ในกระทู้มีสปอยล์มังงะถึงตอนที่ 137
เนื่องจากอีกไม่นาน ตอนรองสุดท้ายของ Attack on Titan ก็ใกล้จะออกแล้ว เมื่อตอนที่ 138 ออก ปมหลาย ๆ อย่างน่าจะถูกคลายเกือบหมดแล้ว วันนี้เลยถือโอกาสตั้งกระทู้รวมเรื่องราวต่าง ๆ ของเอเรนกับฮิสทอเรีย รวมถึงเพื่ออวยคู่นี้เป็นครั้งสุดท้าย? ( เผื่อตอนหน้าเฉลยว่าฟาร์มเมอร์คุงเป็นพ่อเด็ก ก็จะไม่ได้อวยอย่างนี้อีกแล้ว ) อย่างไรก็ตาม การ์ตูนเรื่องนี้ยังไม่จบ แถมยังมีปมปลายเปิดอีกเยอะ บางข้อเลยอาจจะมีการคาดเดา มโน หรือ bias บ้าง
สำหรับเนื้อหากระทู้ จขกท. ไม่ได้วิเคราะห์เองทั้งหมด แต่เป็นการอ่านจากหลาย ๆ ที่ แล้วนำมาผสมกับความคิดของตัวเอง และเรียบเรียงออกมา ใครมีความเห็นอย่างไรเชิญคอมเมนต์แลกเปลี่ยนความคิดกันได้เลยนะครับ
1. เอเรนกับฮิสทอเรีย เป็นสองตัวละครที่พบเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กัน ตั้งแต่เด็ก
- ในสมัยเด็ก เมื่อเอเรนได้อ่านหนังสือเรื่องโลกภายนอกกับอาร์มิน เขาได้รู้ว่าตนเองนั้นไม่ได้เป็นอิสระ เช่นเดียวกับฮิสทอเรีย เมื่อเธออ่านหนังสือเกี่ยวกับครอบครัว เธอได้รู้ว่าตัวเองโดดเดี่ยวเพียงใด ที่ไม่มีพ่อแม่คอยให้ความรัก ทำให้นั่นกลายเป็นปมในใจของทั้งสองคน
- ทั้งคู่ยังต้องเห็นแม่ตัวเองถูกฆ่ากับตา แม้จะต่างสถานการณ์ แต่พวกเขาก็รู้สึกผิดต่อเหตุการณ์นั้น เอเรนคิดว่าถ้าเขาแข็งแกร่ง ก็คงจะปกป้องแม่ไม่ให้โดนกินได้ ฮิสทอเรียคิดว่า ถ้าเธอไม่เกิดมา แม่ก็คงไม่โดนฆ่าเช่นกัน
- สองคนนี้ถูกพ่อฝากฝัง/ยัดเยียดอุดมการณ์ให้เหมือนกัน กรณีเอเรนอาจจะไม่เชิง เราเห็นว่าเอเรนตอนโตก็ปั่นหัวพ่อตัวเองอยู่บ้าง แต่ในตอนที่เขาได้รับพลังมานั้นก็เป็นการตัดสินใจของตัวกริช่าเอง ที่จะส่งต่อพลังไททันจู่โจมและไททันบรรพบุรุษให้เอเรน เช่นเดียวกับฮิสทอเรีย ร็อด รีส ก็หมายมั่นปั้นมือให้เธอกินเอเรนเพื่อเอาพลังไททันบรรพบุรุษ แล้วสืบทอดอุดมการณ์ของกษัตริย์คาร์ล ฟริสต์ต่อไป
- เคยรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าเหมือนกัน เรื่องนี้เห็นได้ชัดในตัวละครฮิสทอเรีย สมัยเด็ก เธอไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแม่เลย คำแรกที่แม่พูดกับเธอก็ไม่ใช่คำที่ดีสักนิด แม้แต่ฟรีด้ายังจากเธอไปอีกคน ทำให้เธอรู้สึกว่าแล้วแบบนี้เธอจะเกิดมาทำไม ส่วนเอเรน ในตอนที่เขารับรู้ความจริงเกี่ยวกับไททันบรรพบุรุษ เขาถึงกับร้องขอให้ฮิสทอเรียกินเขาซะ เพราะเขามันไร้ค่า ไม่น่าเกิดมาแต่แรก ซึ่งก็ได้ฮิสทอเรียนี่แหละ ที่ช่วยเขาไว้ให้กลับมาเชื่อมั่นในตัวเองได้
