จากประสบการณ์ส่วนตัว คิดว่า ง่วงมากกว่าอย่างน้อยสองเท่า
คนที่เคยขับรถทุกคนต้องเคยสัปหงก ระหว่างขับรถมาแล้ว ซึ่งเป็นช่วงสั้นๆสองสามวินาที เลยไม่เกิดอะไรขึ้น
แต่คิดว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงกลางวัน น่าจะเกิดจากการง่วงมากกว่าเมามาก
ส่วนกลางคืน แน่นอนคนเราต้องนอนกลางคืน สาเหตุอาจมีทั้งเมาและง่วง 50:50
น่ามีการทำการวิจัยนะ จะได้แก้ไขให้ถูกจุด
เช่น เราชอบรณรงค์ว่า เมาอย่าขับ แต่ไม่รณรงค์ว่า ง่วงอย่าขับ
คนเมานี่ดูง่าย ตรวจง่ายกว่าคนง่วง ทำให้ตำรวจเช็คไม่ได้ ว่าคนไหนง่วง
เผลอๆคนที่ง่วงก็ไม่รู้ตัวอีก ส่วนใหญ่คิดว่าไหว เพราะมันจะมีช่วงหายง่วงเป็นพักๆ
แต่พอวูบขึ้นมาไม่รู้ตัวหรอก
ระหว่างรถเกิดอุบัติเหตุเพราะง่วง กับ อุบัติเหตุเพราะเมา อย่างไหนเป็นต้นเหตุมากกว่ากัน
คนที่เคยขับรถทุกคนต้องเคยสัปหงก ระหว่างขับรถมาแล้ว ซึ่งเป็นช่วงสั้นๆสองสามวินาที เลยไม่เกิดอะไรขึ้น
แต่คิดว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงกลางวัน น่าจะเกิดจากการง่วงมากกว่าเมามาก
ส่วนกลางคืน แน่นอนคนเราต้องนอนกลางคืน สาเหตุอาจมีทั้งเมาและง่วง 50:50
น่ามีการทำการวิจัยนะ จะได้แก้ไขให้ถูกจุด
เช่น เราชอบรณรงค์ว่า เมาอย่าขับ แต่ไม่รณรงค์ว่า ง่วงอย่าขับ
คนเมานี่ดูง่าย ตรวจง่ายกว่าคนง่วง ทำให้ตำรวจเช็คไม่ได้ ว่าคนไหนง่วง
เผลอๆคนที่ง่วงก็ไม่รู้ตัวอีก ส่วนใหญ่คิดว่าไหว เพราะมันจะมีช่วงหายง่วงเป็นพักๆ
แต่พอวูบขึ้นมาไม่รู้ตัวหรอก