อีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 คือธุรกิจร้านอาหาร ที่หน้าร้านถูกปิดเกือบ 100% ในช่วง Lockdown ที่ผ่านมา แต่ในวิกฤติก็ยังมีโอกาสอยู่ เพราะถึงแม้หน้าร้านจะถูกปิด แต่เมื่อคนทำงานหลายคนต้องอยู่ที่บ้านก็ทำให้การใช้บริการส่งอาหาร (Delivery) เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน
วันนี้ JobThai Tips เลยอยากพาทุกคนไปพูดคุยในเรื่องการจ้างงานและการรับมือกับ COVID-19 ของธุรกิจอาหารจาก พี่เบน ภาณุวัฒน์ เบ็ญเราะมาน CPO ของ Minor Food ซึ่งธุรกิจร้านอาหารภายใต้แบรนด์ไมเนอร์ ฟู้ด เช่น The Pizza Company, Swensen, Sizzler, Dairy Queen, Burger King, Bonchon
ภาพรวมของธุรกิจร้านอาหารและบริการฟาสต์ฟู้ดในปี 2563 ที่ผ่านมา
เมื่อมีการ Lockdown เกิดขึ้น ทุกธุรกิจของ Minor International ได้รับผลกระทบหมด Minor Food และธุรกิจอาหารเอง เมื่อไม่มีใครเข้ามารับประทานอาหารที่ร้าน ก็เป็นจุดที่ทำให้ยอดขายลดลงและทำให้พนักงานไม่มีงานทำ แต่ก็ยังมีโอกาสในการขายผ่านออนไลน์และบริการ Food Delivery ซึ่งแม้ยอดขายหน้าร้านจะลดลง แต่ยอดขายจาก Food Delivery ก็เพิ่มขึ้นถึง 200% เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่บ้านได้มีอาหารรับประทาน
Minor Food ก็เป็นอีกผู้ให้บริการที่พร้อมทั้งในเรื่องของการจัดการ การดำเนินการ พื้นที่ที่ครอบคลุม ความหลากหลายของอาหาร และที่สำคัญในกลุ่ม Minor Food เองก็ได้เน้นเรื่องของ Food Safety มาก ๆ ในช่วงเวลาที่เกิดสถานการณ์ COVID-19 ก็มีมาตรการความสะอาดที่เข้มแข็ง มีแคมเปญต่าง ๆ เกิดขึ้น เพื่อให้ลูกค้าทุกคนปลอดภัยจริง ๆ และในแง่ของการทำงาน ทุกคนก็ทำงานอย่างมืออาชีพ ถึงแม้ว่าจะ Lockdown ก็ยังพยายามที่จะช่วยเหลือและส่งอาหารถึงลูกค้าได้อย่างตรงเวลา และควบคุมคุณภาพทั้งเรื่องอาหารและบริการแก่ลูกค้า
การบริหารทรัพยากรบุคคลหน้าร้านอาหารในช่วง Lockdown
Delivery โตขึ้นค่อนข้างเยอะ Minor Food เองนอกเหนือจาก 1112 Delivery หรือแอปพลิเคชัน 1112 ที่เป็นช่องทางหลักในการสั่งอาหารกับ Minor Food ก็ยังมีช่องทางจาก Grab และFood Panda แต่ช่องทางเหล่านี้ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย และทำให้รายจ่ายเพิ่มขึ้นกำไรลดลง เลยได้แบ่งพนักงานหน้าร้านเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 พนักงานที่มีความสำคัญมาก ๆ ในช่วงขับเคลื่อนตอนนั้น คือพนักงานขับรถส่งอาหาร ซึ่ง Minor Food เองก็พยายามจัดการพนักงานว่าใครสามารถลงไปขับรถส่งอาหารได้บ้าง หรือ Call Center ก็ได้แบ่งพนักงานที่ไม่มีงานในร้านอาหารไปช่วยในการรับโทรศัพท์ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดก็คือการดูแลถึงผลกระทบและความปลอดภัยของพนักงาน ซึ่งในกลุ่มพนักงานขับรถส่งอาหารก็มีการทำประกันที่คลอบคลุมให้พวกเขา เพื่อให้พวกเขามั่นใจเวลาออกไปส่งอาหารหรือรับอาหารข้างนอก แม้จะเป็นพนักงาน Part-time ก็ตาม