- ความสัมพันธ์กับคนรอบตัวใกล้เคียงกัน ข้อนี้อาจไม่สำคัญเท่าไร แต่หากจะเปรียบเทียบ เอเรนนั้นมีมิคาสะมาคอยปกป้องดูแลอยู่เสมอ ฮิสทอเรียก็มียูมีร์เช่นกัน ทั้งสองคนยังมีพี่น้องต่างแม่เช่นเดียวกันอีกด้วย คือ ฟรีด้า กับ ซีค
- ทั้งคู่ยังเป็นคนที่จัดการไททันที่ตัวใหญ่มาก ๆ ได้เหมือนกัน โดยเอเรนจัดการแบร์โทลต์ ส่วนฮิสทอเรียเป็นคนสังหารร็อด รีส
2. เรื่องของทั้งสองคน อาจเป็นภาพสะท้อนของเรื่องปีศาจกับเด็กสาว แต่เป็นในแบบที่ต่างออกไป
- ในเรื่อง Attack on Titan มีการกล่าวถีงเรื่องปีศาจกับเด็กสาว ซึ่งเด็กสาวคนนี้เป็นคนที่จิตใจดี โอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น และเธอก็ได้ทำสัญญากับปีศาจ โดยเธอมอบบางอย่างให้กับปีศาจเพื่อให้ได้รับพลังมา ซึ่งในตำนานของชาวเอลเดีย เด็กสาวคนนั้นคือ ยูมีร์ ฟริสต์
- อย่างไรก็ตาม ในความจริง ยูมีร์ เป็นเพียงแค่ทาส และหลังจากเธอได้พลังไททันมา พลังของเธอก็ถูกใช้ประโยชน์โดยราชาฟริสต์องค์แรกเพื่อทำตามใจตัวเอง โดยสิ่งที่เธอได้รับตอบแทนก็คือ การได้มีลูกกับราชาฟริสต์ ซึ่งไม่แน่ใจว่ามันดีต่อเธอหรือไม่
- จึงอาจตีความได้ว่า ปีศาจตนนี้ คือ ราชาฟริสต์ ที่ใช้ประโยชน์จากพลังของเด็กสาว และเด็กสาวที่จิตใจดีคนนั้นก็คือยูมีร์
- ซึ่งเรื่องราวของยูมีร์ ก็ดันไปคล้ายคลึงกับฮิสทอเรียพอสมควร คือโตมาอย่างไม่เคยได้รับความรัก และยังถูกคาดหวังให้เป็นคนจิตใจดี โอบอ้อมอารี
แต่ตรงข้ามกับยูมีร์ ฮิสทอเรียเป็นราชินี ไม่ใช่ทาส และฮิสทอเรียก็ไม่มีพลังไททัน ส่วนคนที่มีพลังไททัน อาจเป็นคนที่เล่นบทปีศาจอีกคนในเรื่องนี้ คือเอเรน เยเกอร์
- หากเอเรนเป็นปีศาจในเรื่องนี้จริง ๆ เขาจะเป็นปีศาจที่ต่างกับราชาฟริสต์โดยสิ้นเชิง ราชาฟริสต์ใช้ยูมีร์เป็นอาวุธสงคราม โรงงานผลิตลูก แถมยูมีร์ยังปกป้องเขาจนวาระสุดท้าย แต่เอเรนนั้นปกป้องฮิสทอเรียอย่างออกหน้าตาออกตาอยู่บ่อยครั้ง เราเห็นอีกว่า เขาจะไม่ยอมเสียสละฮิสทอเรียเด็ดขาด และไม่ยอมให้เธอเป็นโรงงานผลิตลูกแน่ ๆ
- นอกจากนี้ ในทุกเวอร์ชันของรูปนี้ เด็กสาวจะทำท่ามอบแอปเปิ้ลให้ปีศาจเสมอ ซึ่งในเชิงสัญลักษณ์ แอปเปิ้ล นั้นหมายความได้หลายแบบ เช่น ความรัก ความรู้ ความหรูหรา ความตาย รวมถึงการเจริญพันธุ์ ซึ่งอาจตีความได้ว่า เด็กสาวมอบทายาทให้ปีศาจ
