ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 ชาวเมืองฟิลาเดลเฟียและเมืองอื่น ๆ ในสหรัฐฯเริ่มสังเกตเห็นข้อความแปลก ๆบนกระเบื้องโมเสคหลากสี ที่ฝังอยู่ตามถนนในเมือง และทางสัญจรหลายสิบเมืองทั่วสหรัฐอเมริกาและอเมริกาใต้ รวมถึง Boston, Pittsburgh, Chicago, Cleveland, New York City, Detroit, Tulsa, Oklahoma, Washington, และ New Jersey โดยข้อความเหล่านี้ถูกวาดลงบนกระเบื้องสี่เหลี่ยม และฝังลงไปในถนน ซึ่งกระเบื้องส่วนใหญ่จะมีรูปแบบที่เหมือนกัน และมีข้อความสี่บรรทัดที่เขียนว่า
TOYNBEE IDEA
ในภาพยนตร์เรื่อง `2001
ฟื้นความตาย
บนดาวเคราะห์ JUPITER
นอกจากนี้ ยังมีกระเบื้องอื่น ๆ ที่มีข้อความทางการเมืองและการเหยียดหยามต่อสังคม - วัฒนธรรมที่เขียนด้วยข้อความที่คลุมเครือคล้ายๆกัน ซึ่งจนถึงขณะนี้ มีการค้นพบกระเบื้องหลายร้อยชิ้น แต่ตัวตนของผู้สร้างหรือจุดประสงค์ยังไม่ชัดเจน
กระเบื้องเหล่านี้ถูกเรียกว่า “Toynbee tiles” ที่เชื่อกันว่ามาจากขื่อของ Arnold J. Toynbee นักประวัติศาสตร์และนักปรัชญาชื่อดังชาวอังกฤษ
ในศตวรรษที่ 20 ซึ่งเขาแนะนำว่า ชีวิตหลังความตายไม่ได้รับอนุญาตโดยอัตโนมัติและมนุษย์ต้องสร้างขึ้นเอง นอกจากนี้ ยังอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องสั้นปีใน1984 ของ Ray Bradbury ที่ชื่อ “ The Toynbee Connector ” ซึ่งอ้างอิงแนวคิดของ Toynbee ที่ว่ามนุษย์จะอยู่รอดก็ต่อเมื่อเชื่อว่ามีโลกที่ดีกว่า
และมุ่งมั่นที่จะกำหนดอนาคตของตนเอง
แผนที่แสดงที่ตั้งของกระเบื้อง Toynbee
และยังอาจเป็นไปได้ว่า ผู้สร้างอาจได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง " Toynbee Convector " ของ Ray Bradbury ที่กล่าวถึงแนวคิดที่
Arnold J. Toynbee เสนอว่า เพื่อให้มนุษย์อยู่รอดได้นั้นจะต้องมุ่งมั่นที่จะบรรลุให้ไกลกว่าที่เป็นไปได้ และเพื่อเข้าถึงบางสิ่งที่แทบจะไม่สามารถเข้าถึงได้
หรือบางทีผู้สร้างอาจต้องการเผยแพร่ข้อความว่า มนุษย์ควรนำแนวคิดของ Toynbee มาใช้และมุ่งมั่นที่จะไปตั้งรกรากที่ดาวพฤหัสบดี ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงผลงานชิ้นเอกของภาพยนตร์ไซไฟในปี 1968 ของ Stanley Kubrick เรื่อง " 2001: A Space Odyssey " เกี่ยวกับภารกิจอวกาศที่ส่งมนุษย์ไปยังดาวพฤหัสบดี
ซึ่งในเรื่อง ตัวละคร Dr. Dave Bowman นักบินอวกาศคนหนึ่งต้องผ่านการเร่งอายุให้มากขึ้น จนเสียชีวิตและเกิดใหม่เป็นทารกในครรภ์ และกลับมายังโลก โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ Kubrick ร่วมเขียนบทกับ Arthur C. Clarke นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ ที่ว่าด้วยการสำรวจวิวัฒนาการของมนุษย์และชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตในจักรวาล
สำหรับกระเบื้อง Toynbee นั้น ปรากฏตัวชิ้นแรกในช่วงทศวรรษที่ 1980 ในฟิลาเดลเฟีย ที่คาดว่าศิลปินนิรนามผู้ทำเป็นชาวเมืองฟิลาเดลเฟีย แต่ส่วนใหญ่ของกระเบื้อง อยู่ในพื้นที่ที่มีพรมแดนติดกับ Kansas City, Missouri ทางตะวันตก / Boston, Massachusetts ทางตอนเหนือ / Washington, D.C ทางตอนใต้ / และ Philadelphia, Pennsylvania ทางตะวันออก
