👾👾👾
แปะชื่อ Michael Bay เป็นโปรดิวเซอร์หนังขนาดนี้ มีเหรอจะดึงคนดูไม่ได้ แถมหนังยังเอาเรื่องราวที่ทันกะแสโลกอย่าง COVID และ เรื่องราวการปรับตัวอย่าง New Normal มาเล่นเป็นแกนหลักเต็มๆ แล้วหนังยังกล้าฉายในช่วงที่สถานการณ์ยังก้ำกึ่งจะดีขึ้นหรือจะทรงตัว ก็เลยเชื่อว่าหลายคนก็อยากดูเรื่องนี้แน่ๆ
👾👾👾
เรื่องราวในอนาคตจากนี้อีก 2-3 ปี เมื่อไวรัสโควิด 23 ระบาดร้ายแรงเริ่มกลายพันธุ์ และคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 110 ล้านรายทั่วโลก! เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อทั้งโลกจึงต้องอยู่ในภาวะล็อคดาวน์ มีการประกาศเคอร์ฟิว และพลเมืองที่ไม่ได้รับอนุญาตต้องอยู่แต่ในอาคาร ใครฝ่าฝืนจะถูกรัฐบาลใช้มาตราการรุนแรงปราบปราม แต่แล้วหายนะก็บังเกิดกับ นิโก ชายหนุ่มผู้มีภูมิคุ้มกัน เมื่อ ซาร่า แฟนสาวของเขาที่ไม่เคยมีโอกาสเจอกันอีกเลยนับตั้งแต่เกิดเหตุไวรัสระบาด กำลังจะถูกเจ้าหน้าที่บุกมาถึงที่พักภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังถูกต้องสงสัยว่าติดเชื้อ นิโก จึงต้องรีบเดินทางฝ่ามฤตยูไวรัสล้างโลกนี้ พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อช่วย ซาร่า ให้ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
👾👾👾
อ่านเรื่องย่อเหมือนหนังจะเป็น action thriller ที่มีให้ลุ้นติดตามอย่างเข้มข้นตลอดทั้งเรื่องใช่มั๊ยล่ะ แต่กลับไม่ใช่อย่างงั้น พาร์ทแรกของหนัง เป็นพาร์ที่ดีที่สุดแล้วก็ว่าได้ในความคิดของผม คือหนังเอาเรื่องราวการใ้ชีวิตแบบ New Normal ที่โลก Lockdown แบบเต็มตัวมาต่อยอดเล่าเรื่องให้ดูน่าสนใจและแตกต่าง ซึ่งหนังปูพาร์ทแรกออกมาได้ดี ทำให้รู้ถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวทุกสิ่งอัน รวมถึงตัวละครแต่ละตัวด้วย
👾👾👾
พอเรารู้จักเรื่องราว รู้จักตัวละครแล้ว ในพาร์ทที่สอง หนังตัดฉับเปลี่ยน feeling กลายเป็นหนังรักโรแมนติคไปซะอย่างงั้น เมื่อหนังพยามยามยัดเยียดความโรแมนติคระหว่างความรักของคน 2 คู่ให้คนดูอบบเลี่ยงไปไหนไม่ได้เลย คู่แรกคือคู่พระเอกนางเอก ก็ยังพอได้อยู่เพราะสองคนนี้คือตัวเดินเรื่อง แต่ก็ยาวเกินไปจนน่าเบื่อ แต่ในคู่ที่สองระหว่างนักร้องตกอับกับแฟนคลับทหารผ่านศึก อันนี้ไม่ไหว ยัดเยียดเกินไป แถมยังมีดราม่าครอบครัวเมียหลวงเมียน้อยอีก กลายเป็นพาร์ทนี้ทำให้ผมหลับไปงีบนึงเลย
👾👾👾
พาร์ทสุดท้าย หนังพยายามจะสรุปจบให้ได้สวยๆ เริ่มใส่ action เข้าไปแล้ว ส่วนตัวผมว่ามันมีกลิ่นความเป็นหนัง Michael Bay อยู่บ้างเล็กๆ ดูลุ้นได้นิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับเข้มข้น พูดตามตรง ผมดูเวลาเลยว่าหนังจะจบรึยัง เพราะมันปูความจืดชืดมาเยอะแล้ว ตอนจบถือว่าหนังสรุปได้ค่อนข้างโอเค แต่อย่างที่บอกแหละว่า หนังมันจืดมาเกือบทั้งเรื่อง จะมาให้มันดีแค่ช่วงท้าย มันก็ยังไม่มีรสชาติให้ติดปากน่าจดจำอยู่ดี
ถ้าชอบบทความ สามารถมาพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] Songbird โควิด 23 ไวรัสล้างโลก - หนัง New Normal ตามกระแสที่จืดชืดสุดๆ