- สำหรับยูมีร์ เธอก็ได้มอบทายาทให้ราชาฟริสต์จริง ๆ แต่สำหรับฮิสทอเรีย ยังไม่แน่ชัดว่าเธอตั้งครรภ์กับเอเรนหรือเปล่า
3. เอเรนอาจจะเกี่ยวข้องการตั้งครรภ์ของฮิสทอเรีย
- ต้องเล่าก่อนว่า หนึ่งในแนวคิดของเรื่อง Attack on Titan คือการก้าวข้ามความผิดพลาดของคนรุ่นก่อน โดยเราเห็นได้บ่อยครั้ง เช่น การต่อสู้กับกลุ่มอำนาจเก่าของหน่วยสำรวจ การที่ฮิสทอเรียสังหารและปฏิเสธอุดมการณ์ของร็อด รีส การที่ไรเนอร์ ฟัลโก้ กาบิ ก้าวข้ามความเกลียดชังที่ชาวมาเลย์รุ่นก่อนปลูกฝังไว้ และการใช้ลูกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกริช่า เยเกอร์ และร็อด รีส
- เมื่อซีค เยเกอร์เกิดมา กริช่ากับไดน่านั้นหวังเต็มที่ให้เขาเป็นผู้กอบกู้ของชาวเอลเดีย เช่นเดียวกับในตระกูลรีส เด็กทุกคนถูกคาดหวังให้เป็นตัวเลือกในการสืบทอดพลังไททันบรรพบุรุษ
- แม้ในช่วงแรก เราจะเข้าใจจากคำพูดของทหารชั้นสูงว่า การที่ฮิสทอเรียท้องนั้นเป็นแผนการเพื่อให้เธอไม่ต้องกินซีค โดยเอเรน หรือเยเลน่า ต้องเป็นคนไปบอกเรื่องนี้กับเธอแน่ ๆ หากเป็นอย่างนั้น เด็กที่เกิดมาก็คงเป็นแค่เครื่องมือทางการเมือง
- หากนี่เป็นแผนของเอเรน มันจะฟังดูขัดแย้งกับสิ่งที่เขาเคยพูดมาก ๆ ที่ว่าจะไม่ยอมให้ฮิสทอเรียมีลูกด้วยจุดประสงค์แบบนี้เด็ดขาด
แต่ในตอนที่ 130 เราได้รู้กันแล้วว่า นี่ไม่ใช่ความคิดหรือแผนของเอเรน นี่เป็นความคิดของฮิสทอเรียเองต่างหาก ซึ่งก็ยังไม่แน่ชัดว่าเธอท้องกับใคร
- จากนี้ไปจะเป็นความคิดเห็นของผม เนื่องจากฮิสทอเรียโตมาอย่างไม่ได้รับความรักจากพ่อแม่ ผมเลยเชื่อว่า ลูกของเธอต้องเกิดจากความตั้งใจที่จะสร้างครอบครัวของเธอจริง ๆ และเพื่อก้าวข้ามความผิดพลาดของพ่อแม่ เธอจะต้องรักลูกแบบที่พ่อแม่เธอไม่เคยทำให้ได้
- ส่วนเรื่องพ่อเด็ก หากฟาร์มเมอร์คุงเป็นพ่อจริง ๆ แสดงว่าฮิสทอเรียเลือกที่จะสร้างครอบครัวกับเขา แต่พวกเขาสองคนไม่แต่งงานกันด้วยซ้ำ แถมวิธีการพูดของฟาร์มเมอร์คุง หรือสีหน้าที่ฮิสทอเรียแสดง มันดูไม่เหมือนคนรักกันซักเท่าไหร่ (bias)
- หากฮิสทอเรียอยากจะสร้างครอบครัวจริง ๆ เธอมาสร้างกับคนที่เข้าอกเข้าใจ ผ่านอะไรมาด้วยกัน เป็นห่วงเป็นใย และมีพลังที่พร้อมจะปกป้องเธอและครอบครัวไม่ดีกว่าเหรอ ในเมื่อยูมีร์จากเธอไปแล้ว แล้วมันจะเป็นใครไปได้ล่ะนอกจากเอเรน (โคตร bias)
