย และก็ทำเต็มที่มากๆ
ความภาคภูมิใจอีกช่วงในตอนม.ปลายคือ เราได้เป็นนางงามเดินสาย เราไปแทบทุกเวทีที่ให้โอกาสสาวประเภทสองได้เข้าประกวด
แต่ถึงบางที่จะไม่ได้ชนะได้แค่รางวัลชมเชย หรือขวัญใจตากล้อง เราก็ภูมิใจทุกครั้งเลยค่ะเพราะเรารักในสิ่งที่ทำอยู่
ช่วงประกวดเราก็ได้เงินรางวัลมาเยอะพอสมควรเก็บจากเวทีนั้นเวทีนี้ จนสามารถเก็บเงินได้ก้อนนึงเพื่อเอาไปทำจมูกค่ะ
มาแล้วจมูกซีรี่ส์แรกของชุ้นนทำทั้งทีก็ทำดีๆไปเลย จะได้สวยเป๊ะก่อนเข้ามหาลัย พอเราพักฟื้นเรื่องการทำจมูกเสร็จเราก็ดินสายนางงามต่อเรื่อยๆค่ะ
จนเราได้มีเป้าหมายที่สูงขึ้นคือ อยากลงเข้าประกวดมิสทิฟฟานี อยากลองได้ไปขึ้นเวทีใหญ่ๆสักครั้งนึง
เรากลับมาฮึดและดูแลตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิมไปอีกเท่าตัว เริ่มไปทำจมูก หุ่นของเราเข้ารูปมากขึ้น
เริ่มมีทรวดทรงองค์เอวเพราะเริ่มเทคฮอร์โมนใหม่ให้มีความเป็นผู้หญิงมากขึ้นกว่าเดิม

และนี่คือเราตอนเข้ามหาวิทยาลัยปี1ค่ะ รู้สึกไม่ผิดหวังในตัวเองเลยที่เราดูแลตัวเองเยอะขึ้นมากๆ ช่วงอยู่มหาวิทยาลัยเราเป็นส่วนกลาง ทำกิจกรรมตลอดทั้งของทางมหาวิทยาลัย ของคณะด้วย ในช่วงนั้นก็ยังคงเดินสายประกวดนางงามเวทีเล็กๆมาเรื่อยๆเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของตัวเองให้ได้มากที่สุด รอเวลาที่เราพร้อมไปประกวดเวทีใหญ่ ตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเราก็แฮปปี้มากค่ะได้ทั้งเรียนทั้งทำกิจกรรมอย่างเต็มที่ ได้มิตรภาพดีๆเยอะเลย และก็ได้ความรู้เรื่องความสวยความงามมาอีกเพียบเพราะว่ามีรุ่นพี่สาวประเภทสองคอยแนะนำเราตลอด พอเข้าปี3 เทอม2 ก็มีเรื่องพีคกับเรา2เรื่องค่ะ เรื่องแรกคือเราได้ไปทำหน้าอก>< ปังมาก เพิ่มความเป็นนีในตัวสุด เราหาข้อมูลมาเยอะมากว่าจะทำที่ไหนดี ทั้งศึกษาเอง สอบถามพี่ๆสาวประเภทสองในมอด้วย จนโอเคได้คลินิคที่คิดว่าตอบโจทย์ละ เลยตัดสินใจนัดคิวแล้วก็ไปทำเลยค่ะ หลังทำก็นอนเป็นผักไปอาทิตย์กว่าๆ พออาการดีขึ้นก็เตรียมตัวเฉิดฉายค่ะ นมมาความปังบังเกิด แฮปปรี้ และอีกความพีคที่พีคสุดๆก็คือหลังทำนมเราอยากจะเปลี่ยนฮอร์โมนเพราะว่าใกล้จะเข้าประกวดมิสทิฟฟานีแล้ว อยากจะละมุนกว่านี้ แต่ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเรา….

