โรคหน้าหนาวอีกหนึ่งโรคที่ต้องระวัง โรคอีสุกอีใส (Chickenpox/Varicella) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัส วาริเซลลา ที่เกิดกับเด็กและผู้ใหญ่ได้ มีลักษณะอาการเป็นผื่นแดงราบ ตุ่มใส ตุ่มหนอง กระจายตามหน้า ลำตัว และแผ่นหลัง และมีไข้ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นได้บ่อยในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี อย่างไรก็ตามสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และยังแพร่กระจาย
สาเหตุของโรค
ไวรัสวาริเซลลาเกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า ไวรัสวาริเซลลา (varicella virus) หรือ human herpes virus type 3 เป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดงูสวัด
ข้อมูลจาก :
https://www.bangpakok8.com/care_blog/view/18
—————————-
ก่อนอื่นเลย อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเป็นอีสุกอีใสในวัย 21 ปี
รู้สึกแย่มาก เฟล เครียด
แรกเริ่มเลยคือมีเด็กในบ้านเป็น พอคนนึงเป็น เด็กคนอื่นในบ้านก็ติดมาด้วย เราติดเป็นคนที่ 4 เพราะอยู่ใกล้เด็กๆ (ที่จริงไม่คิดว่าจะติด นึกว่าตัวเองเป็นแล้วตอนเด็กๆ-.-) มารู้ตอนหลังว่า เราน่าจะมีเชื้อในตัวแหละแบบระยะฟักตัว พอร่างกายเราอ่อนแอปุ๊ปมันก็จะแสดงออกมาเลย
อาการ
หลังจากเด็กคนที่ 3 เป็นได้สัก 1 อาทิตย์ เราก็ไปผ่าฟันคุด พอกลับมาบ้านรู้สึกเพลีย แบบไม่มีแรงแม้แต่จะลุกมากินน้ำ ไข้ขึ้น 39 เวียนหัว เลยกินยาลพเช็ดตัว ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง ไข้ลด แต่เริ่ม!!! มีตุ่มขึ้นมาที่ขาสัก 3-4 ตุ่มใสๆ ใจไม่ดีละ ภาวนาให้ไม่ใช่ ตื่นเช้ามา
โป๊ะเช๊ะ อีสุกอีใสจ้ะ ร้องไห้เลย เราเรียนมหาลัยปี 3 ละ
คือพอโตมันจะรอยลดยากกว่าเด็กๆ
ตอนแรกเลยตั้งใจว่าจะกินยาเขียว(แค่คิดแต่ยังไม่ได้กิน) แล้วค่อยๆปล่อยให้มันหายเอง ทายาแผลเป็นเอา สรุปพอตอนกลางวันไม่คันเท่าไหร่ แต่!! ตอนกลางคืน คันแบบจะตาย คันมาก
นอนไม่ได้จนถึงเช้า ตัดสินใจไปหาหมอ
หมอแนะนำว่าไม่ต้องกินยาเขียวเพราะเราโตแล้ว รอยจะหายยาก ตุ่มมันจะขึ้นมาเยอะมากๆๆๆๆๆๆ แต่เด็กแนะนำให้กิน(อันนี้ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน) หมดค่ายาไปประมาณ 500
เราเลยอยากจะมาแนะนำคนที่เจอกับอีสุกอีใส จะได้ไม่เป็นรอยเยอะเหมือนเรา
1. ไปหาหมอ หมอจะมียาทาและยาแก้คัน
2.ถ้าคัน อย่าใช้มือเกาเด็กขาด! เพราะเราลองทำดูคือ พอเราเกา ตุ่มจะแตก พอตุ่มแตก น้ำที่มันแตกจะอยู่ติดตามมือตามเล็บ พอเราไปลูบหรือไปจับตรงไหนมันจะขึ้นตรงไหน ห้ามเด็ดขาด!!!!
3.ถ้าคัน แนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำเย็บลูบ ลดอาการคันได้ดี
4.อย่าอยู่ใกล้ใคร เดี๋ยวติดไปด้วยจะลำบาก
5.ข้อสุดท้าย ห้าม! แกะ! แผล! เด็ด! ขาด!