โดยมีข้อยกเว้นอยู่สองเมืองในอเมริกาใต้ เช่นที่ Rio di Janeiro (Brazil), Santiago (Chile) และ Buenos Aires (Argentina) ซึ่งเป็นการยากที่จะบอกว่ากระเบื้องที่อยู่ในเมืองห่างไกลเหล่านี้ เป็นของดั้งเดิมหรือทำขึ้นเพื่อเลียนแบบ
Cr.ภาพ: Lord Jim / Flickr
ที่ผ่านมาช่วงหนึ่งที่ผู้ต้องสงสัยหลักคือ ชายที่ระบุชื่อตัวเองที่ดูเหมือนเป็นนามแฝงว่า James Morasco โดยในปี 1983 Morasco ได้ติดต่อรายการทอล์คโชว์และหนังสือพิมพ์ต่างๆ เพื่อให้สัมภาษณ์ถึงทฤษฎีของเขาในการตั้งอาณานิคมบนดาวพฤหัสบดี กับผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกที่ตายแล้ว โดยอ้างว่าได้พบกับแนวคิดนี้ในขณะที่อ่านหนังสือของ Arnold Toynbee นักประวัติศาสตร์
ซึ่งชื่อ "James Morasco" ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นนามแฝงจริง ๆ เมื่อคนที่ชื่อ James Morasco คนเดียวในฟิลาเดลเฟียได้เสียชีวิตในปี 2003
โดยไม่รู้อะไรเกี่ยวกับกระเบื้องเหล่านี้ ในขณะที่ข้อความยังคงปรากฏอยู่นานหลังจากที่เขาตาย
ต่อมาในปี 2011 ชาวเมืองฟิลาเดลเฟีย 4 คนได้จัดทำภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “ Resurrect Dead: The Mystery of the Toynbee Tiles” (คนตายฟื้นคืนชีพ: ความลึกลับของกระเบื้อง Toynbee) ซึ่งพวกเขาได้นำเสนอเรื่องของชายที่ชื่อว่า Severino“ Sevy” Verna ที่อาศัยอยู่ในฟิลาเดลเฟีย
อย่างสันโดษ ในฐานะผู้ต้องสงสัย โดยเชื่อว่า Verna เป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง "James Morasco" แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถให้หลักฐานที่ชัดเจนได้
ในภาพยนตร์สารคดีอ้างว่า Verna วางกระเบื้องผ่านช่องในพื้นรถให้ยึดติดกับถนนโดยใช้น้ำมันดิน และถ่ายทอดข้อความของเขาผ่านสัญญาณวิทยุคลื่นสั้นไปด้วยขณะที่เขาขับรถผ่านบ้านหลายๆหลัง เมื่อเวลาผ่านไปจากความร้อนของดวงอาทิตย์และรถยนต์ที่แล่นไปมา จะทับกระเบื้องให้จมลงในพื้นถนน
จนถึงช่วงกลางทศวรรษที่ 90 กระเบื้องมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเริ่มเขียนตัวอักษรบนกระเบื้องเป็นสีต่างๆ และมีภาพขาของผู้หญิงและเส้นขอบสีสันสดใสขนาบข้างข้อความของกระเบื้อง ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงสภาพไม่เปลี่ยนแปลง แต่จากการที่รถยนต์หลายล้านคันที่วิ่งทับพวกมัน ทำให้กระเบื้องจำนวนมากเสื่อมสภาพและถูกทำลาย แต่ต่อมามันได้รับการดูแลจากการบำรุงรักษาถนน โดยเฉพาะใกล้ทางม้าลายและทางเท้าที่มองเห็นได้ชัดเจน
ปัจจุบัน กระเบื้อง Toynbee ได้รับสถานะทางลัทธิ (cult status) ซึ่งมีเว็บไซต์หลายสิบแห่งที่อุทิศให้กับปรากฏการณ์นี้ โดยกล่าวถึงทฤษฎีค้นหาคำตอบและพยายามไขปริศนา และเมื่อปี 2015 Streets Department of Philadelphia ได้ประกาศให้ " Toynbee Tiles " เป็นสตรีทอาร์ต
2001: A Space Odyssey
2001: A Space Odyssey เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายวิทยาศาสตร์ในชุด Space Odyssey ของ Sir Arthur Charles Clarke เกี่ยวกับการเดินทางไปยังดาวเสาร์ของมนุษย์ในปี ค.ศ. 2001