นั่นแหละค่ะตามภาพสิวขึ้นหน้าเราหนักมาก ไม่ต้องบอกก็รู้ค่ะว่าที่สิวขึ้นแบบนี้เพราะอะไร เราขอไม่พูดนะคะว่าตอนนั้นเรากินยาคุมยี่ห้อไหน เพราะเราคิดว่าแต่ละคนมีเอฟเฟคต่างกันค่ะ ตัวที่เรากินแล้วไม่ดีคนอื่นอาจจะกินแล้วดีก็ได้ เราก็ไม่ได้โทษใครนะคะ โทษตัวเองนี่แหละ ยาคุมตัวนี้เหมือนว่ามันจะแรงไปทำให้ฮอร์โมนสวิง ร่างกายปรับตัวไม่ทันค่ะ สิวเลยขึ้นเต็มหน้า แทบทั้งหน้าเลยด้วย เราเครียดมากร้องไห้ทุกวันเลย ตอนแรกมันก็ดีอยู่แล้ว แต่เราดันไม่พอใจอยากสวยโดยที่ไม่ศึกษาให้ดีก่อน ความฝันที่อยากลงเข้าประกวดมิสทิฟฟานีของเราเริ่มเลือนลางแล้ว หน้าเป็นแบบนี้จะไปลงประกวดได้ไง ถึงแต่งหน้ากลบมันก็ไม่ได้จริงๆค่ะ
เราจิตตกมาก กังวลทุกอย่างเพราะอีกไม่ถึงปีเราจะต้องไปประกวดแล้ว แต่ตอนนี้คือสิวขึ้นไม่พักเลย เราคิดว่าเออเลิกกินยาคุมแผงนั้นไปคงจะดีขึ้น แต่ผลก็คือไม่เลยค่ะ ฮอร์โมนเราสวิงมากๆ นับวันสิวยิ่งขึ้นเพิ่ม ยิ่งเครียดก็ยิ่งขึ้น เราก็ไปซื้อยาทาสิวมาใช้ ซื้อสกินแคร์ใหม่หมดเลยทั้งเซท แต่มันก็ไม่ค่อยดีขึ้นเลยค่ะ เราพยายามรักษาด้วยตัวเองได้อยู่ประมาณ 2 เดือนค่ะ อาการก็ทุเลาลงแต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นขนาดนั้น จนพี่ที่มหาลัยแนะนำให้เราไปเข้าคลินิครักษาสิวค่ะอาการถึงดีขึ้น ถึงบอกในความโชคร้ายของเราก็ยังมีความโชคดีที่คนรอบข้างเราดีมากๆ ให้คำปรึกษาคำแนะนำเราดีตลอด

นี่คือผิวหน้าของเราก่อนเข้าคลินิคค่ะ ทั้งสิวอักเสบ รอยดำรอยแดงเต็มหน้าเลย กลัวไปรักษาแล้วเอาเงินไปละลายน้ำทิ้งมาก แต่ตอนนั้นคิดแค่ว่าต้องทำอะไรสักอย่าง อยู่เฉยๆแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดไม่ลองไม่รู้ เราก็ทนเห็นตัวเองในสภาพแบบนี้ไม่ได้จริงๆ ความฝันของเรามันจะมาจบเพราะแค่เรื่องสิวๆไม่ได้ มาถึงตรงนี้บางคนอาจจะคิดว่า ก็รักษาตัวไปสิไว้หน้ากลับมาหายดีแล้วค่อยไปประกวดใหม่ แต่สำหรับเรานะ เรามีเป้าหมายค่ะ ถ้าอยากทำอะไรแล้วเราก็จะมุ่งมั่นกับมันมากๆ มาคิดถึงสิ่งที่เราทำมาตั้งแต่แรก เราทำเพื่อเป้าหมายเราจะมาตายตอนจบไม่ได้เด็ดขาด!! ถึงแม้ระหว่างทางจะมีเป๋ไปบ้างแต่พอกลับมาตั้งสติเราก็ฮึดสู้


