ตอนนี้มีการเทขายหุ้นกลุ่มTech ในระดับโลก เนื่องจากราคาที่ขึ้นมาเยอะมาก.. ช่วงหลังเราจะเห็นเลยว่า รายย่อยไทย กองทุนไทย ก็ให้ความสนใจในหุ้นพวกนี้มาก แห่ตามๆชวนๆกันไปมาก (ส่วนใหญ่พวกที่เพิ่งมาสนใจทีหลัง ตามกระแส ก็จะไปซื้อราคาดอยกัน ดอยมาก ดอยน้อย ต่างกันไป)
เคยฟังคลิป พี่โจ ลูกอิสาน พิธีกรถามว่าไม่สนใจหุ้นอเมริกาเหรอ แกตอบกลับชัดเจนว่า หากมาสนใจตอนที่ราคามันขึ้นมาเยอะแล้ว และคนกำลังสนใจกันมากๆ ก็แปลว่าเราไปซื้อในราคาแพง และเสี่ยงที่จะดอย ... พูดไว้เดือนที่แล้วเองมั้ง สรุป พูดถูก!
ตอนนี้หุ้นโลกกำลังจะมีการเปลี่ยนกลุ่มขนานใหญ่ จากกลุ่มTech ย้ายมาหุ้น old economy วัฎจักร พลังงาน น้ำมัน ธนาคาร อุตสาหกรรม(ที่ยังไม่ตาย) เป็นต้น .. .. ..
...
...
มาถึงในประเทศไทย เราไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไปกับตลาดหุ้นอเมริกาที่ร่วงแรง เพราะบ้านเรามีหุ้นเทคโนจริงๆน้อยมาก และมีผลต่อดัชนีน้อย(DELTA ก็ร่วงมาเยอะแล้ว ไม่น่าจะไปกดดัชนีได้อีกมาก) กลับกัน SET ยังมีหุ้น old economy ที่เป็นกลุ่มนำตลาดมาก.. ซึ่งจะได้รับปัจจัยบวกจากการเปลี่ยนกลุ่มการลงทุนในระดับ Global play นี้มากกว่าด้วยซ้ำ..
เมื่อวานนี้ที่ตลาดร่วงแรงทั่วโลก แต่ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เพื่อนบ้านเรายังเขียวสวนได้เลยด้วยซ้ำ
>>>
SET เองก็เช่นกัน.. หุ้นหลายตัว หุ้นเล็ก หุ้นเทคโน หุ้นการเงินเล็กๆ ที่ทำกำไรได้ดีเกินคาด ในปี 2563 ที่ผ่านมา.. พอมาปี 2564 ก็ต้องเริ่มระวัง! เพราะคิดจากฐานสูง การเติบโตจะไม่ดีเท่าเดิม จะหวังราคาขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัวๆนั้นคงไม่ง่าย พวกหุ้นเทค DELTA ถุงมือ non-bank เล็กๆที่ราคาขึ้นมามากๆ ก็มีความเสี่ยง.. เพราะรายได้ กำไรปีนี้ก็มีแนวโน้มจะเติบโตลดลงเทียบจากฐานสูงนั่นเอง
...กลับกัน ในปี2564 ก็จะเป็นปีทอง สำหรับหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ทำให้กำไรลดลงในปี2563ที่ผ่านมา.. และเป็นหุ้นที่เข้าตีมที่fund flow จะพากันไหลเข้า เช่น หุ้น old economy วัฎจักร พลังงาน น้ำมัน ปิโตร ธนาคาร ส่งออก ค้าปลีก ท่องเที่ยว เป็นต้น..
และ เมื่อโควิดเริ่มคลี่คลาย ผลประกอบการดีขึ้น รายได้กำไรในปี 2564 ก็จะเพิ่มขึ้นอีกมาก! (เทียบกับปี2563 ที่มาจากฐานต่ำ)
เพราะฉะนั้น ช่วงเวลานี้ ที่ตลาดยังดูคลุมเครือ ส่วนนึงเพราะ fund flow กองทุน รายใหญ่ เขากำลังปรับพอร์ตขนานใหญ่ เช่น บัฟเฟต ยังขายหุ้นเทคโน ไปซื้อหุ้นประกัน เป็นต้น..
ที่ผ่านมาตลาด 900 เม่ากลัว แต่มันก็ไป 1200
พอมันย่อมา 1100 เม่าก็กลัวจะกลับไป900 ..แต่มันก็กลับไป 1300
พอมันย่อมา 1200 เม่าก็กลัวจะกลับไป1000 ..แต่มันก็เด้งกลับไป 1400
พอมันย่อมา 1300 เม่าก็กลัวจะกลับไป1200 ..แต่มันก็เด้งกลับไป 1500
พอมันย่อมา 1400 เม่าก็กลัวจะกลับไป1300 ..แต่มันก็เด้งไป.. 1600 ..1700 ..1800 ..2000++
...
สุดท้ายแล้ว ยิ่งย่อ ยิ่งกลับมาได้สูงกว่าเดิมๆ!! เพราะฉะนั้น ตลาดปรับฐานเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่สิ่งที่ผิด.. สิ่งที่ผิดคือ โอกาสที่มาถึงตรงหน้าแต่ยังไม่ไขว่คว้าไว้ต่างหาก..!! !! !!
