เรื่องสั้น : Meeting The Series บทที่ 2

กระทู้สนทนา



https://ppantip.com/topic/40358378 บทที่ 1 ตอนเคาต์ดาวน์ค่ะ

ปล. เรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่เคยเกิดขึ้นจริงแต่อย่างใดค่ะ

                (ตอน 14 กุมภาวันวาเลนไทน์)

               เนื่องในวโรกาส 14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก พวกเธอจึงพากันจัดงานปาร์ตี้ขึ้นอีกครั้ง ใครจะกล้าว่าอะไรล่ะ ก็เงินเยอะซะอย่าง ใครจะทำไม การจัดปาร์ตี้ จัดมีตติ้งกัน มันก็เป็นการสร้างมิตรภาพที่ดีต่อกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีก

               เปล่าเลย พี่มิตร ชัยบงการ เขาเงินเยอะต่างหาก จึงหาโอกาสที่จะจัดงานปาร์ตี้ เพื่อให้ทุกคนสนุกสนานด้วยกันแบบนี้เสมอ

               รอบนี้จื้นกับแหลมทองมารอแต่หัววัน นัดกันเข้ามากรุงเทพตั้งแต่เมื่อคืน เข้าพักในโรงแรมที่จองไว้ล่วงหน้าตั้งสามวัน เป็นโรงแรมเดิมเมื่อรอบที่แล้ว พวกเธอคิดกันไว้ว่ารอบนี้จะออกไปเร็วหน่อย กะไปเตรียมสถานที่ช่วยพี่ ๆ กัน อืมม์! ไปอ่อยต่างหาก ไปอ่อยเพื่อนใหม่ที่จะมาในรอบนี้กัน ฮา

                รอบนี้พวกเธอสองคนมาในตรีมสาวหวาน เรียบร้อย ไม่โชว์หน้าโชว์หลัง เรียบร้อยเข้าไว้ เพราะเมื่อตอนเคาน์ดาวน์ พวกเธอสองคนฝากรอยประวัติศาสตร์ไว้ซะแบบไม่อยากจะพูดถึง

                “แหลม” จื้นพูดขึ้น ขณะหมุนตัวเองซ้ายทีขวาทีหน้ากระจก สายตาของตัวเองมองว่าตัวเองก็พอใช้ได้นะ “อือ ก็พอใช้ได้นะเรา” พูดเบา ๆ กับตัวเอง แต่สิ่งที่อยากถามคือ ความระแวงอะไรบางอย่าง

               แหลมทองนอนเล่นโทรศัพท์มือถือรอเธอบนเตียงนอน สายตามองมาที่เธอประมาณว่า เมื่อไหร่มืงจะออกไปได้สักที

                 “ว่า! มืงเสร็จยังเนี่ยจื้น ไปเหอะ จะบ่ายโมงแล้ว เราออกไปหาไรทานกันก่อนเข้าไปเนอะ พี่สมบัติ พี่มิตร พี่แพนเค้ก พี่ดวงเดือนมากันแล้วมั้งป่านนี้ น่าจะมาเตรียมงานตั้งแต่เช้า”

                 “มืงว่าพวกพี่ ๆ เค้าจะจำเราได้มั้ยอ่ะ กูอาย” ยิ้มเขิน ๆ ให้เพื่อน

               “จำได้สิมืง ว่าไป! เรายังจำพวกพี่เค้าได้เลย เค้าก็ต้องจำเราได้”

               “ไม่ใช่อี่แหลม! กูไม่ได้หมายความว่าจำหน้าได้ กูหมายถึงจำภาพที่เราหลุดได้อ่ะ ตอนที่เราเต้นอ่ะ กุอาย!” จื้นทำหน้าเจื่อน ๆ ให้เพื่อน มันรู้สึกไม่อยากไปปาร์ตี้ขึ้นมาดื้อ ๆ ซะงั้น เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่กระโดดกลางอากาศ

               “เชื่อพี่นะน้อง ไม่มีใครจำเราได้แน่นอน! ปะออกไปกันได้แล้ว แวะทานเตี๋ยวก่อนนะเค้าหิว ค่อยเข้าไปที่โรงแรม ห้องเดิมใช่มั้ย”

               “ช่าย! เสร็จและ ปะ”

               ภายในห้องพักสองสาวเพื่อนซี้คุยกันก่อนออกไปงาน ทว่าแวะทานมื้อเที่ยงกันก่อน เมื่อท้องอิ่ม ทุกอย่างเรียบร้อย พวกเธอก็ไปต่อกันที่โรงแรมที่ว่า ซึ่งเป็นสถานที่ใช้จัดงานในคืนนี้