- หากเอเรนเป็นพ่อเด็กจริง ๆ แล้วสุดท้ายเขาปลดปล่อยชาวเอลเดีย และจบวังวนไททันได้ เขาก็จะเป็นอีกคนที่ก้าวข้ามพ่อของตัวเองได้ คือทำตามอุดมการณ์สำเร็จ โดยไม่ใช้ลูกตัวเองเป็นเครื่องมือ
- อย่างไรก็ตาม หากเอเรนไม่อยากมีลูก เพราะอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน แล้วฟาร์มเมอร์คุงเป็นพ่อจริง ๆ ก็ไม่เสียหาย ยังไงก็คงไม่ทำให้ฮิสทอเรียรักลูกของเธอน้อยลง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เอเรนปกป้องและห่วงใยฮิสทอเรียมากแค่ไหน ที่เขายอมทำทั้งหมดนั้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไม่ถูกผูกมัดอยู่กับบาปของคนรุ่นก่อน
- ข้อสังเกตเพิ่มเติมจากในมังงะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- สำหรับเรื่องเวลา การที่เอเรนเป็นพ่อเด็กก็มีความเป็นไปได้ เขาอาจจะใช้เวลาก่อนไปมาเลย์มาอยู่กับฮิสทอเรีย เราเห็นได้ว่าเมื่อหน่วยสำรวจรวมตัวกัน เอเรนไม่ได้อยู่ด้วยในบางครั้ง เช่น ตอนที่กินอาหารทะเลครั้งแรก
- เรายังอาจคาดเดาได้อีกว่า ฮิสทอเรียโกหกเรื่องเวลาท้อง ลีไวเคยพูดไว้ว่า ฮิสทอเรียอาจจะคลอดในอีกไม่กี่เดือน ฟังแล้วก็เข้าใจว่า 2 - 3 เดือน แต่ไป ๆ มา ๆ เธอดันคลอดลูกหลังมาเลย์โจมตีไม่นานเท่านั้น ซึ่งไม่น่าเกิน 2 - 3 สัปดาห์หลังจากลีไวพูด แปลว่าเธออาจจะท้องนานแล้ว แต่บอกช้า ทำให้พวกลีไวเข้าใจผิด
- นอกจากนี้ หากเอเรนเป็นพ่อเด็กจริง นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ช่วงหลังเขาเดินหน้าอย่างมากในแผนการปลดปล่อยชาวเอลเดีย ไม่ใช่แค่เพื่อประชาชน เพื่อน แต่รวมถึงครอบครัวของเขาด้วย
- ฉากที่เอเรนเห็นความทรงจำในตอนที่ 120 มีกรอบหนึ่งเป็นรูปฮิสทอเรียผมสั้นกำลังน้ำตาคลอ ซึ่งเราได้เห็นว่าในตอน 130 นั้น เธอยังผมยาวอยู่ เพิ่งมาผมสั้นตอนท้องโตแล้ว อาจเป็นไปได้ว่าหลังเขาแหกคุกออกมา เขาไปหาฮิสทอเรียก่อน เพื่อไปดูเธอและลูกหรือเปล่า เพราะดูแล้วน่าจะเป็นโอกาสเดียวที่เขาจะไปได้
- สำหรับรายละเอียดเล็ก ๆ ที่อาจตีความได้ เช่น ฉากที่ฮิสทอเรียคลอดลูกนั้นตัดสลับกับฉากที่เอเรนกำลังควบคุมไททันไปเหยียบชาวโลกอยู่พอดี อาจเป็นการแสดงความ contrast ว่าขณะที่เขาได้ให้กำเนิดชีวิต เขาก็กำลังทำลายชีวิตมากมายเช่นกัน
- คนที่อยู่กับฮิสทอเรียตอนเธอไปหาฟาร์มเมอร์คุงนั้นสวมฮู้ด แน่นอนว่าใคร ๆ ก็สวมฮู้ดได้ แม้สีเสื้อจะไม่ได้เหมือนกันมาก แต่ช่วงหลัง ตัวละครที่เราเห็นว่าสวมฮู้ดบ่อย ๆ ก็คือ เอเรน
