เกิดอะไรขึ้นกับ!“หงส์แดง” 
.
.
.
  ต้องยอมรับว่าสภาพของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในเวลานี้นั้นย่ำแย่แบบสุด ๆ ดูเหมือนว่าปัญหาจะถาโถมรุมเร้าพวกเขาทั้งในและนอกสนาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน่าเศร้าของผู้จัดการทีมอย่าง เยอร์เก้น คล็อปป์ ทีต้องสูญเสียคุณแม่อันเป็นที่รักจากไปแบบไม่มีวันกลับ แต่ตัวเขาไม่สามารถไปส่งคุณแม่ครั้งสุดท้ายได้ เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนร้อยทั้งร้อยก็คงไม่มีใครอยากตกอยู่ในสถานการณ์นี้
.
.
  ส่วนผลงานในสนามนับตั้งแต่ผ่านพ้นปี 2020 เข้าสู่ปี 2021 พวกเขาสามารถเอาชนะได้เพียงแค่ 3 เกม จากการลงเล่น 10 นัด ซึ่งทั้ง 3 นัดเป็นเกมเยือนทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ชนะ วิลล่า 4-1 (เอฟเอ คัพ), ชนะ สเปอร์ส 3-1 และชนะ เวสต์แฮมฯ 3-1 ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา
.
.
  สภาพจิตใจของนักเตะ
.
.
  เชื่อว่าทุกท่านคงได้รับชมเกมล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล บุกไปพ่ายให้กับ “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 พวกเขาเดินหน้าเปิดเกมรุกเข้าใส่จนทะลุตาข่ายของเจ้าถิ่นได้สำเร็จจากการเข้าทำที่สุดคลาสสิกแอสซิสต์ของ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่ส่งต่อให้กับ โม ซาลาห์ ปั้นเข้าไปอย่างสวยงามได้ประตูออกนำ 1-0 ทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี แต่ทุกอย่างก็พังลงไป เมื่อมาเสียประตูตีเสมอจากจังหวะฟรีคิก ซึ่งเป็นลูกปัญหาจาก VAR อีกแล้ว
.
.
  หลังจากนั้นสภาพจิตใจของนักเตะ ลิเวอร์พูล ก็ย่ำแย่แบบสุด ๆ พวกเขายังตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นบุกแทบตายกว่าจะยิงได้ แต่มาเสียประตูแบบง่าย ๆ ภาษากายของผู้เล่นแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเหมือนทุกอย่างมันกำลังจะพังลง และก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ เมื่อมาเสียอีก 2 ประตู โดยเฉพาะลูก 2-1 ที่โอซาน คาบัค ปราการหลังคนใหม่ไปประสานงากับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ บอลไปเข้าทางของ เจมี่ วาร์ดี้ ซะอย่างนั้น
.
.
  แดนกลางไม่เหมือนเดิม
.
.
  ฤดูกาลนี้ปัญหาของ ลิเวอร์พูล เกิดขึ้นมากมายแทบทุกจุดเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะแดนกลางที่ไม่เหมือนเดิม เพราะต้องหยิบชิ้นส่วนสำคัญอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และฟาบินโญ่ ลงไปยืนเซนเตอร์ฮาลฟ์จำเป็น เห็นได้ชัดว่าแดนกลางยวบลงทันที มิหนำซ้ำนักเตะเวิล์ดคลาสที่ได้มาอย่าง ธีอาโก้ อัลคันทาร่า ก็ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้ทีมสักเท่าไหร่ ก็เข้าใจว่าเพิ่งมาฤดูกาลแรก แต่ก็ไม่น่าจะแย่ถึงขนาดนี้ โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่เสียบอลบ่อย และยังไปฟาวล์แบบโฉ่งฉ่างจนมาทำซึ่งการเสียประตูตีเสมอ
.
.
  เมื่อขุมกำลังอื่น ๆในแดนกลางนักเตะที่มาตรฐานดีมาตลอดอย่าง จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ก็เล่นไม่เหมือนเดิม ไม่รู้ว่าเรื่องสัญญาที่จะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ ส่งผลต่อผลงานในสนามหรือไม่ ตัวสำรองอย่าง อเล็กซ์ อ๊อกเลด-แชมเบอร์เลน พึ่งพาอะไรไม่ได้เหมือนซื้อรถเก่ามาซ่อม เล่นไปสักพักเดี๋ยวก็เจ็บอีก
.
