https://ppantip.com/topic/40329001
ตั้งแต่ปี2018จนถึงปลายปี2020เป็นช่วงเวลาแห่งความล้มเหลวในผลงานของทีมชาติเยอรมัน
ผลงานบอลโลกปี2018เป็นผลงานที่สร้างความน่าอับอายแก่ Die Mannshaftเป็นอย่างมาก
ถ้าท่านสังเกตุ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เยอรมันจะชนะทีมที่ส่วนมากไม่ใช่ทีมยักย์ใหญ่แห่งยุโรปเท่านั้น
อาทิ เบรารุส,เอสโตเนีย,ไอร์แลนด์เหนือ
นอกนั้นจะลงเอยด้วยการเสมอหรือไม่ก็ปราชัยซะส่วนใหญ่
ทีมที่พอจะสู้ได้อย่างสูสี แค่เนเธอร์แลนด์ ที่เยอรมันแพ้ 2ครั้ง จาก 4ครั้งที่พบกันหลังบอลโลก 2018
แถมเป็นดัตช์ยุคใหม่ปราศจากสามยอดนักเตะจากอดีต
อย่าง อาเยน ร็อบเบน,โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, และ เวสลี่ย์ ชไนด์เดอร์
ไม่เพียงแค่นั้น ต้นปี2019 โค้ชโยคิม เลิฟ ก็เริ่มคลั่งด้วยการปลดสามนักเตะผ่านศึกแชมป์โลกสามคนจากทีม
โธมัส มุลเล่อร์,แมตส์ ฮัมเมิ่ล, และ เจโรม บัวเตง แห่งสโมสรบาเยิร์น มิวนิค
เพราะโค้ชเชื่อว่า ทั้งสามนั้นอายุมากและผ่านช่วงท็อปฟอร์มมาแล้ว
ไม่เข้ากับระบบใหม่ของเลิฟ ที่อยากจะสร้างทีมใหม่ด้วยนักเตะที่เยาว์วัยกว่า
ซึ่งนั่นก็เข้าใจได้ แต่ผลงานนั้นไม่เป็นอย่างที่หวัง ทั้งๆที่ชื่อชั้นนักเตะนั้นดีพอควร
ผลงานทีมชาติที่ไม่น่าพอใจ วางตำแหน่งมั่วสั่วไปหมด
กองหน้าที่ไม่คมอย่าง ทิโม เวอร์เนอร์ และ ลูก้า วัลชมิดส์ที่ยังต้องเก็บประสบการณ์
กองกลางธรรมชาติแค่คนเดียว คือ โทนี่ โครส
และกองหลังที่พึ่งพาได้เพียงแค่ โยซัว คิมมิช ที่ถ้าพัฒนาฝีมือดีๆกับเสือใต้ อาจจะเป็นได้ดั่ง ฟิลิป ลาห์ม
และ นิคลาส ซูเล่ ที่บางทีเดี๋ยวดีเดี๋ยวไม่ดี
ยอดผู้รักษาประตู อย่าง มานูเอล นอยเออร์ ที่เซฟได้บ้างไม่ค่อยได้บ้างเพราะกองหลังหละหลวม
ผลที่ได้รับ คือผลเสมอที่ไม่สู้ดีนักในปี 2020 และของขวัญปีใหม่จากสเปนด้วยสกอร์ 6-0
โค้ชโยคิม เลิฟที่ได้ชื่อชั้นว่าอีโก้สูง อาจจะต้องกลืนน้ำลายตัวเอง
ในการกลับไปง้อ ให้สามนักเตะที่ไล่ออกไปกับมือ กลับมาร่วมทีมยูโรอีกครั้ง
เพื่อกู้ศักดิ์ศรีกลับมา หลังจากที่ความคิดตัวเองเละไม่เป็นท่า
รวมถึงแรงกดดันจากสื่อ นักเตะบางคน และ DFB ที่มีต่อตัวเลิฟเอง
ที่อยากจะเปิดรับนักเตะทั้งสามคนที่ถูกไล่ออกข้างต้นกลับมาร่วมทัพในยูโร
แถมอาชีพและตำแหน่งตัวเองอาจเป็นเดิมพันกับผลงานยูโร 2020+1