ออกฉายในปี1968 กำกับโดย Stanley Kubrick แต่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องเล็กน้อย จากดาวเสาร์ในฉบับนิยายเป็นดาวพฤหัสบดี ด้วยเหตุผลด้านเทคนิคที่ไม่สามารถสร้างฉากดาวเสาร์ขึ้นมาได้ บทภาพยนตร์จึงเขียนคู่ไปกับฉบับนิยาย
หนังได้รับการยกย่องอย่างสูงในฐานะแบบฉบับของภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ ได้รับรางวัลออสการ์ สาขา Visual Effects และยังเป็นหนึ่งในสิบภาพยนตร์ที่
ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล จากการสำรวจของ Sight & Sound ในปี 2002
เรื่องย่อ : มีการค้นพบแท่งหินสีดำลึกลับที่เรียกว่า" โมโนลิธ " บนดวงจันทร์โดยบังเอิญ และค้นพบร่องรอยว่ามีแท่งหินแบบเดียวกันอีกแท่งบนดวงจันทร์จาเพตัสของดาวเสาร์ ทำให้องค์การนาซาส่งยานโอดิสซีย์ออกไปสำรวจ ซึ่งลูกเรือของยานโอดิสซีย์ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ก่อนจะค้นพบความจริงของจักรวาล
Resurrect Dead: The Mystery of the Toynbee Tiles
เป็นการสืบสวนปริศนาทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนการไต่สวนว่าอะไรเป็นแรงจูงใจ
ให้ค้นหาความหมายที่ซ่อนอยู่ในความลึกลับที่ซ่อนอยู่ใต้เท้าของเรา
ที่มา: Wikipedia / Weird US / Cleveland.com / www.toynbeeidea.com
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
ความลึกลับที่ยังไม่ได้ไขของกระเบื้อง " Toynbee "
ในภาพยนตร์เรื่อง `2001
ฟื้นความตาย
บนดาวเคราะห์ JUPITER
นอกจากนี้ ยังมีกระเบื้องอื่น ๆ ที่มีข้อความทางการเมืองและการเหยียดหยามต่อสังคม - วัฒนธรรมที่เขียนด้วยข้อความที่คลุมเครือคล้ายๆกัน ซึ่งจนถึงขณะนี้ มีการค้นพบกระเบื้องหลายร้อยชิ้น แต่ตัวตนของผู้สร้างหรือจุดประสงค์ยังไม่ชัดเจน
Arnold J. Toynbee เสนอว่า เพื่อให้มนุษย์อยู่รอดได้นั้นจะต้องมุ่งมั่นที่จะบรรลุให้ไกลกว่าที่เป็นไปได้ และเพื่อเข้าถึงบางสิ่งที่แทบจะไม่สามารถเข้าถึงได้
หรือบางทีผู้สร้างอาจต้องการเผยแพร่ข้อความว่า มนุษย์ควรนำแนวคิดของ Toynbee มาใช้และมุ่งมั่นที่จะไปตั้งรกรากที่ดาวพฤหัสบดี ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงผลงานชิ้นเอกของภาพยนตร์ไซไฟในปี 1968 ของ Stanley Kubrick เรื่อง " 2001: A Space Odyssey " เกี่ยวกับภารกิจอวกาศที่ส่งมนุษย์ไปยังดาวพฤหัสบดี
ซึ่งในเรื่อง ตัวละคร Dr. Dave Bowman นักบินอวกาศคนหนึ่งต้องผ่านการเร่งอายุให้มากขึ้น จนเสียชีวิตและเกิดใหม่เป็นทารกในครรภ์ และกลับมายังโลก โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ Kubrick ร่วมเขียนบทกับ Arthur C. Clarke นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ ที่ว่าด้วยการสำรวจวิวัฒนาการของมนุษย์และชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตในจักรวาล
สำหรับกระเบื้อง Toynbee นั้น ปรากฏตัวชิ้นแรกในช่วงทศวรรษที่ 1980 ในฟิลาเดลเฟีย ที่คาดว่าศิลปินนิรนามผู้ทำเป็นชาวเมืองฟิลาเดลเฟีย แต่ส่วนใหญ่ของกระเบื้อง อยู่ในพื้นที่ที่มีพรมแดนติดกับ Kansas City, Missouri ทางตะวันตก / Boston, Massachusetts ทางตอนเหนือ / Washington, D.C ทางตอนใต้ / และ Philadelphia, Pennsylvania ทางตะวันออก
