เหมือนวิญญาณพยายามที่จะออกจากร่างกายที่กำลังหลับอยู่
ตัวดิฉันเป็นคนสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนทุกคืน บทสวดมนต์ก็คือของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน เคยไปบวชที่วัดหลวงพ่อตอนอายุ 26 ปี ตอนนั้นคือบวชถือศีล 8 บวชอยู่ประมาณกนึ่งอาทิตย์ เป็นคนที่เชื่อในทางพระพุทธศาสนาแต่ไม่งมงาย เชื่อและศรัทธาในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า โอเคเข้าเรื่องเลยแล้วกันค่ะ
เรื่องเพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆตอนบ่ายโมงที่ดิฉันนอนกลางวันวันนี้นอนตอนกลางวัน ลูกชายนั่งดู iPad อยู่แล้วตัวดิฉันก็หลับอยู่ตรงโซฟาหันหัวไปทางทิศตะวันตก แต่ต้องบอกก่อนว่าอาการแบบนี้เกิดขึ้นกับดิฉันมากกว่าสี่ถึงห้าครั้งตั้งแต่ดิฉันอายุ 25 ปี เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้อายุ 36 ปี ครั้งนี้เหมือนวิญญาณพยายามที่จะออกจากร่างให้ได้ แต่ความที่เรารู้สึกบทสวดเราก็พยายามที่จะสวดบทอิติปิโส แต่ลูกชายที่ดู iPad อยู่โซฟาเดียวกันเสียงนั้นที่เราได้ยินมันจะเป็นเสียงที่ดังมากกว่าปกติ (ดังมากกว่า 10 เท่า ตอนที่เราตื่นใช้ชีวิตปกติ) เราพยายามที่ จะยกแขนขวาขึ้นเพื่อเรียกให้ลูกชายปลุก แต่พยายามเท่าไหร่ก็เหมือนกับว่าแขนไม่สามารถขยับได้ ในขณะเดียวกันวิญญาณกับร่างกายที่ พยายามที่ยื้อยุดฉุดรั้ง ว่าจะเข้าหรือจะออก เสียงที่ดังมากเหมือนกับขั้วแม่เหล็กที่พยายามจะบิดเกรียว เพื่อจะเข้าหากันหรือเหมือนกับแม่เหล็กที่พยานจะผลักดันออกจากกัน เป็นอยู่อย่างนี้เกือบประมาณ 5 นาทีเห็นจะได้ ตอนที่วิญญาณที่จะเข้าร่างก็คือตอนที่เราสวดบทสวดอิติปิโส แต่เพราะเนื่องด้วยเสียงที่รบกวนกว่าปกติที่เราได้ยินกันบวกกับเสียงที่ร่างกายกับวิญญาณพยายามที่จะแยกออกจากกัน ก็เลยกลายเป็นเสียงที่รบกวนทำให้เราไม่สามารถที่จะจำบทสวดนั้นได้ แต่ปรกติแล้วเป็นคนที่สวดมนต์โดยที่ไม่ต้องดูบทสวดเลยก็ได้ เพราะจำได้แทบทุกตัวอักษร
นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ดิฉันคิดว่าทำไมวิญญาณที่เขาจากไปโดยที่สิ้นอายุขัยเค้าไม่สามารถกลับมาและบอกลาครอบครัวหรือบุคคลที่เขารักได้ เพราะดวงวิญญาณไม่สามารถแม้ที่จะหยิบวัตถุสิ่งของที่ร่างกายหรือว่าที่เราสามารถทำในชีวิตประจำวันได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นดิฉันก็ไม่สามารถที่จะฟันธงว่าดวงวิญญาณสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่เท่าที่ศึกษามาบ้างดวงวิญญาณที่สามารถจะทำอะไรได้ก็ต่อเมื่อเขามีความเคียดแค้น หรือเป็นดวงวิญญาณที่มีความผูกพยาบาท ก่อนที่เค้าจะเสียชีวิตจึงจะสามารถทำอะไรได้บ้างแต่ก็ไม่สามารถที่จะคงอยู่ได้ตลอดไป เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมีการเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป
ก่อนหน้านี้เมื่อห้าปีที่แล้วก็ได้เกิดเหตุการณ์นี้กับดิฉันเหมือนกัน แต่เป็นมากกว่านี้เพราะสามารถมองเห็นร่างกายของดิฉันเองนอนอยู่บนที่นอนแต่วิญญาณก็ยังไม่ออกจากร่างกายทั้งหมด เพราะเคยอ่านมาว่าถ้าร่างกายออกไปแล้ว อาจจะไม่สามารถเข้าร่างตัวเองได้อีก นั่นหมายถึงวิญญาณของเราที่ออกจากร่างไปก็จะกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน ยังไม่กล้าลองที่จะออกไปเต็ม 100%
อยากจะถามผู้รู้ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกกับที่ฉันเราควรจะทำอย่างไรบ้าง หรือเพียงแค่ติดตามและรู้อยู่เสมอว่าร่างกายกับวิญญาณพยายามที่จะออกเท่านั้น แต่ถ้าติดตามไปแล้วรู้แล้วเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป ก็หมายความว่าดิฉันก็ต้องตายใช่หรือไม่ ถ้าวิญญาณออกไปแล้วกลับมาไม่ได้แล้วจะทำอย่างไร ถามว่ากลัวไหมไม่กลัวค่ะแต่ทุกครั้งที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นก็จะมีความตื่นเต้นอยู่เสมอ หลังจากที่ตื่นขึ้นมาแล้วก็จะรู้สึกเหนื่อยหอบมากๆเหมือนวิ่งมาราธอนรอบหนึ่งเลยค่ะ
ในความไม่กลัวนั้นก็ยังมีความห่วง ห่วงในที่นี้ก็คือห่วงลูกชายอายุแปดขวบเท่านั้นเอง
ท่านไหนที่ไม่เชื่อก็ผ่านได้นะคะ แต่ท่านใดที่มีประสบการณ์และมีวิธีปฏิบัติกับเหตุการณ์เช่นนี้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
วิญญาณเหมือนพยายามออกจากร่างตอนหลับ
ตัวดิฉันเป็นคนสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอนทุกคืน บทสวดมนต์ก็คือของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน เคยไปบวชที่วัดหลวงพ่อตอนอายุ 26 ปี ตอนนั้นคือบวชถือศีล 8 บวชอยู่ประมาณกนึ่งอาทิตย์ เป็นคนที่เชื่อในทางพระพุทธศาสนาแต่ไม่งมงาย เชื่อและศรัทธาในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า โอเคเข้าเรื่องเลยแล้วกันค่ะ
เรื่องเพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆตอนบ่ายโมงที่ดิฉันนอนกลางวันวันนี้นอนตอนกลางวัน ลูกชายนั่งดู iPad อยู่แล้วตัวดิฉันก็หลับอยู่ตรงโซฟาหันหัวไปทางทิศตะวันตก แต่ต้องบอกก่อนว่าอาการแบบนี้เกิดขึ้นกับดิฉันมากกว่าสี่ถึงห้าครั้งตั้งแต่ดิฉันอายุ 25 ปี เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้อายุ 36 ปี ครั้งนี้เหมือนวิญญาณพยายามที่จะออกจากร่างให้ได้ แต่ความที่เรารู้สึกบทสวดเราก็พยายามที่จะสวดบทอิติปิโส แต่ลูกชายที่ดู iPad อยู่โซฟาเดียวกันเสียงนั้นที่เราได้ยินมันจะเป็นเสียงที่ดังมากกว่าปกติ (ดังมากกว่า 10 เท่า ตอนที่เราตื่นใช้ชีวิตปกติ) เราพยายามที่ จะยกแขนขวาขึ้นเพื่อเรียกให้ลูกชายปลุก แต่พยายามเท่าไหร่ก็เหมือนกับว่าแขนไม่สามารถขยับได้ ในขณะเดียวกันวิญญาณกับร่างกายที่ พยายามที่ยื้อยุดฉุดรั้ง ว่าจะเข้าหรือจะออก