แต่เป็นเรื่องน่ายินดีที่ ฮันซี ฟลิกซ์ กุนซือแห่งเสือใต้ปัจจุบันและอดีตผู้ช่วยของเลิฟ
ได้สร้างสรรค์ผลงานให้บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งมีนักเตะทีมชาติทั้งอดีตและปัจจุบัน ในปี2020อย่างยอดเยี่ยม
โธมัส มุลเล่อร์ที่ฟอร์มตกช่วงบอลโลกและปี2019 ได้กลับมาเป็นคนเดิมเหมือนช่วง2010-2014อีกครั้งภายใต้การดูแลของฟลิกซ์
แมตส์ ฮัมเมิ่ลที่อาจจะช้าลงไปบ้างด้วยอายุ แต่ผลงานยังน่าชื่นชมในดอร์ตมุนด์ปัจจุบัน
เจโรม บัวเตงที่ผลงานยังได้มาตรฐานแม้ปัญหาชีวิตจะถาโถมเข้าใส่(แฟนสาวฆ่าตัวตาย)
และเด็กหนุ่มลูกครึ่งจากสโมสรเสือใต้ จามาล มุซิอาล่าร์
ที่ได้ตกลงใจลงเล่นทีมชาติเยอรมันแทนอังกฤษแล้ว
พูดง่ายๆคือ หากผนึกกำลังของยุคใหม่กับยุคเก่าเข้าด้วยกัน
เยอรมันอาจจะกลับมาเป็นทีมชาติที่เราเคยคุ้นเคยได้ในศึกยูโร
เพราะแม้แต่โทนี่ โครส ยังกล่าวกับตัวเลยว่า
ทีมชาตินั้นไม่ควรขาด
มุลเล่อร์,ฮัมเมิ่ล,บัวเตง จริงๆ
เยอรมันคือทีมชาติหนึ่งที่รักษามาตรฐานระดับท็อปมาร่วม12ปีจากบอลโลก2006
ทุกทัวร์นาเมนต์ใหญ่พวกเขามักจะเข้ารอบ 4ทีมสุดท้ายเสมอ
เกือบทุกทีมชาติที่ชนะอินทรีเหล็กในทัวร์นาเมนต์ใหญ่มักจะเป็นผู้ชนะในทัวร์นาเมนต์นั้นๆเสมอ
แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรในบอลโลก2018 ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากอีโก้ของโยคิม เลิฟเอง
ถ้าผลงานยังไม่ดีขึ้น เยอรมันคงได้กลายเป็นอินทรีปีกหักสนิมขึ้นจริงๆแน่
นี่คือทีมชาติที่เชียร์มาตลอด19ปี ไม่อยากนอกใจไปเชียร์ทีมอื่น
แต่ถ้าเลิฟไม่ลดอีโก้ตัวเอง และ เปลี่ยนแปลงความคิดตัวเองที่เป็นใหญ่
เยอรมันยุคใหม่นี้จะเป็นแค่ทีมแจกแต้มจริงๆในยูโรแน่
เพราะถูกจัดอยู่ในกรุ๊ปออฟเดธ ที่มี ฮังการี่ โปรตุเกส และ ฝรั่งเศส
อยากทราบความคิดเห็นครับ ว่าทุกท่านคิดอย่างไร
กับการนำ
โธมัส มุลเล่อร์,แมตส์ ฮัมเมิ่ล, และ เจโรม บัวเตง
กลับมาร่วมทัพอินทรีเหล็ก ในการลุยศึกยูโร2020+1
หรือว่าเวลาของ โยคิม เลิฟ กับทีมชาติ จะหมดลงแล้วจริงๆ
โค้ชมีเวลาสามเดือน ในการเลือกนักเตะอย่างเป็นการในเดือนพฤษภาคม
ส่วนตัวผมคิดสองแง่ครับ
ถ้าทั้งสามถูกเรียกให้กลับมา ต้องเป็นผลดีแน่ๆ
เพราะทั้งสามคุ้นเคยกับนักเตะดาวรุ่งจากเสือใต้ในทีมปัจจุบัน อย่าง
