เมื่อนานมาแล้วคนพื้นเมืองนับถือพระเจ้ากันหลายองค์มากหลังจากนั้นมีคนที่ชื่ออับบลาฮัม อ้างตัวว่าติดต่อกับพระเจ้าได้และตั้งศาสนาเป็นศาสนายูดายในปัจจุบัน หลังจากนั้นยิวก็ตกเป็นเมืองขึ้นของทางโรมัน ทางยูดายเชื่อว่าจะมีผู้ปลดปล่อยชาวยิวที่พระเจ้าส่งมา หลังจากนั้นพระเยซูเกิดมา ผู้คนบางส่วนคิดว่าเยซูคือคนตามคำทำนายแต่ก็มีพวกที่ไม่เชื่อ ศาสนายูดายเลยถูกแบ่งเป็นพวกที่ยอมรับกับไม่ยอมรับเยซู แต่ยังเป็นศาสนายูดายอยู่ หลังจากเยซูโดนตรึงกางเขนตายก็มีชาวยิวที่เป็นลูกศิษย์ของเยซูไปเผยแพร่ทางยุโรปรวมกะนิทานพื้นบ้านทางด้านยุโรปกลายเป็นคริสครับ
แล้วศาสนาคริสนิกายหนึ่งโดนขับไล่ไปอาหรับ ไปผสมกับศาสนาพื้นบ้าน(ศาสนาดั้งเดิมของอิสลามคือการบูชาเทพดวงจันทร เรียกเทพนี้ว่าอัลเลาะ มีการบูชาหินที่เชื่อว่ามาจากพระจันทร ครอบครัวมุฮัมหมัดรับใช้เทพนี้ ต่อมามุฮัมหมัดได้คัมภีร์ยิวไปจึงปฏิรูปศาสนาตามเรื่องราวในคัมภีร์ยิว เอาmain storyมาใช้ อันที่จริงแกนหลักที่มุฮัมหมัดบูชายังคงเป็นเทพพระจันทรเหมือนเดิมบูชาหินก้อนเดิม พูดง่ายๆคือเอาเรื่องราวพระยาเวห์มาสวมทับเทพพระจันทร์ของตนนั่นเอง ซึ่งตอนนี้ดวนจันทร์มันไม่ได้มีเทพอยู่จริง)
 จนกลายเป็นอิสลาม ซึ่งข้อมูลที่ทางอิสลามบอกว่ามูฮัมหมัดติดต่อกับพระเจ้าได้นั้นไม่จริง ประวัติและเนื้อหาคำสอนจะพบว่า มุฮัมหมัดได้ข้อมูลศาสนาคริสนิกายเนสโทเรียนเอามาแต่งคัมภีร์กุรอ่านครับ(หนึ่งในภรรยามุฮัมหมัดมีบิดาเป็นนัดบวชเนสโทเรียน ดังนั้นอิสลามเกิดจากยูดายที่ปนกับวัฒนธรรยุโรปแล้วก็มาปนกับความเชื่อทางตะวันออกกลางงอีกรอบเรียกได้ว่าปนกันมั่ว แล้วมาเคลมว่าเพราะเจ้าให้อัลกุลอ่านมาทั้งๆที่ก๊อปมาจากฝั่งยูดายแล้วทำการแต่งเติมเพื่อเพิ่มความหวาดกลัวให้คนที่ไม่นับถือว่าจะตกนรกทั้งที่ศาสนาก่อนๆที่ยังไม่ได้เรียกว่ายะโฮวาที่เป็นรากฐานของอิสลามมีคำสอนว่าไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรแต่พอตายพระเจ้าจะมาให้เห็นถ้าเรายังละทิ้งพระเจ้าอีกพระเจ้าก็จะทำลายเราทิ้งตลอดการ