ธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทาน(A)..และ..อุปาทาน(B) ....ไม่ใช่ A ไปมี B... แต่ C..ไปมี B ใน..A

กระทู้สนทนา
[๑๙๐] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดง.....

  "  ธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทาน....และ....อุปาทาน "

เธอทั้งหลายจงฟังธรรมนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่ง อุปาทาน และอุปาทานเป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย..... ธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทานและอุปาทาน นั้น คือ

- รูปที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก ชักให้ใคร่ ชวนให้ กำหนัด
  เหล่านี้เรียกว่า...ธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทาน

- ความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจในรูปนั้น.....เป็นตัวอุปาทานในรูปนั้น

{..เสียง..
 ...กลิ่น..
 ...รส...
 ...สัมผัส..}ฯลฯ

- ธรรมารมณ์ที่จะพึงรู้แจ้งด้วยใจ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ น่ารัก ชักให้ใคร่ ชวนให้กำหนัด
  เหล่านี้เรียกธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทาน

- ความกำหนัด ด้วยอำนาจความพอใจในธรรมารมณ์นั้น เป็นตัวอุปาทานในธรรมารมณ์นั้น
จบสูตรที่ ๑๐

https://etipitaka.com/read/thai/18/111/


สรุป...

1..ถ้า A = ธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทาน
         B = อุปาทาน
     ก็หมายความว่า  A  ≠  B

2. A = ขันธ์๕....มันไม่ได้เป็ผู้มีอุปาทาน   แต่มันถูกอุปาทาน(B)...โดยสิ่งอื่น
    ดังนั้น...ไอ้เจ้าขันธ์๕(A)..มันถอนอุปาทาน(B)ไม่ได้  เพราะมันไม่ใช่ผู้มีอุปาทาน(B)...  มันเป็นเพียงผู้ถูกอุปาทาน

3. ก็แล้วใครเป็นผู้มามีอุปาทาน(B)ในขันธ์๕(A)..หละ?   
    พระองค์เรียกผู้นั้นว่า

  " สัตว์ - บุคคล - เธอ - พวกเธอทั้งหลาย - เรา - พวกเราทั้งหลาย...(C) "
       ☝☝☝☝☝☝-------นี่หละ..ผู้ที่มามีอุปาทาน(B)...ในอุปาทานขัธ์๕(A)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4..เพราะฉนั้น... เมื่อไปค้นหา อุปาทาน(B)... ในขันธ์๕(A)... มันจะหาเจอหรือ?   
    เพราะว่า อุปาทาน(B)มันไม่ได้อยู่ที่ ขันธ์๕(A)... แต่อยู่ที่...สัตว์-บุคคล(C)
    (...แต่จะเจอในอุปาทานขันธ์๕...นะ...)

    อุปามาเช่น  ผู้ติดบุหรี่...  ---> ผู้ติด(C)---อาการติด(B)---บุหรี่(A)
    เมื่อไปดูที่..บุหรี่(A)...ก็จะไม่สามารถค้นหา...อาการติด(B)..ในบุหรี่นั้น(A)ได้

5. เพิ่มเติม ครับ👉👉👉 https://ppantip.com/topic/39997788
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่