ซาเน่, กานาบรี้, คิมมิช, โกเร็ตซ์ก้า ที่แอสซิตไป สามลูกจาก สกอร์5-1ในเกมบาเยิร์นล่าสุด
ผลงานน่าจะดีกว่าที่ผ่านมาถ้ารวมใจกันเหมือนตอนเล่นกับบาเยิร์น มิวนิคได้
ซึ่งนักเตะสโมสรนี้ก็เป็นแกนนำทีมชาติมาหลายปีแล้ว
All or Nothing ครับในกรณีนี้
ถ้าทั้งสามสามารถเล่นได้ดีเหมือนยุค2014 ก็สามารถบอกได้ว่า
ทั้งสามยังพึ่งพาได้อยู่ แต่ถ้าไม่ ก็หมายความว่าทั้งสามนั้นหมดสภาพแล้วจริงๆ
แต่ถ้าเลิฟไม่ยังดันทุรังดื้อด้านไม่เรียกทั้งสามกลับมมา
อาจจะเป็นผลดีกับทั้งสามก็ได้ เพราะอยู่สโมสรผลงานดีกว่า
มีโอกาสสัมผัสชัยชนะมากกว่า มีโอกาสเป็นแชมป์ระดับสโมสรมากกว่า
และคงไม่ต้องเสียความรู้สึกที่ต้องมาร่วมทีมกับโค้ชที่เคยไล่ทั้งสามออก
หากผลงานบอยแบนด์เยอรมันยุคใหม่นั้นจะอดสูเหมือนที่แพ้สเปน6-0
อย่างไรก็ตาม หวังว่าโค้ช โยคืม เลิฟ จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ทีมชาติ
ไม่ทำพลาดอีกเหมือนในช่วงบอลโลก2018-ปลายปี2020
นี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายของเลิฟในการพิสูจน์ตัวเองแล้ว
รบกวนช่วยวิเคราะห์และแสดงความเห็นด้วยครับ
ขอบคุณครับ
วิเคราะห์ฟุตบอลทีมชาติเยอรมันก่อนบอลยูโรจะเริ่มครับ
ตั้งแต่ปี2018จนถึงปลายปี2020เป็นช่วงเวลาแห่งความล้มเหลวในผลงานของทีมชาติเยอรมัน
ผลงานบอลโลกปี2018เป็นผลงานที่สร้างความน่าอับอายแก่ Die Mannshaftเป็นอย่างมาก
ถ้าท่านสังเกตุ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เยอรมันจะชนะทีมที่ส่วนมากไม่ใช่ทีมยักย์ใหญ่แห่งยุโรปเท่านั้น
อาทิ เบรารุส,เอสโตเนีย,ไอร์แลนด์เหนือ
นอกนั้นจะลงเอยด้วยการเสมอหรือไม่ก็ปราชัยซะส่วนใหญ่
ทีมที่พอจะสู้ได้อย่างสูสี แค่เนเธอร์แลนด์ ที่เยอรมันแพ้ 2ครั้ง จาก 4ครั้งที่พบกันหลังบอลโลก 2018
แถมเป็นดัตช์ยุคใหม่ปราศจากสามยอดนักเตะจากอดีต
อย่าง อาเยน ร็อบเบน,โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, และ เวสลี่ย์ ชไนด์เดอร์
ไม่เพียงแค่นั้น ต้นปี2019 โค้ชโยคิม เลิฟ ก็เริ่มคลั่งด้วยการปลดสามนักเตะผ่านศึกแชมป์โลกสามคนจากทีม
โธมัส มุลเล่อร์,แมตส์ ฮัมเมิ่ล, และ เจโรม บัวเตง แห่งสโมสรบาเยิร์น มิวนิค
เพราะโค้ชเชื่อว่า ทั้งสามนั้นอายุมากและผ่านช่วงท็อปฟอร์มมาแล้ว
ไม่เข้ากับระบบใหม่ของเลิฟ ที่อยากจะสร้างทีมใหม่ด้วยนักเตะที่เยาว์วัยกว่า