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มของพนักงานในร้านทั้ง Full-time และ Part-time เนื่องจากห้างฯ ปิดพวกเขาก็อาจตกงาน Minor Food เองจึงต้องคอยสังเกตว่าร้านอาหารไหนที่มียอดสั่ง Delivery เยอะ จากนั้นจึงย้ายพนักงานไปอยู่ที่นั่นชั่วคราว อย่างร้าน Sizzler ที่ลูกค้าไม่สามารถนั่งรับประทานอาหารภายในร้านได้ พนักงานก็อาจถูกย้ายไปทำร้านอื่น ๆ ในเครืออย่าง The Pizza Company หรือ Bonchon เพื่อให้เขามีงานทำและมีรายได้ในการดำรงชีวิต
ซึ่งใน Minor Food เองก็ตั้ง War Room สำหรับประชุมในเรื่องของการส่งอาหาร คุณภาพอาหาร และความปลอดภัย รวมทั้งเรื่องของคนที่มีบางคนสามารถโยกย้ายไปทำงานที่อื่นในเครือ Minor International ได้ และก็มีเงินพิเศษเพื่อให้พนักงานสามารถดำรงชีวิตได้ นั่นก็คือสิ่งที่ Minor Foodพยายามดูแลพนักงานทั้งในเรื่องความปลอดภัย และอนาคตไปพร้อมกัน
การรับสมัครพนักงานขึ้นอยู่กับ Restaurant Manager ที่เป็นคนตัดสินใจ
ใน Minor Food ค่อนข้างให้อำนาจกับพนักงานและหัวหน้างาน โดยเฉพาะพนักงานที่เป็นหัวหน้างานที่ร้าน (Restaurant Manager) การรับคนก็ขึ้นอยู่กับเขาเลย เขามีอำนาจเต็มที่ในการที่จะจ้างคนมาทำงาน เขาจะรู้ว่าในการวางแผนร้านหนึ่งร้าน จะมียอดขายประมาณเท่าไหร่ มีการวางแผนกำลังคน มีการทำค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หรือต้องการคนกี่คน เพราะฉะนั้นเมื่อพูดถึงการรับคนเมื่อมีตำแหน่งว่างเข้ามา Restaurant Manager ก็สามารถรับพนักงานที่หน้าร้านได้เลย
คนที่ต้องการสมัครงาน ใน Minor Food ก็สามารถเดินเข้ามาที่หน้าร้านได้เลย โดยใช้เพียงบัตรประชาชนเพราะ Minor Food มีโปรแกรม Smart Career ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการรับคน Restaurant Manager เขาก็จะรู้เทคนิคในการสัมภาษณ์ คาแรคเตอร์แบบไหนที่เหมาะกับร้านอาหารที่ดูแล เพราะคาแรคเตอร์ของ The Pizza Company ก็แบบหนึ่ง Swensen’s ก็อีกแบบหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญหากต้องการร่วมงานกับ Minor Food ก็คือ คุณต้องรักการบริการ คุณต้องชอบในเรื่องอาหาร และคุณต้องมี Service Mind ที่ดี สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งพื้นฐานที่ขาดไม่ได้
หากอยากประสบความสำเร็จใน Minor Food คุณต้องมี “Behavior Core Success”
ในปีที่ผ่านมา Minor Food ก็ได้ทำ Competency (ความสามารถเชิงสมรรถนะ) ตัวใหม่เรียกว่า “Behavior Core Success” (พฤติกรรมที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จใน Minor Food) ซึ่งทุกพฤติกรรมมองในแต่ละระดับตั้งแต่น้องที่เข้ามาสมัครงานใหม่ หรือเป็นพนักงานที่ร้านเขาเป็นยังไงบ้าง เช่น ถ้าเป็นพนักงานที่เป็นระดับร้านอาหาร พฤติกรรมเหล่านี้เป็นยังไงบ้าง
