ในส่วนของบทความนี้ ผมอยากจะมาแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับข้อคิดที่ผมได้รับ ซึ่งผมเชื่อว่าสิ่งนี้สามารถนำไปเป็นไอเดียหรือไปประกอบการตัดสินใจสำหรับใครที่อยากเริ่มทำธุรกิจและอยากรวยเร็วแต่ไม่รู้จะทำอาชีพอะไรดี  โดยเนื้อเรื่องมีอยู่ว่าตัวผมเองมีประสบการณ์การในการทำธุรกิจไทย - จีนมาแล้ว 14 ธุรกิจ แต่ก่อนที่จะไปทำธุรกิจอื่น ๆ ผมมีโอกาสได้บริหารจัดการธุรกิจซื้อขายวัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์มาก่อน ซึ่งเป็นกิจการของทางบ้านที่ผ่านมาแล้วหลาย 10 ปี และในตอนนั้นผมรู้เลยว่าตัวผมเองไม่สามารถที่จะบริหารธุรกิจของทางบ้านต่อได้โดยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง

       จนผมได้มีโอกาสเข้าไปปรึกษาผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่มีความสำเร็จในด้านธุรกิจของจังหวัดเชียงใหม่และระดับประเทศ ซึ่งผมเองได้ขอคำปรึกษาจากท่านเพราะรู้อยู่แล้วว่ากิจการที่มีอยู่ไม่สามารถไปต่อได้อย่างแน่นอน และคำถามที่ผมอยากรู้มากที่สุดในตอนนั้น นั่นก็คือ “เริ่มต้นธุรกิจอย่างไรให้รวยเร็ว?!”  และคำตอบที่ผมได้รับก็คือ ถ้าอยากตั้งตัวได้เร็วหรืออยากรวยเร็วให้ไป “ค้าขาย” แต่ถ้าหากค้าขายไม่เป็นให้ไปสร้างตึกให้เช่าแต่การสร้างตึกให้เช่าไม่ได้ทำให้รวยเร็วแต่แค่ไม่ได้ทำให้จน สรุปก็คือถ้าอยากรวยเร็วก็ต้อง “ค้าขาย” เท่านั้น แล้วอย่างนี้พูดแค่ว่า “ค้าขาย” แล้วจะรวยเร็วมันจะรวยได้อย่างไร เดี๋ยวผมจะให้คุณลองดูภาพระหว่าง การทำธุรกิจส่วนตัว การซื้อกองทุนและการเล่นหุ้น ที่ใครหลาย ๆ คน บอกว่าทำแล้วรวยเร็วให้ดูครับว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างไร…

       โดยเริ่มจาก “การทำธุรกิจส่วนตัว”  สมมุติว่า ใน 1 เดือน คุณมีทุน 100 บาท และในเดือนนั้นคุณขายของได้ 110 บาท หักต้นทุนแล้วได้กำไรสุทธิเดือนละ 5 บาท ต่อมาคุณก็ต้องใช้เงินต้นทุนที่ได้ในแต่ละเดือนมาหมุนเวียนซื้อของเพื่อนำมาขายแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ แต่กำไรสุทธิของคุณก็ยังจะได้ทุกเดือนเดือนละ 5 บาท คิดเป็น 5 % ต่อเดือน ดังนั้น รวมเป็น 12 เดือนคิดเป็นเปอร์เซ็นต์คุณจะได้กำไร 60% ต่อปี ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับ “ทักษะการทำธุรกิจ” ของคุณด้วย