ซึ่งนั่นก็เข้าใจได้ แต่ผลงานนั้นไม่เป็นอย่างที่หวัง ทั้งๆที่ชื่อชั้นนักเตะนั้นดีพอควร
ผลงานทีมชาติที่ไม่น่าพอใจ วางตำแหน่งมั่วสั่วไปหมด
กองหน้าที่ไม่คมอย่าง ทิโม เวอร์เนอร์ และ ลูก้า วัลชมิดส์ที่ยังต้องเก็บประสบการณ์
กองกลางธรรมชาติแค่คนเดียว คือ โทนี่ โครส
และกองหลังที่พึ่งพาได้เพียงแค่ โยซัว คิมมิช ที่ถ้าพัฒนาฝีมือดีๆกับเสือใต้ อาจจะเป็นได้ดั่ง ฟิลิป ลาห์ม
และ นิคลาส ซูเล่ ที่บางทีเดี๋ยวดีเดี๋ยวไม่ดี
ยอดผู้รักษาประตู อย่าง มานูเอล นอยเออร์ ที่เซฟได้บ้างไม่ค่อยได้บ้างเพราะกองหลังหละหลวม
ผลที่ได้รับ คือผลเสมอที่ไม่สู้ดีนักในปี 2020 และของขวัญปีใหม่จากสเปนด้วยสกอร์ 6-0
โค้ชโยคิม เลิฟที่ได้ชื่อชั้นว่าอีโก้สูง อาจจะต้องกลืนน้ำลายตัวเอง
ในการกลับไปง้อ ให้สามนักเตะที่ไล่ออกไปกับมือ กลับมาร่วมทีมยูโรอีกครั้ง
เพื่อกู้ศักดิ์ศรีกลับมา หลังจากที่ความคิดตัวเองเละไม่เป็นท่า
รวมถึงแรงกดดันจากสื่อ นักเตะบางคน และ DFB ที่มีต่อตัวเลิฟเอง
ที่อยากจะเปิดรับนักเตะทั้งสามคนที่ถูกไล่ออกข้างต้นกลับมาร่วมทัพในยูโร
แถมอาชีพและตำแหน่งตัวเองอาจเป็นเดิมพันกับผลงานยูโร 2020+1
แต่เป็นเรื่องน่ายินดีที่ ฮันซี ฟลิกซ์ กุนซือแห่งเสือใต้ปัจจุบันและอดีตผู้ช่วยของเลิฟ
ได้สร้างสรรค์ผลงานให้บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งมีนักเตะทีมชาติทั้งอดีตและปัจจุบัน ในปี2020อย่างยอดเยี่ยม
โธมัส มุลเล่อร์ที่ฟอร์มตกช่วงบอลโลกและปี2019 ได้กลับมาเป็นคนเดิมเหมือนช่วง2010-2014อีกครั้งภายใต้การดูแลของฟลิกซ์
แมตส์ ฮัมเมิ่ลที่อาจจะช้าลงไปบ้างด้วยอายุ แต่ผลงานยังน่าชื่นชมในดอร์ตมุนด์ปัจจุบัน
เจโรม บัวเตงที่ผลงานยังได้มาตรฐานแม้ปัญหาชีวิตจะถาโถมเข้าใส่(แฟนสาวฆ่าตัวตาย)
และเด็กหนุ่มลูกครึ่งจากสโมสรเสือใต้ จามาล มุซิอาล่าร์
ที่ได้ตกลงใจลงเล่นทีมชาติเยอรมันแทนอังกฤษแล้ว
พูดง่ายๆคือ หากผนึกกำลังของยุคใหม่กับยุคเก่าเข้าด้วยกัน
เยอรมันอาจจะกลับมาเป็นทีมชาติที่เราเคยคุ้นเคยได้ในศึกยูโร
เพราะแม้แต่โทนี่ โครส ยังกล่าวกับตัวเลยว่า
ทีมชาตินั้นไม่ควรขาด มุลเล่อร์,ฮัมเมิ่ล,บัวเตง จริงๆ
เยอรมันคือทีมชาติหนึ่งที่รักษามาตรฐานระดับท็อปมาร่วม12ปีจากบอลโลก2006
ทุกทัวร์นาเมนต์ใหญ่พวกเขามักจะเข้ารอบ 4ทีมสุดท้ายเสมอ