เสียงที่ดังมากเหมือนกับขั้วแม่เหล็กที่พยายามจะบิดเกรียว เพื่อจะเข้าหากันหรือเหมือนกับแม่เหล็กที่พยานจะผลักดันออกจากกัน เป็นอยู่อย่างนี้เกือบประมาณ 5 นาทีเห็นจะได้ ตอนที่วิญญาณที่จะเข้าร่างก็คือตอนที่เราสวดบทสวดอิติปิโส แต่เพราะเนื่องด้วยเสียงที่รบกวนกว่าปกติที่เราได้ยินกันบวกกับเสียงที่ร่างกายกับวิญญาณพยายามที่จะแยกออกจากกัน ก็เลยกลายเป็นเสียงที่รบกวนทำให้เราไม่สามารถที่จะจำบทสวดนั้นได้ แต่ปรกติแล้วเป็นคนที่สวดมนต์โดยที่ไม่ต้องดูบทสวดเลยก็ได้ เพราะจำได้แทบทุกตัวอักษร
นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ดิฉันคิดว่าทำไมวิญญาณที่เขาจากไปโดยที่สิ้นอายุขัยเค้าไม่สามารถกลับมาและบอกลาครอบครัวหรือบุคคลที่เขารักได้ เพราะดวงวิญญาณไม่สามารถแม้ที่จะหยิบวัตถุสิ่งของที่ร่างกายหรือว่าที่เราสามารถทำในชีวิตประจำวันได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นดิฉันก็ไม่สามารถที่จะฟันธงว่าดวงวิญญาณสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่เท่าที่ศึกษามาบ้างดวงวิญญาณที่สามารถจะทำอะไรได้ก็ต่อเมื่อเขามีความเคียดแค้น หรือเป็นดวงวิญญาณที่มีความผูกพยาบาท ก่อนที่เค้าจะเสียชีวิตจึงจะสามารถทำอะไรได้บ้างแต่ก็ไม่สามารถที่จะคงอยู่ได้ตลอดไป เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมีการเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป
ก่อนหน้านี้เมื่อห้าปีที่แล้วก็ได้เกิดเหตุการณ์นี้กับดิฉันเหมือนกัน แต่เป็นมากกว่านี้เพราะสามารถมองเห็นร่างกายของดิฉันเองนอนอยู่บนที่นอนแต่วิญญาณก็ยังไม่ออกจากร่างกายทั้งหมด เพราะเคยอ่านมาว่าถ้าร่างกายออกไปแล้ว อาจจะไม่สามารถเข้าร่างตัวเองได้อีก นั่นหมายถึงวิญญาณของเราที่ออกจากร่างไปก็จะกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน ยังไม่กล้าลองที่จะออกไปเต็ม 100%
อยากจะถามผู้รู้ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกกับที่ฉันเราควรจะทำอย่างไรบ้าง หรือเพียงแค่ติดตามและรู้อยู่เสมอว่าร่างกายกับวิญญาณพยายามที่จะออกเท่านั้น แต่ถ้าติดตามไปแล้วรู้แล้วเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป ก็หมายความว่าดิฉันก็ต้องตายใช่หรือไม่ ถ้าวิญญาณออกไปแล้วกลับมาไม่ได้แล้วจะทำอย่างไร ถามว่ากลัวไหมไม่กลัวค่ะแต่ทุกครั้งที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นก็จะมีความตื่นเต้นอยู่เสมอ หลังจากที่ตื่นขึ้นมาแล้วก็จะรู้สึกเหนื่อยหอบมากๆเหมือนวิ่งมาราธอนรอบหนึ่งเลยค่ะ
ในความไม่กลัวนั้นก็ยังมีความห่วง ห่วงในที่นี้ก็คือห่วงลูกชายอายุแปดขวบเท่านั้นเอง
ท่านไหนที่ไม่เชื่อก็ผ่านได้นะคะ แต่ท่านใดที่มีประสบการณ์และมีวิธีปฏิบัติกับเหตุการณ์เช่นนี้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