- อันนี้อาจจะคิดมากไป แต่มีคนสังเกตว่า ในขณะที่ยูมีร์กำลังจะยกเลิกความสามารถในการมีลูกของชาวเอลเดีย เอเรนถึงกับยอมกระชากมือออกจากโซ่ตรวนจนนิ้วขาด ถ้าเอเรนรู้อยู่แล้วว่าเขาควบคุมพลังได้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องร้อนรน ไปเปลี่ยนคืนทีหลังก็ได้ แต่เขาดูตกใจและรีบร้อน ก็อาจตีความได้ว่าเขานึกถึงฮิสทอเรีย กลัวว่าเธอจะแท้งลูก (ของเขา?) หรือเปล่า หากโดนลบความสามารถในการมีลูกออกไป
- มีอีกข้อสันนิษฐานนึงว่า ฮิสทอเรียท้องกับฟาร์มเมอร์คุงอยู่แล้ว เลยถามเอเรนเรื่องมีลูกไปว่าจะเป็นยังไง แต่เราจะสังเกตได้ว่า ตอนฮิสทอเรียคุยกับเอเรน เธอยังยิ้มแย้มได้อยู่ แต่ตอนไปหาฟาร์มเมอร์คุงครั้งแรก ( ไม่ชัวร์ว่าครั้งแรกไหม ) เธอก็ดูเศร้าแล้ว ซึ่งสีหน้าแบบนั้นไม่น่าใช่ของคนที่กำลังอยากจะสร้างครอบครัวซักเท่าไหร่ ดังนั้น ฮิสทอเรียน่าจะคุยกับเอเรนก่อน แล้วค่อยเกิดเหตุการณ์ไปหาฟาร์มเมอร์คุงมากกว่า
- เพิ่มเติม อันนี้เพิ่งสังเกตเห็นแต่น่าสนใจมาก คือตอนที่ 89 และ 107 เป็นสองตอนที่วางโครงได้คล้ายกันมาก ๆ โดยทั้งสองตอนเปิดเรื่องที่ฮันจิคุยกับเอเรนในคุกเหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีการประชุม เอเรนยังพูดปกป้องฮิสทอเรียทั้งสองตอน อย่างไรก็ตาม มีข้อแตกต่างกันในช่วงสุดท้าย คือตอนที่ 89 จบด้วยเอเรน ครูเกอร์ ฝากข้อความให้คนในอนาคต ว่าให้มีครอบครัว มอบความรักให้คนในกำแพงซะ แต่ตอนที่ 107 นั้น จบด้วยการเปิดเผยว่าฮิสทอเรียท้อง
เรื่องราวความสัมพันธ์ของเอเรนกับฮิสทอเรีย
เนื่องจากอีกไม่นาน ตอนรองสุดท้ายของ Attack on Titan ก็ใกล้จะออกแล้ว เมื่อตอนที่ 138 ออก ปมหลาย ๆ อย่างน่าจะถูกคลายเกือบหมดแล้ว วันนี้เลยถือโอกาสตั้งกระทู้รวมเรื่องราวต่าง ๆ ของเอเรนกับฮิสทอเรีย รวมถึงเพื่ออวยคู่นี้เป็นครั้งสุดท้าย? ( เผื่อตอนหน้าเฉลยว่าฟาร์มเมอร์คุงเป็นพ่อเด็ก ก็จะไม่ได้อวยอย่างนี้อีกแล้ว ) อย่างไรก็ตาม การ์ตูนเรื่องนี้ยังไม่จบ แถมยังมีปมปลายเปิดอีกเยอะ บางข้อเลยอาจจะมีการคาดเดา มโน หรือ bias บ้าง
สำหรับเนื้อหากระทู้ จขกท. ไม่ได้วิเคราะห์เองทั้งหมด แต่เป็นการอ่านจากหลาย ๆ ที่ แล้วนำมาผสมกับความคิดของตัวเอง และเรียบเรียงออกมา ใครมีความเห็นอย่างไรเชิญคอมเมนต์แลกเปลี่ยนความคิดกันได้เลยนะครับ