Teamwork การทำงานเป็นทีมภายในร้านอาหาร
Open Excellent ประสิทธิภาพในการทำงาน
Adaptable การปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และรูปแบบต่าง ๆ
Customer Focus ความเข้าใจและมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า
Learning Skill เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ
ซึ่งหากพนักงานในร้านอาหารมีพฤติกรรมพวกนี้ก็จะประสบความสำเร็จในการทำงาน นอกเหนือจากนี้ก็จะมีทักษะเรื่อง Product มีทักษะในการทำงานตามหน้าที่ที่รับชอบ (Functional Skill) หรือกระทั่งวันนี้ที่ธุรกิจร้านอาหารเปลี่ยนก็ต้องมีทักษะและการจัดการในเรื่องดิจิทัล ซึ่ง Minor Food จะมีการพัฒนาความรู้ในเรื่องดิจิทัล ธุรกิจ การจัดการ และความรู้ในเรื่องคนให้มากขึ้น ให้พนักงานเก่งมากขึ้นและพัฒนามากขึ้นกว่าเดิม
ทักษะสำคัญที่คนทำงานควรมี จากพี่เบน CPO ของ Minor Food
Minor Food เป็นองค์กรที่เก่งในเรื่อง Operational Excellence เพราะหากมองย้อนกลับไป ที่นี่มีกระบวนการสร้างคนที่ดีมาก ๆ มีการสร้างมาตรฐานเดียวกันในทุก ๆ สาขา แต่ในวันนี้เองต้องบอกว่ามันมีหลายเรื่องที่เข้ามาทำให้ทักษะต้องเปลี่ยนไป ทำให้คนทำงานต้องมี “6 Capabilities” คือ
- Operation Excellent
- People
- Customer Centricity
- Business and Finance
- Innovation
- Digital
นอกจากนี้พี่เบนยังได้แชร์เรื่องการบริหารคนของ Minor food อีกมากมาย สามารถไปฟังสัมภาษณ์แบบเต็ม ๆ ได้
ที่นี่
การจ้างงานและการรับมือกับโควิดของธุรกิจอาหารเป็นยังไงบ้าง
วันนี้ JobThai Tips เลยอยากพาทุกคนไปพูดคุยในเรื่องการจ้างงานและการรับมือกับ COVID-19 ของธุรกิจอาหารจาก พี่เบน ภาณุวัฒน์ เบ็ญเราะมาน CPO ของ Minor Food ซึ่งธุรกิจร้านอาหารภายใต้แบรนด์ไมเนอร์ ฟู้ด เช่น The Pizza Company, Swensen, Sizzler, Dairy Queen, Burger King, Bonchon
ภาพรวมของธุรกิจร้านอาหารและบริการฟาสต์ฟู้ดในปี 2563 ที่ผ่านมา
เมื่อมีการ Lockdown เกิดขึ้น ทุกธุรกิจของ Minor International ได้รับผลกระทบหมด Minor Food และธุรกิจอาหารเอง เมื่อไม่มีใครเข้ามารับประทานอาหารที่ร้าน ก็เป็นจุดที่ทำให้ยอดขายลดลงและทำให้พนักงานไม่มีงานทำ แต่ก็ยังมีโอกาสในการขายผ่านออนไลน์และบริการ Food Delivery ซึ่งแม้ยอดขายหน้าร้านจะลดลง แต่ยอดขายจาก Food Delivery ก็เพิ่มขึ้นถึง 200% เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่บ้านได้มีอาหารรับประทาน