รักษาไป1เดือนก็ประมาณนี้ค่ะสิวก็ยังไม่หมดเเต่ก็ดีกว่าตอนเเรกอยู่นะ เราก็เอาวะ เดือนนึงยังเห็นผลเลยรักษาต่อไปเรื่อยๆมันก็น่าจะต้องดีขึ้นไปอีกอย่างน้อยก็ไม่เสียเงินฟรีแหละ เราก็ได้ยากลับมาใช้ก็ทาเช้าเย็นเลยค่ะ เเล้วก็ปรับเปลี่ยนนิสัยของตัวเองด้วย งดของมัน ไม่จับหน้าโดยที่ยังไม่ล้างมือ หมั่นรักษาความสะอาด ไม่ใช้ครีมมั่วซั่ว เคสเราคือต้องกดสิวที่อยู่ใต้ผิวหนังให้ออกมาให้หมด ช่วง1-4เดือนแรก คุณหมอนัดให้เราเข้าไปกดสิวทุกอาทิตย์เลยค่ะ เค้าวิเคราะห์ดีมากๆ รู้ว่าเราควรเริ่มรักษาจากจุดไหนอาการ มันก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต้มไปปุ๊บอีกวันแทบจะยุบเลยอะ เรื่องรอยสิวก็ดีขึ้นมากๆ เรากังวลเรื่องรอยสิวที่สุดเลย เพราะมันค่อนข้างที่จะรักษายาก แต่ก็โชคดีที่เรายังไหวตัวทันรีบไปรักษาหน้าก่อนที่มันจะเรื้อรังไปมากกว่านี้
หลังจากรักษาสิวมาได้ครบ 7 เดือน หน้าเราก็ดีขึ้นมากเลยค่ะ พวกสิวอักเสบเเทบไม่มีเลย ตอนนี้ก็เหลือเเต่รอยเล็กๆ
เราก็ไปกดสิวนานๆที เดือนละครั้งหรือบางทีก็สองเดือนครั้งค่ะ ช่วงที่ทำการรักษาได้ยากลับมาทาเยอะมากๆ
เราเลิกใช้เซ็ทครีมที่ซื้อมาตอนเเรกเลยนะ ใช้ยาของคลินิคอย่างเดียวเลย ตอนนั้นคิดว่าฉันต้องหาย เวทีรอฉันอยู่!!
พอรักษาไปสักพักหน้าของเราก็ดีขึ้น คุณหมอก็นัดไม่ถี่เหมือนแต่ก่อนแล้ว หรือก็แล้วเเต่เราเลยค่ะ ถ้ารู้สึกว่าตอนนี้หน้าดี
ไม่จำเป็นต้องหาหมอแล้วก็ไม่ต้องไป แต่เราจะมีเข้าไปคลินิคบ้างก็ต่อเมื่อช่วงที่รู้สึกว่าช่วงนั้นโทรมๆก็จะเเอบเข้าไปทำทรีทเม้นกรุบๆ
ชอบตรงที่เค้าไม่เลี้ยงไข้เลย ไม่ไปหาเป็นเดือนๆสิวก็ไม่ได้ขึ้นเพิ่มเท่าไหร่ ต้องขอบคุณพี่สาวคนที่นางแนะนำคลินิคนี้ให้เรา
คิดว่าคงต้องตุยเย่ไปพร้อมกับสิวซะแล้วTT
และแล้วเวลาสำคัญของเราก็มาถึง เราได้ลงประกวดมิสทิฟฟานีเป็นที่เรียบร้อยแล้วจ้าา แต่ผลการประกวดก็คือเก้ว ถามว่าเสียใจมั้ย เราบอกเลยว่าไม่เสียใจเลยค่ะ แค่ได้มายืนอยู่บนเวทีที่ใฝ่ฝันก็ขนลุกแล้ว หลังจากนี้ก็จะไปฝึกฝนมาอีก คราวหน้าเราจะทำให้ได้ดีกว่านี้ให้ได้ หลังจากประกวดมิสทิฟฟานีเสร็จเราก็ยังคงเดินสายประกวดเวทีนางงามของสาวประเภทสองไปอีก มาคิดดูแล้ว เราประกวดมาไม่ต่ำกว่าร้อยเวทีทั่วประเทศไทยแล้วนะ แอบนับถือความพยายามของตัวเองเหมือนกัน แต่ทุกๆเวทีก็จะสอนให้เราเก่งขึ้นเราเชื่อแบบนั้น
โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต...ดูเอาเองเลยจ้า เส้นทางความสวยที่เลือกเอง