👾👾👾
แปะชื่อ Michael Bay เป็นโปรดิวเซอร์หนังขนาดนี้ มีเหรอจะดึงคนดูไม่ได้ แถมหนังยังเอาเรื่องราวที่ทันกะแสโลกอย่าง COVID และ เรื่องราวการปรับตัวอย่าง New Normal มาเล่นเป็นแกนหลักเต็มๆ แล้วหนังยังกล้าฉายในช่วงที่สถานการณ์ยังก้ำกึ่งจะดีขึ้นหรือจะทรงตัว ก็เลยเชื่อว่าหลายคนก็อยากดูเรื่องนี้แน่ๆ
👾👾👾
เรื่องราวในอนาคตจากนี้อีก 2-3 ปี เมื่อไวรัสโควิด 23 ระบาดร้ายแรงเริ่มกลายพันธุ์ และคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 110 ล้านรายทั่วโลก! เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อทั้งโลกจึงต้องอยู่ในภาวะล็อคดาวน์ มีการประกาศเคอร์ฟิว และพลเมืองที่ไม่ได้รับอนุญาตต้องอยู่แต่ในอาคาร ใครฝ่าฝืนจะถูกรัฐบาลใช้มาตราการรุนแรงปราบปราม แต่แล้วหายนะก็บังเกิดกับ นิโก ชายหนุ่มผู้มีภูมิคุ้มกัน เมื่อ ซาร่า แฟนสาวของเขาที่ไม่เคยมีโอกาสเจอกันอีกเลยนับตั้งแต่เกิดเหตุไวรัสระบาด กำลังจะถูกเจ้าหน้าที่บุกมาถึงที่พักภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังถูกต้องสงสัยว่าติดเชื้อ นิโก จึงต้องรีบเดินทางฝ่ามฤตยูไวรัสล้างโลกนี้ พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อช่วย ซาร่า ให้ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
👾👾👾
อ่านเรื่องย่อเหมือนหนังจะเป็น action thriller ที่มีให้ลุ้นติดตามอย่างเข้มข้นตลอดทั้งเรื่องใช่มั๊ยล่ะ แต่กลับไม่ใช่อย่างงั้น พาร์ทแรกของหนัง เป็นพาร์ที่ดีที่สุดแล้วก็ว่าได้ในความคิดของผม คือหนังเอาเรื่องราวการใ้ชีวิตแบบ New Normal ที่โลก Lockdown แบบเต็มตัวมาต่อยอดเล่าเรื่องให้ดูน่าสนใจและแตกต่าง ซึ่งหนังปูพาร์ทแรกออกมาได้ดี ทำให้รู้ถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวทุกสิ่งอัน รวมถึงตัวละครแต่ละตัวด้วย
👾👾👾
พอเรารู้จักเรื่องราว รู้จักตัวละครแล้ว ในพาร์ทที่สอง หนังตัดฉับเปลี่ยน feeling กลายเป็นหนังรักโรแมนติคไปซะอย่างงั้น เมื่อหนังพยามยามยัดเยียดความโรแมนติคระหว่างความรักของคน 2 คู่ให้คนดูอบบเลี่ยงไปไหนไม่ได้เลย คู่แรกคือคู่พระเอกนางเอก ก็ยังพอได้อยู่เพราะสองคนนี้คือตัวเดินเรื่อง แต่ก็ยาวเกินไปจนน่าเบื่อ แต่ในคู่ที่สองระหว่างนักร้องตกอับกับแฟนคลับทหารผ่านศึก อันนี้ไม่ไหว ยัดเยียดเกินไป แถมยังมีดราม่าครอบครัวเมียหลวงเมียน้อยอีก กลายเป็นพาร์ทนี้ทำให้ผมหลับไปงีบนึงเลย
👾👾👾
พาร์ทสุดท้าย หนังพยายามจะสรุปจบให้ได้สวยๆ เริ่มใส่ action เข้าไปแล้ว ส่วนตัวผมว่ามันมีกลิ่นความเป็นหนัง Michael Bay อยู่บ้างเล็กๆ ดูลุ้นได้นิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับเข้มข้น พูดตามตรง ผมดูเวลาเลยว่าหนังจะจบรึยัง เพราะมันปูความจืดชืดมาเยอะแล้ว ตอนจบถือว่าหนังสรุปได้ค่อนข้างโอเค แต่อย่างที่บอกแหละว่า หนังมันจืดมาเกือบทั้งเรื่อง จะมาให้มันดีแค่ช่วงท้าย มันก็ยังไม่มีรสชาติให้ติดปากน่าจดจำอยู่ดี
ถ้าชอบบทความ สามารถมาพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้