โชคดี
ระวัง..!! ตีมการลงทุน เทรนด์ กำลังเปลี่ยนไป..!!?? ?? เอะ เอะ <<ชินจัง talk talk วันหยุดยาว>>
เคยฟังคลิป พี่โจ ลูกอิสาน พิธีกรถามว่าไม่สนใจหุ้นอเมริกาเหรอ แกตอบกลับชัดเจนว่า หากมาสนใจตอนที่ราคามันขึ้นมาเยอะแล้ว และคนกำลังสนใจกันมากๆ ก็แปลว่าเราไปซื้อในราคาแพง และเสี่ยงที่จะดอย ... พูดไว้เดือนที่แล้วเองมั้ง สรุป พูดถูก!
ตอนนี้หุ้นโลกกำลังจะมีการเปลี่ยนกลุ่มขนานใหญ่ จากกลุ่มTech ย้ายมาหุ้น old economy วัฎจักร พลังงาน น้ำมัน ธนาคาร อุตสาหกรรม(ที่ยังไม่ตาย) เป็นต้น .. .. ..
...
...
มาถึงในประเทศไทย เราไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไปกับตลาดหุ้นอเมริกาที่ร่วงแรง เพราะบ้านเรามีหุ้นเทคโนจริงๆน้อยมาก และมีผลต่อดัชนีน้อย(DELTA ก็ร่วงมาเยอะแล้ว ไม่น่าจะไปกดดัชนีได้อีกมาก) กลับกัน SET ยังมีหุ้น old economy ที่เป็นกลุ่มนำตลาดมาก.. ซึ่งจะได้รับปัจจัยบวกจากการเปลี่ยนกลุ่มการลงทุนในระดับ Global play นี้มากกว่าด้วยซ้ำ..
เมื่อวานนี้ที่ตลาดร่วงแรงทั่วโลก แต่ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เพื่อนบ้านเรายังเขียวสวนได้เลยด้วยซ้ำ
>>>
SET เองก็เช่นกัน.. หุ้นหลายตัว หุ้นเล็ก หุ้นเทคโน หุ้นการเงินเล็กๆ ที่ทำกำไรได้ดีเกินคาด ในปี 2563 ที่ผ่านมา.. พอมาปี 2564 ก็ต้องเริ่มระวัง! เพราะคิดจากฐานสูง การเติบโตจะไม่ดีเท่าเดิม จะหวังราคาขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัวๆนั้นคงไม่ง่าย พวกหุ้นเทค DELTA ถุงมือ non-bank เล็กๆที่ราคาขึ้นมามากๆ ก็มีความเสี่ยง.. เพราะรายได้ กำไรปีนี้ก็มีแนวโน้มจะเติบโตลดลงเทียบจากฐานสูงนั่นเอง
...กลับกัน ในปี2564 ก็จะเป็นปีทอง สำหรับหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ทำให้กำไรลดลงในปี2563ที่ผ่านมา.. และเป็นหุ้นที่เข้าตีมที่fund flow จะพากันไหลเข้า เช่น หุ้น old economy วัฎจักร พลังงาน น้ำมัน ปิโตร ธนาคาร ส่งออก ค้าปลีก ท่องเที่ยว เป็นต้น..
และ เมื่อโควิดเริ่มคลี่คลาย ผลประกอบการดีขึ้น รายได้กำไรในปี 2564 ก็จะเพิ่มขึ้นอีกมาก! (เทียบกับปี2563 ที่มาจากฐานต่ำ)
เพราะฉะนั้น ช่วงเวลานี้ ที่ตลาดยังดูคลุมเครือ ส่วนนึงเพราะ fund flow กองทุน รายใหญ่ เขากำลังปรับพอร์ตขนานใหญ่ เช่น บัฟเฟต ยังขายหุ้นเทคโน ไปซื้อหุ้นประกัน เป็นต้น..
ที่ผ่านมาตลาด 900 เม่ากลัว แต่มันก็ไป 1200
พอมันย่อมา 1100 เม่าก็กลัวจะกลับไป900 ..แต่มันก็กลับไป 1300
พอมันย่อมา 1200 เม่าก็กลัวจะกลับไป1000 ..แต่มันก็เด้งกลับไป 1400
พอมันย่อมา 1300 เม่าก็กลัวจะกลับไป1200 ..แต่มันก็เด้งกลับไป 1500
พอมันย่อมา 1400 เม่าก็กลัวจะกลับไป1300 ..แต่มันก็เด้งไป.. 1600 ..1700 ..1800 ..2000++
...
สุดท้ายแล้ว ยิ่งย่อ ยิ่งกลับมาได้สูงกว่าเดิมๆ!! เพราะฉะนั้น ตลาดปรับฐานเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่สิ่งที่ผิด.. สิ่งที่ผิดคือ โอกาสที่มาถึงตรงหน้าแต่ยังไม่ไขว่คว้าไว้ต่างหาก..!! !! !!