.
  นักเตะเจ็บแบบไม่พัก
.
.
  ซีซั่นนี้เรื่องที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของ ลิเวอร์พูล คงหนีไม่พ้นเรื่องอาการบาดเจ็บของนักเตะที่เจ็บบ่อยเหมือนเกิน ในรายของ เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ และโฌเอล มาติ๊ป เดี้ยงทั้งฤดูกาลอันนี้ทุกคนทราบกันดี แต่ก่อนเริ่มเกมนัดล่าสุด เบน เดวีส กองหลังตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อมาดันไปเจ็บตอนซ้อมอีก แถมเล่นไปไม่กี่นาทีก็มาเสีย เจมส์ มิลเนอร์ เรียกได้ว่าซวยแล้วซวยอีก ไม่รู้จะซวยยังไง สำหรับ “หงส์แดง”
.
.
  เมื่อมองดูลิสต์รายชื่อของนักเตะลิเวอร์พูลที่ต้องเข้าโรงหมอในตอนนี้มีอยู่ถึง 10 รายด้วยกัน ไล่ตั้งแต่ ดิโอโก้ โชต้า, นาบี เกอิต้า, โฌเอล มาติ๊ป, โจ โกเมซ, เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, ฟาบินโญ่, ดิว็อค โอริกี้, ควีวิน เคลเลเฮอร์, เบน เดวีส และเจมส์ มิลเนอร์
.
.
  โอซาน คาบัค ต้องใช้เวลาปรับตัว
.
.
  นักเตะเมื่อย้ายทีมใหม่ย่อมต้องใช้เวลาในการปรับตัว โอซาน คาบัค ก็เช่นเดียวกัน เขาคือผู้เล่นดาวรุ่งอายุแค่ 20 ปี เพียงแต่ผ่านเวทีระดับสูงอย่าง บุนเดสลีกา เยอรมัน มา การย้ายเข้าสู่ ลิเวอร์พูล ถือเป็นก้าวสำคัญในอาชีพค้าแข้งของเขา แต่ก็น่าเห็นใจกับช่วงเวลาที่ย้ายมาในยามที่ทีมกำลังย่ำแย่พอดิบพอดี
.
.
  แถมยังประเดิมสนามเกมแรกด้วยการออกไปเยือนทีมอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมที่มีแนวรุกอันตรายสุด ๆ ความผิดพลาดของ คาบัค ในเกมย่อมมีให้เห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันจังเบอร์จริง ๆ ก็ช็อตที่ไปชนกับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ จนบอลไปเข้าตีนของ เจมี่ วาร์ดี้ จริง ๆ จะไปโทษเขาทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะคนที่เห็นทุกอย่างคือผู้รักษาประตูที่เลือกวิ่งออกมาตัดบอลจนไปชนกันเอง เขาเพิ่งมาใหม่ไม่มีเวลาปรับตัวมากนัก ทำให้ยังไม่คุ้นเคยกับสไตล์การเล่นของเพื่อนร่วมทีม ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักพักจึงจะสามารถจูนกันติด
.
.
.
  นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ลิเวอร์พูล มันไม่ใช่ปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้น อย่างที่ใคร ๆ ก็รู้การลุ้นแชมป์นั้นได้จบลงไปแล้ว ตัวของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เองก็ออกมายอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น สถานการณ์ลุ้นท็อปโฟร์นั้นน่าเป็นห่วงจริง ๆ
.
.
  ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะอะไรขึ้นกับ ลิเวอร์พูล อีก พวกเขาจะสามารถดึงสติให้กลับมาอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นได้ไหม หรือมันจะแย่ไปกว่านี้อีก ?
.
.
#Goalstorm #โกลสตรอม #Gs #ลิเวอร์พูล #พรีเมียร์ลีก #ฟุตบอลโลก2022
ที่มา goalstorm