Minor Food ก็เป็นอีกผู้ให้บริการที่พร้อมทั้งในเรื่องของการจัดการ การดำเนินการ พื้นที่ที่ครอบคลุม ความหลากหลายของอาหาร และที่สำคัญในกลุ่ม Minor Food เองก็ได้เน้นเรื่องของ Food Safety มาก ๆ ในช่วงเวลาที่เกิดสถานการณ์ COVID-19 ก็มีมาตรการความสะอาดที่เข้มแข็ง มีแคมเปญต่าง ๆ เกิดขึ้น เพื่อให้ลูกค้าทุกคนปลอดภัยจริง ๆ และในแง่ของการทำงาน ทุกคนก็ทำงานอย่างมืออาชีพ ถึงแม้ว่าจะ Lockdown ก็ยังพยายามที่จะช่วยเหลือและส่งอาหารถึงลูกค้าได้อย่างตรงเวลา และควบคุมคุณภาพทั้งเรื่องอาหารและบริการแก่ลูกค้า
การบริหารทรัพยากรบุคคลหน้าร้านอาหารในช่วง Lockdown
Delivery โตขึ้นค่อนข้างเยอะ Minor Food เองนอกเหนือจาก 1112 Delivery หรือแอปพลิเคชัน 1112 ที่เป็นช่องทางหลักในการสั่งอาหารกับ Minor Food ก็ยังมีช่องทางจาก Grab และFood Panda แต่ช่องทางเหล่านี้ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย และทำให้รายจ่ายเพิ่มขึ้นกำไรลดลง เลยได้แบ่งพนักงานหน้าร้านเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 พนักงานที่มีความสำคัญมาก ๆ ในช่วงขับเคลื่อนตอนนั้น คือพนักงานขับรถส่งอาหาร ซึ่ง Minor Food เองก็พยายามจัดการพนักงานว่าใครสามารถลงไปขับรถส่งอาหารได้บ้าง หรือ Call Center ก็ได้แบ่งพนักงานที่ไม่มีงานในร้านอาหารไปช่วยในการรับโทรศัพท์ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดก็คือการดูแลถึงผลกระทบและความปลอดภัยของพนักงาน ซึ่งในกลุ่มพนักงานขับรถส่งอาหารก็มีการทำประกันที่คลอบคลุมให้พวกเขา เพื่อให้พวกเขามั่นใจเวลาออกไปส่งอาหารหรือรับอาหารข้างนอก แม้จะเป็นพนักงาน Part-time ก็ตาม
กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มของพนักงานในร้านทั้ง Full-time และ Part-time เนื่องจากห้างฯ ปิดพวกเขาก็อาจตกงาน Minor Food เองจึงต้องคอยสังเกตว่าร้านอาหารไหนที่มียอดสั่ง Delivery เยอะ จากนั้นจึงย้ายพนักงานไปอยู่ที่นั่นชั่วคราว อย่างร้าน Sizzler ที่ลูกค้าไม่สามารถนั่งรับประทานอาหารภายในร้านได้ พนักงานก็อาจถูกย้ายไปทำร้านอื่น ๆ ในเครืออย่าง The Pizza Company หรือ Bonchon เพื่อให้เขามีงานทำและมีรายได้ในการดำรงชีวิต
ซึ่งใน Minor Food เองก็ตั้ง War Room สำหรับประชุมในเรื่องของการส่งอาหาร คุณภาพอาหาร และความปลอดภัย รวมทั้งเรื่องของคนที่มีบางคนสามารถโยกย้ายไปทำงานที่อื่นในเครือ Minor International ได้ และก็มีเงินพิเศษเพื่อให้พนักงานสามารถดำรงชีวิตได้ นั่นก็คือสิ่งที่ Minor Foodพยายามดูแลพนักงานทั้งในเรื่องความปลอดภัย และอนาคตไปพร้อมกัน
การรับสมัครพนักงานขึ้นอยู่กับ Restaurant Manager ที่เป็นคนตัดสินใจ
ใน Minor Food ค่อนข้างให้อำนาจกับพนักงานและหัวหน้างาน โดยเฉพาะพนักงานที่เป็นหัวหน้างานที่ร้าน (Restaurant Manager) การรับคนก็ขึ้นอยู่กับเขาเลย เขามีอำนาจเต็มที่ในการที่จะจ้างคนมาทำงาน เขาจะรู้ว่าในการวางแผนร้านหนึ่งร้าน จะมียอดขายประมาณเท่าไหร่ มีการวางแผนกำลังคน มีการทำค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หรือต้องการคนกี่คน เพราะฉะนั้นเมื่อพูดถึงการรับคนเมื่อมีตำแหน่งว่างเข้ามา Restaurant Manager ก็สามารถรับพนักงานที่หน้าร้านได้เลย