ถ้าแกะแล้วแผลจะเป็นรูปละหายช้ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
(ใครที่เป็นอยู่ขอให้หายเร็วๆน๊าา สู้ๆ อย่าเกาๆๆ ท่องไว้ ฮึ๊บบบ)
วิธีรับมือกับอีสุกอีใสอีใส
สาเหตุของโรค
ไวรัสวาริเซลลาเกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า ไวรัสวาริเซลลา (varicella virus) หรือ human herpes virus type 3 เป็นเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดงูสวัด
ข้อมูลจาก : https://www.bangpakok8.com/care_blog/view/18
—————————-
ก่อนอื่นเลย อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเป็นอีสุกอีใสในวัย 21 ปี
รู้สึกแย่มาก เฟล เครียด
แรกเริ่มเลยคือมีเด็กในบ้านเป็น พอคนนึงเป็น เด็กคนอื่นในบ้านก็ติดมาด้วย เราติดเป็นคนที่ 4 เพราะอยู่ใกล้เด็กๆ (ที่จริงไม่คิดว่าจะติด นึกว่าตัวเองเป็นแล้วตอนเด็กๆ-.-) มารู้ตอนหลังว่า เราน่าจะมีเชื้อในตัวแหละแบบระยะฟักตัว พอร่างกายเราอ่อนแอปุ๊ปมันก็จะแสดงออกมาเลย
อาการ
หลังจากเด็กคนที่ 3 เป็นได้สัก 1 อาทิตย์ เราก็ไปผ่าฟันคุด พอกลับมาบ้านรู้สึกเพลีย แบบไม่มีแรงแม้แต่จะลุกมากินน้ำ ไข้ขึ้น 39 เวียนหัว เลยกินยาลพเช็ดตัว ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง ไข้ลด แต่เริ่ม!!! มีตุ่มขึ้นมาที่ขาสัก 3-4 ตุ่มใสๆ ใจไม่ดีละ ภาวนาให้ไม่ใช่ ตื่นเช้ามา
โป๊ะเช๊ะ อีสุกอีใสจ้ะ ร้องไห้เลย เราเรียนมหาลัยปี 3 ละ
คือพอโตมันจะรอยลดยากกว่าเด็กๆ
ตอนแรกเลยตั้งใจว่าจะกินยาเขียว(แค่คิดแต่ยังไม่ได้กิน) แล้วค่อยๆปล่อยให้มันหายเอง ทายาแผลเป็นเอา สรุปพอตอนกลางวันไม่คันเท่าไหร่ แต่!! ตอนกลางคืน คันแบบจะตาย คันมาก
นอนไม่ได้จนถึงเช้า ตัดสินใจไปหาหมอ
หมอแนะนำว่าไม่ต้องกินยาเขียวเพราะเราโตแล้ว รอยจะหายยาก ตุ่มมันจะขึ้นมาเยอะมากๆๆๆๆๆๆ แต่เด็กแนะนำให้กิน(อันนี้ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน) หมดค่ายาไปประมาณ 500
เราเลยอยากจะมาแนะนำคนที่เจอกับอีสุกอีใส จะได้ไม่เป็นรอยเยอะเหมือนเรา
1. ไปหาหมอ หมอจะมียาทาและยาแก้คัน
2.ถ้าคัน อย่าใช้มือเกาเด็กขาด! เพราะเราลองทำดูคือ พอเราเกา ตุ่มจะแตก พอตุ่มแตก น้ำที่มันแตกจะอยู่ติดตามมือตามเล็บ พอเราไปลูบหรือไปจับตรงไหนมันจะขึ้นตรงไหน ห้ามเด็ดขาด!!!!
3.ถ้าคัน แนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำเย็บลูบ ลดอาการคันได้ดี
4.อย่าอยู่ใกล้ใคร เดี๋ยวติดไปด้วยจะลำบาก
5.ข้อสุดท้าย ห้าม! แกะ! แผล! เด็ด! ขาด!
ถ้าแกะแล้วแผลจะเป็นรูปละหายช้ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
(ใครที่เป็นอยู่ขอให้หายเร็วๆน๊าา สู้ๆ อย่าเกาๆๆ ท่องไว้ ฮึ๊บบบ)