1. เอเรนกับฮิสทอเรีย เป็นสองตัวละครที่พบเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ กัน ตั้งแต่เด็ก
- ในสมัยเด็ก เมื่อเอเรนได้อ่านหนังสือเรื่องโลกภายนอกกับอาร์มิน เขาได้รู้ว่าตนเองนั้นไม่ได้เป็นอิสระ เช่นเดียวกับฮิสทอเรีย เมื่อเธออ่านหนังสือเกี่ยวกับครอบครัว เธอได้รู้ว่าตัวเองโดดเดี่ยวเพียงใด ที่ไม่มีพ่อแม่คอยให้ความรัก ทำให้นั่นกลายเป็นปมในใจของทั้งสองคน
- ทั้งคู่ยังต้องเห็นแม่ตัวเองถูกฆ่ากับตา แม้จะต่างสถานการณ์ แต่พวกเขาก็รู้สึกผิดต่อเหตุการณ์นั้น เอเรนคิดว่าถ้าเขาแข็งแกร่ง ก็คงจะปกป้องแม่ไม่ให้โดนกินได้ ฮิสทอเรียคิดว่า ถ้าเธอไม่เกิดมา แม่ก็คงไม่โดนฆ่าเช่นกัน
- สองคนนี้ถูกพ่อฝากฝัง/ยัดเยียดอุดมการณ์ให้เหมือนกัน กรณีเอเรนอาจจะไม่เชิง เราเห็นว่าเอเรนตอนโตก็ปั่นหัวพ่อตัวเองอยู่บ้าง แต่ในตอนที่เขาได้รับพลังมานั้นก็เป็นการตัดสินใจของตัวกริช่าเอง ที่จะส่งต่อพลังไททันจู่โจมและไททันบรรพบุรุษให้เอเรน เช่นเดียวกับฮิสทอเรีย ร็อด รีส ก็หมายมั่นปั้นมือให้เธอกินเอเรนเพื่อเอาพลังไททันบรรพบุรุษ แล้วสืบทอดอุดมการณ์ของกษัตริย์คาร์ล ฟริสต์ต่อไป
- เคยรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าเหมือนกัน เรื่องนี้เห็นได้ชัดในตัวละครฮิสทอเรีย สมัยเด็ก เธอไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแม่เลย คำแรกที่แม่พูดกับเธอก็ไม่ใช่คำที่ดีสักนิด แม้แต่ฟรีด้ายังจากเธอไปอีกคน ทำให้เธอรู้สึกว่าแล้วแบบนี้เธอจะเกิดมาทำไม ส่วนเอเรน ในตอนที่เขารับรู้ความจริงเกี่ยวกับไททันบรรพบุรุษ เขาถึงกับร้องขอให้ฮิสทอเรียกินเขาซะ เพราะเขามันไร้ค่า ไม่น่าเกิดมาแต่แรก ซึ่งก็ได้ฮิสทอเรียนี่แหละ ที่ช่วยเขาไว้ให้กลับมาเชื่อมั่นในตัวเองได้
- ความสัมพันธ์กับคนรอบตัวใกล้เคียงกัน ข้อนี้อาจไม่สำคัญเท่าไร แต่หากจะเปรียบเทียบ เอเรนนั้นมีมิคาสะมาคอยปกป้องดูแลอยู่เสมอ ฮิสทอเรียก็มียูมีร์เช่นกัน ทั้งสองคนยังมีพี่น้องต่างแม่เช่นเดียวกันอีกด้วย คือ ฟรีด้า กับ ซีค
- ทั้งคู่ยังเป็นคนที่จัดการไททันที่ตัวใหญ่มาก ๆ ได้เหมือนกัน โดยเอเรนจัดการแบร์โทลต์ ส่วนฮิสทอเรียเป็นคนสังหารร็อด รีส
2. เรื่องของทั้งสองคน อาจเป็นภาพสะท้อนของเรื่องปีศาจกับเด็กสาว แต่เป็นในแบบที่ต่างออกไป