คนที่ต้องการสมัครงาน ใน Minor Food ก็สามารถเดินเข้ามาที่หน้าร้านได้เลย โดยใช้เพียงบัตรประชาชนเพราะ Minor Food มีโปรแกรม Smart Career ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการรับคน Restaurant Manager เขาก็จะรู้เทคนิคในการสัมภาษณ์ คาแรคเตอร์แบบไหนที่เหมาะกับร้านอาหารที่ดูแล เพราะคาแรคเตอร์ของ The Pizza Company ก็แบบหนึ่ง Swensen’s ก็อีกแบบหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญหากต้องการร่วมงานกับ Minor Food ก็คือ คุณต้องรักการบริการ คุณต้องชอบในเรื่องอาหาร และคุณต้องมี Service Mind ที่ดี สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งพื้นฐานที่ขาดไม่ได้
หากอยากประสบความสำเร็จใน Minor Food คุณต้องมี “Behavior Core Success”
ในปีที่ผ่านมา Minor Food ก็ได้ทำ Competency (ความสามารถเชิงสมรรถนะ) ตัวใหม่เรียกว่า “Behavior Core Success” (พฤติกรรมที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จใน Minor Food) ซึ่งทุกพฤติกรรมมองในแต่ละระดับตั้งแต่น้องที่เข้ามาสมัครงานใหม่ หรือเป็นพนักงานที่ร้านเขาเป็นยังไงบ้าง เช่น ถ้าเป็นพนักงานที่เป็นระดับร้านอาหาร พฤติกรรมเหล่านี้เป็นยังไงบ้าง
Teamwork การทำงานเป็นทีมภายในร้านอาหาร
Open Excellent ประสิทธิภาพในการทำงาน
Adaptable การปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และรูปแบบต่าง ๆ
Customer Focus ความเข้าใจและมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า
Learning Skill เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ
ซึ่งหากพนักงานในร้านอาหารมีพฤติกรรมพวกนี้ก็จะประสบความสำเร็จในการทำงาน นอกเหนือจากนี้ก็จะมีทักษะเรื่อง Product มีทักษะในการทำงานตามหน้าที่ที่รับชอบ (Functional Skill) หรือกระทั่งวันนี้ที่ธุรกิจร้านอาหารเปลี่ยนก็ต้องมีทักษะและการจัดการในเรื่องดิจิทัล ซึ่ง Minor Food จะมีการพัฒนาความรู้ในเรื่องดิจิทัล ธุรกิจ การจัดการ และความรู้ในเรื่องคนให้มากขึ้น ให้พนักงานเก่งมากขึ้นและพัฒนามากขึ้นกว่าเดิม
ทักษะสำคัญที่คนทำงานควรมี จากพี่เบน CPO ของ Minor Food
Minor Food เป็นองค์กรที่เก่งในเรื่อง Operational Excellence เพราะหากมองย้อนกลับไป ที่นี่มีกระบวนการสร้างคนที่ดีมาก ๆ มีการสร้างมาตรฐานเดียวกันในทุก ๆ สาขา แต่ในวันนี้เองต้องบอกว่ามันมีหลายเรื่องที่เข้ามาทำให้ทักษะต้องเปลี่ยนไป ทำให้คนทำงานต้องมี “6 Capabilities” คือ
- Operation Excellent
- People
- Customer Centricity
- Business and Finance
- Innovation
- Digital
นอกจากนี้พี่เบนยังได้แชร์เรื่องการบริหารคนของ Minor food อีกมากมาย สามารถไปฟังสัมภาษณ์แบบเต็ม ๆ ได้ ที่นี่