โดยมีข้อยกเว้นอยู่สองเมืองในอเมริกาใต้ เช่นที่ Rio di Janeiro (Brazil), Santiago (Chile) และ Buenos Aires (Argentina) ซึ่งเป็นการยากที่จะบอกว่ากระเบื้องที่อยู่ในเมืองห่างไกลเหล่านี้ เป็นของดั้งเดิมหรือทำขึ้นเพื่อเลียนแบบ
ซึ่งชื่อ "James Morasco" ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นนามแฝงจริง ๆ เมื่อคนที่ชื่อ James Morasco คนเดียวในฟิลาเดลเฟียได้เสียชีวิตในปี 2003
โดยไม่รู้อะไรเกี่ยวกับกระเบื้องเหล่านี้ ในขณะที่ข้อความยังคงปรากฏอยู่นานหลังจากที่เขาตาย
ต่อมาในปี 2011 ชาวเมืองฟิลาเดลเฟีย 4 คนได้จัดทำภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “ Resurrect Dead: The Mystery of the Toynbee Tiles” (คนตายฟื้นคืนชีพ: ความลึกลับของกระเบื้อง Toynbee) ซึ่งพวกเขาได้นำเสนอเรื่องของชายที่ชื่อว่า Severino“ Sevy” Verna ที่อาศัยอยู่ในฟิลาเดลเฟีย
อย่างสันโดษ ในฐานะผู้ต้องสงสัย โดยเชื่อว่า Verna เป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง "James Morasco" แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถให้หลักฐานที่ชัดเจนได้
ในภาพยนตร์สารคดีอ้างว่า Verna วางกระเบื้องผ่านช่องในพื้นรถให้ยึดติดกับถนนโดยใช้น้ำมันดิน และถ่ายทอดข้อความของเขาผ่านสัญญาณวิทยุคลื่นสั้นไปด้วยขณะที่เขาขับรถผ่านบ้านหลายๆหลัง เมื่อเวลาผ่านไปจากความร้อนของดวงอาทิตย์และรถยนต์ที่แล่นไปมา จะทับกระเบื้องให้จมลงในพื้นถนน
จนถึงช่วงกลางทศวรรษที่ 90 กระเบื้องมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเริ่มเขียนตัวอักษรบนกระเบื้องเป็นสีต่างๆ และมีภาพขาของผู้หญิงและเส้นขอบสีสันสดใสขนาบข้างข้อความของกระเบื้อง ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงสภาพไม่เปลี่ยนแปลง แต่จากการที่รถยนต์หลายล้านคันที่วิ่งทับพวกมัน ทำให้กระเบื้องจำนวนมากเสื่อมสภาพและถูกทำลาย แต่ต่อมามันได้รับการดูแลจากการบำรุงรักษาถนน โดยเฉพาะใกล้ทางม้าลายและทางเท้าที่มองเห็นได้ชัดเจน
ปัจจุบัน กระเบื้อง Toynbee ได้รับสถานะทางลัทธิ (cult status) ซึ่งมีเว็บไซต์หลายสิบแห่งที่อุทิศให้กับปรากฏการณ์นี้ โดยกล่าวถึงทฤษฎีค้นหาคำตอบและพยายามไขปริศนา และเมื่อปี 2015 Streets Department of Philadelphia ได้ประกาศให้ " Toynbee Tiles " เป็นสตรีทอาร์ต
ออกฉายในปี1968 กำกับโดย Stanley Kubrick แต่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องเล็กน้อย จากดาวเสาร์ในฉบับนิยายเป็นดาวพฤหัสบดี ด้วยเหตุผลด้านเทคนิคที่ไม่สามารถสร้างฉากดาวเสาร์ขึ้นมาได้ บทภาพยนตร์จึงเขียนคู่ไปกับฉบับนิยาย
หนังได้รับการยกย่องอย่างสูงในฐานะแบบฉบับของภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ ได้รับรางวัลออสการ์ สาขา Visual Effects และยังเป็นหนึ่งในสิบภาพยนตร์ที่
ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล จากการสำรวจของ Sight & Sound ในปี 2002
เรื่องย่อ : มีการค้นพบแท่งหินสีดำลึกลับที่เรียกว่า" โมโนลิธ " บนดวงจันทร์โดยบังเอิญ และค้นพบร่องรอยว่ามีแท่งหินแบบเดียวกันอีกแท่งบนดวงจันทร์จาเพตัสของดาวเสาร์ ทำให้องค์การนาซาส่งยานโอดิสซีย์ออกไปสำรวจ ซึ่งลูกเรือของยานโอดิสซีย์ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ก่อนจะค้นพบความจริงของจักรวาล