เกือบทุกทีมชาติที่ชนะอินทรีเหล็กในทัวร์นาเมนต์ใหญ่มักจะเป็นผู้ชนะในทัวร์นาเมนต์นั้นๆเสมอ
แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรในบอลโลก2018 ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากอีโก้ของโยคิม เลิฟเอง
ถ้าผลงานยังไม่ดีขึ้น เยอรมันคงได้กลายเป็นอินทรีปีกหักสนิมขึ้นจริงๆแน่
นี่คือทีมชาติที่เชียร์มาตลอด19ปี ไม่อยากนอกใจไปเชียร์ทีมอื่น
แต่ถ้าเลิฟไม่ลดอีโก้ตัวเอง และ เปลี่ยนแปลงความคิดตัวเองที่เป็นใหญ่
เยอรมันยุคใหม่นี้จะเป็นแค่ทีมแจกแต้มจริงๆในยูโรแน่
เพราะถูกจัดอยู่ในกรุ๊ปออฟเดธ ที่มี ฮังการี่ โปรตุเกส และ ฝรั่งเศส
อยากทราบความคิดเห็นครับ ว่าทุกท่านคิดอย่างไร
กับการนำ โธมัส มุลเล่อร์,แมตส์ ฮัมเมิ่ล, และ เจโรม บัวเตง
กลับมาร่วมทัพอินทรีเหล็ก ในการลุยศึกยูโร2020+1
หรือว่าเวลาของ โยคิม เลิฟ กับทีมชาติ จะหมดลงแล้วจริงๆ
โค้ชมีเวลาสามเดือน ในการเลือกนักเตะอย่างเป็นการในเดือนพฤษภาคม
ส่วนตัวผมคิดสองแง่ครับ
ถ้าทั้งสามถูกเรียกให้กลับมา ต้องเป็นผลดีแน่ๆ
เพราะทั้งสามคุ้นเคยกับนักเตะดาวรุ่งจากเสือใต้ในทีมปัจจุบัน อย่าง
ซาเน่, กานาบรี้, คิมมิช, โกเร็ตซ์ก้า ที่แอสซิตไป สามลูกจาก สกอร์5-1ในเกมบาเยิร์นล่าสุด
ผลงานน่าจะดีกว่าที่ผ่านมาถ้ารวมใจกันเหมือนตอนเล่นกับบาเยิร์น มิวนิคได้
ซึ่งนักเตะสโมสรนี้ก็เป็นแกนนำทีมชาติมาหลายปีแล้ว
All or Nothing ครับในกรณีนี้
ถ้าทั้งสามสามารถเล่นได้ดีเหมือนยุค2014 ก็สามารถบอกได้ว่า
ทั้งสามยังพึ่งพาได้อยู่ แต่ถ้าไม่ ก็หมายความว่าทั้งสามนั้นหมดสภาพแล้วจริงๆ
แต่ถ้าเลิฟไม่ยังดันทุรังดื้อด้านไม่เรียกทั้งสามกลับมมา
อาจจะเป็นผลดีกับทั้งสามก็ได้ เพราะอยู่สโมสรผลงานดีกว่า
มีโอกาสสัมผัสชัยชนะมากกว่า มีโอกาสเป็นแชมป์ระดับสโมสรมากกว่า
และคงไม่ต้องเสียความรู้สึกที่ต้องมาร่วมทีมกับโค้ชที่เคยไล่ทั้งสามออก
หากผลงานบอยแบนด์เยอรมันยุคใหม่นั้นจะอดสูเหมือนที่แพ้สเปน6-0
อย่างไรก็ตาม หวังว่าโค้ช โยคืม เลิฟ จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ทีมชาติ
ไม่ทำพลาดอีกเหมือนในช่วงบอลโลก2018-ปลายปี2020
นี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายของเลิฟในการพิสูจน์ตัวเองแล้ว
รบกวนช่วยวิเคราะห์และแสดงความเห็นด้วยครับ
ขอบคุณครับ