       ต่อไป “การลงทุนซื้อกองทุน” ถ้าหากคุณพอมีทุนจากการค้าขายผมแนะนำให้คุณทำ “ทฤษฎีทบต้น” โดยให้คุณลองซื้อกองทุนตามธนาคารชั้นนำเก็บไว้และผลกำไรที่คุณจะได้จากกองทุนก็อาจจะเฉลี่ยรายได้ 10% ต่อปี สมมติว่า คุณมีเงินเก็บ 100 บาท และได้กำไรจากการค้าขายจำนวน 5 บาทต่อเดือน คุณสามารถนำเงินเก็บทั้งหมดนี้ไปลงทุนกองทุนได้ เช่น ในเดือนแรก คุณลงทุนซื้อกองทุน 105 บาท เดือนถัดมาคุณได้กำไรจากการค้าขาย 5 บาท และได้กำไรจากกองทุนอีก 0.26% แสดงว่ารายได้ในเดือนนั้นคุณก็จะมีกำไรสุทธิ 5.25% ต่อเดือน เป็นอยู่อย่างนี้เรื่อย ๆ ยิ่งคุณนำกำไรสุทธิในการค้าขายของแต่ละเดือนมาลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดอกเบี้ยของกองทุนก็จะเพิ่มให้คุณเช่นกัน สรุปรายได้ในเดือนนั้น (ตามรูปภาพ) คุณจะได้กำไรสุทธิจากการทำธุรกิจทั้ง 2 ทางรวมแล้วเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 79.60% ต่อปี ซึ่งการลงทุนอย่างนี้ถือว่าเป็นการคิดแบบ “ทฤษฎีทบต้น” นั้นก็คือ การเพิ่มรายได้ให้สูงขึ้นโดยที่คุณไม่ต้องออกแรงอะไรมากมาย

       สำหรับใครที่สงสัยว่าแล้วหุ้นล่ะ?! เท่าที่เคยได้ยินมาสามารถทำกำไรต่อปีได้มหาศาลเลยไม่ใช่หรือ?! ผมสามารถตอบตามประสบการณ์ได้เลยครับว่า ไม่ใช่ทุกคน เพราะการเล่นหุ้นยังมีความเสี่ยงและต้องใช้ความสามารถส่วนบุคคล หากจะเฉลี่ยออกมาเป็นรายปีก็คงอยู่ที่ 10 – 20% หรืออย่างมากก็อาจจะได้ 100 – 200% แต่บทความในที่นี้ถ้าหากคุณมี “ทักษะในการทำธุรกิจ” แล้ว ทักษะเหล่านี้ก็จะสามารถสร้างเงินให้กับคุณได้และคุณก็ยังสามารถที่จะมีธุรกิจส่วนตัวที่เป็นของคุณเองโดยที่ไม่ต้องมีความเสี่ยง 

       ดังนั้น จึงเป็นที่มาของคำว่าถ้าอยากรวยเร็วต้อง “ค้าขาย” แต่ถ้าไม่ถนัดก็ให้คุณศึกษาหรือลงทุนกับ “อสังหาริมทรัพย์” เพราะเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงน้อย ซึ่งแตกต่างจากการเล่นหุ้นที่ถึงแม้จะลงทุนน้อย ๆ ได้แต่ก็มีสิทธิที่จะเสี่ยงเช่นกัน เพราะฉะนั้น การค้าขายเป็นอาชีพที่คุณสามารถร่ำรวยเร็วได้ เนื่องจากคุณสามารถทบเงินได้หลาย ๆ ทางและถ้าคุณมีทักษะการทำธุรกิจที่ดีก็จะสามารถหาช่องทางในการเพิ่มรายได้จากเดิมให้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั้นเอง 

       เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ไม่ว่าจะยุคไหน ๆ ให้คุณลองสังเกตเลยว่าคนที่ล้มเหลว หรือเจอปัญหาในการทำธุรกิจ ถ้าหากเขาเริ่มต้นจากการค้าขายและมีทักษะการทำธุรกิจที่ดี เขาก็จะสามารถสร้างตัวได้เร็ว หรือคุณคิดว่าอย่างไร สามารถคอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยครับ

=================================================================

สำหรับใครที่อยากได้รับอรรถรสเพิ่มมากขึ้น สามารถคลิกวีดีโอได้ตามด้านล่างนี้นะครับ