- ในเรื่อง Attack on Titan มีการกล่าวถีงเรื่องปีศาจกับเด็กสาว ซึ่งเด็กสาวคนนี้เป็นคนที่จิตใจดี โอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น และเธอก็ได้ทำสัญญากับปีศาจ โดยเธอมอบบางอย่างให้กับปีศาจเพื่อให้ได้รับพลังมา ซึ่งในตำนานของชาวเอลเดีย เด็กสาวคนนั้นคือ ยูมีร์ ฟริสต์
- อย่างไรก็ตาม ในความจริง ยูมีร์ เป็นเพียงแค่ทาส และหลังจากเธอได้พลังไททันมา พลังของเธอก็ถูกใช้ประโยชน์โดยราชาฟริสต์องค์แรกเพื่อทำตามใจตัวเอง โดยสิ่งที่เธอได้รับตอบแทนก็คือ การได้มีลูกกับราชาฟริสต์ ซึ่งไม่แน่ใจว่ามันดีต่อเธอหรือไม่
- จึงอาจตีความได้ว่า ปีศาจตนนี้ คือ ราชาฟริสต์ ที่ใช้ประโยชน์จากพลังของเด็กสาว และเด็กสาวที่จิตใจดีคนนั้นก็คือยูมีร์
- ซึ่งเรื่องราวของยูมีร์ ก็ดันไปคล้ายคลึงกับฮิสทอเรียพอสมควร คือโตมาอย่างไม่เคยได้รับความรัก และยังถูกคาดหวังให้เป็นคนจิตใจดี โอบอ้อมอารี
แต่ตรงข้ามกับยูมีร์ ฮิสทอเรียเป็นราชินี ไม่ใช่ทาส และฮิสทอเรียก็ไม่มีพลังไททัน ส่วนคนที่มีพลังไททัน อาจเป็นคนที่เล่นบทปีศาจอีกคนในเรื่องนี้ คือเอเรน เยเกอร์
- หากเอเรนเป็นปีศาจในเรื่องนี้จริง ๆ เขาจะเป็นปีศาจที่ต่างกับราชาฟริสต์โดยสิ้นเชิง ราชาฟริสต์ใช้ยูมีร์เป็นอาวุธสงคราม โรงงานผลิตลูก แถมยูมีร์ยังปกป้องเขาจนวาระสุดท้าย แต่เอเรนนั้นปกป้องฮิสทอเรียอย่างออกหน้าตาออกตาอยู่บ่อยครั้ง เราเห็นอีกว่า เขาจะไม่ยอมเสียสละฮิสทอเรียเด็ดขาด และไม่ยอมให้เธอเป็นโรงงานผลิตลูกแน่ ๆ
- นอกจากนี้ ในทุกเวอร์ชันของรูปนี้ เด็กสาวจะทำท่ามอบแอปเปิ้ลให้ปีศาจเสมอ ซึ่งในเชิงสัญลักษณ์ แอปเปิ้ล นั้นหมายความได้หลายแบบ เช่น ความรัก ความรู้ ความหรูหรา ความตาย รวมถึงการเจริญพันธุ์ ซึ่งอาจตีความได้ว่า เด็กสาวมอบทายาทให้ปีศาจ
- สำหรับยูมีร์ เธอก็ได้มอบทายาทให้ราชาฟริสต์จริง ๆ แต่สำหรับฮิสทอเรีย ยังไม่แน่ชัดว่าเธอตั้งครรภ์กับเอเรนหรือเปล่า
3. เอเรนอาจจะเกี่ยวข้องการตั้งครรภ์ของฮิสทอเรีย
- ต้องเล่าก่อนว่า หนึ่งในแนวคิดของเรื่อง Attack on Titan คือการก้าวข้ามความผิดพลาดของคนรุ่นก่อน โดยเราเห็นได้บ่อยครั้ง เช่น การต่อสู้กับกลุ่มอำนาจเก่าของหน่วยสำรวจ การที่ฮิสทอเรียสังหารและปฏิเสธอุดมการณ์ของร็อด รีส การที่ไรเนอร์ ฟัลโก้ กาบิ ก้าวข้ามความเกลียดชังที่ชาวมาเลย์รุ่นก่อนปลูกฝังไว้ และการใช้ลูกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกริช่า เยเกอร์ และร็อด รีส