               จื้นกับแหลมทองนั่งแท็กซี่กันมา เพราะขากลับคาดการณ์ว่าจะต้องเมาแน่นอน จึงไม่นำรถส่วนตัวมา วันนี้พวกเธอมาในตรีมสาวหวาน สวย ใส ไร้สมอง เอ้ย! ใสเฉย ๆ ส่วนสมองมีนิดหน่อย

               พวกเธอทั้งสองคนใส่ชุดเหมือนกันอีกตามเคย เพราะเป็นเพื่อนซี้กัน นัดกันใส่ นัดกันเอฟมา ต่างกันก็แค่สีเสื้อเท่านั้น จื้นใส่สีเขียว แหลมทองใส่สีชมพู วันนี้พวกเธอต้องเรียบร้อย สงบสยบความร่านของคราวที่แล้ว

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

               แท็กซี่วนรถมาจอดหน้าตึก ถึงจะเคยมาแล้วก็ยังลังเลอยู่ดี สองสาวยืนอยู่ข้างนอกยังไม่ยอมเข้าไป

               “มืงทักหาพี่มิตร ชัยบงการดิ๊จื้น ขอความชัวร์หน่อย ว่าใช่ที่เดิมมั้ย” แหลมทองสั่งเธออีกแล้ว ทำไมไม่ทักหากันเอง แค่บ่นในใจ จื้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะไลน์หาพี่มิตร แต่ว่ายังไม่ทันได้พิมพ์ พี่สรพงษ์ สตรี ก็ทักมาก่อนแล้ว

               “อยู่ไหนกันแล้วน้อง พี่อยู่ในงานละ มา ๆ ที่เดิม” จื้นดีใจมากที่เพื่อนสนิทอีกคนมาถึงแล้ว น่าจะมาตั้งแต่เมื่อคืนเช่นกันสำหรับคนนี้ ถึงได้มาถึงเร็วขนาดนี้ อยู่ต่างจังหวัดเหมือนกัน

               “ที่เดิมห้องเดิมมั้ยพี่สรพงษ์” จื้นพิมพ์ตอบ

               “จ้า ฟ้าวมาพี่รออยู่”

               “แหลมทองปะ ตึกนี้แหละ ห้องเดิม”

               สองสาวเพื่อนซี้เดินโยกย้ายส่ายสะโพกแบบมั่นหน้ามั่นโหนกมั่นสะโพกมั่นเอวเข้าตึกไป ไฮโซมาก อย่าบอกใครเชียวว่าเรามาจากต่างจังหวัด

               “ติดต่อเรื่องอะไรคะ” ประชาสัมพันธ์เคาน์เตอร์ทางเข้าก่อนจะขึ้นลิฟต์ไป

               “อ่อมาปาร์ตี้14กุมภาค่ะ ชั้น 25 ห้องคอนเฟอร์เรนซ์” แหลมทองตอบ

              “ค่ะ ขอบัตรประชาชนด้วยค่ะ” ทั้งสองคนยื่นบัตรประจำตัวประชาชนให้พนักงาน เพื่อแลกบัตรขึ้นตึกไป

                ติ๊งน๊อง! เสียงลิฟต์เปิด สองสาวสุดสวยเดินออกมาหน้าลิฟต์ของชั้น 25 มันแลดูเงียบ ๆ เพราะตอนนี้แค่บ่ายนิด ๆ ต้องรอสักหกโมงเย็น เพื่อน ๆ พี่ ๆ ถึงจะออกมากันเยอะ

               “แหลม ๆ แป๊บนึง กูขอทำใจก่อน พวกพี่เค้าจะจำเรื่องของพวกเราไม่ได้แน่นะ” ระหว่างที่พูดสายตาก็มองไปที่ประตูห้อง เดินออกจากลิฟต์มา เลี้ยวซ้ายห้องแรกเลย จื้นรู้สึกหน้าบางขึ้นมาทันที “เอาวะมาถึงขนาดนี้แล้ว ใครแซวกูเดินหนีเลยจ้า กูไม่คุยด้วย หึหึ”