- เมื่อซีค เยเกอร์เกิดมา กริช่ากับไดน่านั้นหวังเต็มที่ให้เขาเป็นผู้กอบกู้ของชาวเอลเดีย เช่นเดียวกับในตระกูลรีส เด็กทุกคนถูกคาดหวังให้เป็นตัวเลือกในการสืบทอดพลังไททันบรรพบุรุษ
- แม้ในช่วงแรก เราจะเข้าใจจากคำพูดของทหารชั้นสูงว่า การที่ฮิสทอเรียท้องนั้นเป็นแผนการเพื่อให้เธอไม่ต้องกินซีค โดยเอเรน หรือเยเลน่า ต้องเป็นคนไปบอกเรื่องนี้กับเธอแน่ ๆ หากเป็นอย่างนั้น เด็กที่เกิดมาก็คงเป็นแค่เครื่องมือทางการเมือง
- หากนี่เป็นแผนของเอเรน มันจะฟังดูขัดแย้งกับสิ่งที่เขาเคยพูดมาก ๆ ที่ว่าจะไม่ยอมให้ฮิสทอเรียมีลูกด้วยจุดประสงค์แบบนี้เด็ดขาด
แต่ในตอนที่ 130 เราได้รู้กันแล้วว่า นี่ไม่ใช่ความคิดหรือแผนของเอเรน นี่เป็นความคิดของฮิสทอเรียเองต่างหาก ซึ่งก็ยังไม่แน่ชัดว่าเธอท้องกับใคร
- จากนี้ไปจะเป็นความคิดเห็นของผม เนื่องจากฮิสทอเรียโตมาอย่างไม่ได้รับความรักจากพ่อแม่ ผมเลยเชื่อว่า ลูกของเธอต้องเกิดจากความตั้งใจที่จะสร้างครอบครัวของเธอจริง ๆ และเพื่อก้าวข้ามความผิดพลาดของพ่อแม่ เธอจะต้องรักลูกแบบที่พ่อแม่เธอไม่เคยทำให้ได้
- ส่วนเรื่องพ่อเด็ก หากฟาร์มเมอร์คุงเป็นพ่อจริง ๆ แสดงว่าฮิสทอเรียเลือกที่จะสร้างครอบครัวกับเขา แต่พวกเขาสองคนไม่แต่งงานกันด้วยซ้ำ แถมวิธีการพูดของฟาร์มเมอร์คุง หรือสีหน้าที่ฮิสทอเรียแสดง มันดูไม่เหมือนคนรักกันซักเท่าไหร่ (bias)
- หากฮิสทอเรียอยากจะสร้างครอบครัวจริง ๆ เธอมาสร้างกับคนที่เข้าอกเข้าใจ ผ่านอะไรมาด้วยกัน เป็นห่วงเป็นใย และมีพลังที่พร้อมจะปกป้องเธอและครอบครัวไม่ดีกว่าเหรอ ในเมื่อยูมีร์จากเธอไปแล้ว แล้วมันจะเป็นใครไปได้ล่ะนอกจากเอเรน (โคตร bias)
- หากเอเรนเป็นพ่อเด็กจริง ๆ แล้วสุดท้ายเขาปลดปล่อยชาวเอลเดีย และจบวังวนไททันได้ เขาก็จะเป็นอีกคนที่ก้าวข้ามพ่อของตัวเองได้ คือทำตามอุดมการณ์สำเร็จ โดยไม่ใช้ลูกตัวเองเป็นเครื่องมือ
- อย่างไรก็ตาม หากเอเรนไม่อยากมีลูก เพราะอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน แล้วฟาร์มเมอร์คุงเป็นพ่อจริง ๆ ก็ไม่เสียหาย ยังไงก็คงไม่ทำให้ฮิสทอเรียรักลูกของเธอน้อยลง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เอเรนปกป้องและห่วงใยฮิสทอเรียมากแค่ไหน ที่เขายอมทำทั้งหมดนั้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไม่ถูกผูกมัดอยู่กับบาปของคนรุ่นก่อน
- ข้อสังเกตเพิ่มเติมจากในมังงะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้