               “ป่ะ!” แหลมทองจับมือเธอเดินอย่างมั่นใจ สวยซะอย่าง

                ขณะนี้เป็นเวลาบ่ายสองโมง สองสาวเพื่อนซี้เปิดประตูห้องเข้าไป พบว่ามีบางคนมาถึงแล้ว เจ้าของงานก็มาถึงแล้ว มีพี่มิตร ชัยบงการ พี่สมบัติ แม่มณี พี่แพนเค้ก เข็มหมุด พี่ดวงเดือน จารุแก้วนิล คนนี้รอบที่แล้วไม่ได้มาร่วมงาน รอบนี้มาแฮะ สงสัยว่าง พี่มีน พฤษภา พี่ติ๊ก เจตนาพร คนนี้ก็อีกคน รอบที่แล้วก็ไม่ได้มาเหมือนกัน พี่ศรราม อสูรพิทัก และคนอื่น ๆ อีกหลายคน

               บรรยากาศครึกครื้น ด้วยเสียงพูดคุยของคนที่มาถึงแล้ว และเสียงเพลงที่เปิดฟังเบา ๆ ไม่ให้บรรยากาศมันเงียบจนเกินไป เป็นเพลงสากล จื้นเดินเข้ามาในห้องได้ยินเพลงก็ต้อง เป่าปากมองบนแบบเซ็ง ๆ แต่ก็ไพเราะดี ต้องรอลุ้นช่วงดึก ๆ เอา อาจจะมีเซอร์ไพรส์เหมือนคราวที่แล้วก็ได้

               จื้นสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ กวาดสายตามองรอบ ๆ ห้อง มองหาพี่สรพงษ์อยู่ไหนกัน อ่อ! นู่นอยู่บนเวทีกับพี่ศรรามนู่น กำลังจัดเตรียมเครื่องเสียงกันอยู่ ขณะนี้การเตรียมงานได้เสร็จเรียบร้อยกันแล้ว รอก็แต่แขกผู้มีเกิบ เอ้ย ผู้มีเกียรติมาร่วมงาน เห็นว่าจะมากันหลายคนกว่ารอบที่แล้ว คนที่ไม่ได้มารอบนั้น รอบนี้ก็ลงชื่อมาด้วย ท่าทางงานคืนนี้จะสนุกน่าดู

               บรรยากาศในงานเหมือนเดิม โต๊ะจีนแบบไฮเอ็นมาก ปูด้วยผ้าสีขาวมัดโบว์สีแดง ข้าง ๆ มีทาวเวอร์เบียร์ และน้ำอัดลมให้เลือกสรรพ์ มีเหล้าหลายยี่ห้อให้เลือก พี่มิตรสุดยอดที่สุด บรรยากาศงานก็เหมือนเดิม

               จื้นมองไปรอบ ๆ งาน ก็ตื่นเต้นดี แม้นี่จะเป็นรอบที่สองแล้วก็ตาม และคิดว่ารอบสามรอบสี่เธอก็จะมาร่วมงานเรื่อย ๆ เรื่องอะไรจะไม่มา สนุกจะตาย พี่ ๆ คนอื่น ๆ นั่งกลุ่มใครกลุ่มมัน อาจจะหันมามองผู้มาใหม่บ้าง ทว่าก็ไม่ได้ใส่ใจ อาวุโสกลุ่มเดิมก็มา โต๊ะลงทะเบียนก็เป็นบุคคลกลุ่มเดิมดูแลอยู่

               “สองสาวแสนสวย มานี่ก่อน มาลงทะเบียนกันก่อนเด้อ” พี่แพนเค้กเรียกพวกเธอสองคน ต้องเรียกแบบนี้แหละ ไม่อย่างนั้นจื้นกับแหลมทองไม่ยอมลงทะเบียนแน่ ฮา

               “สวัสดีค่ะพี่แพนเค้ก พี่มีน พี่สมบัติ “ ยิ้มให้ทั้งสามคน ส่วนพี่มิตรเดินดูความเรียบร้อยของงานอยู่  

               “วันนี้แต่งตัวเรียบร้อย หวานเชียว” พี่แพนเค้กแซว อย่านะอย่าพูด จื้นแอบกลัวในใจ เขินไปหมดแล้ว เมื่อไหร่อี่แหลมทองจะเขียนชื่อตัวเองเสร็จสักที จื้นอายพี่สมบัติ ส่วนตนเองเขียนเสร็จก่อนแล้ว ไม่พูดอะไรเพียงยิ้มให้เป็นคำตอบเท่านั้น

               “นั่งไหนกันสองคน” พี่มีนถาม

               “นั่งโต๊ะหลังค่ะ จองไว้แล้วกับพี่สรพงษ์ “ แหลมทองตอบ

               “นู่นพี่สรพงษ์อยู่บนเวทีนู่น” ได้ยินเสียงพี่สมบัติ แม่มณีสักที นึกว่าพูดไม่เป็น จื้นและแหลมทองหันไปมองตาม เห็นตั้งแต่ทีแรกแล้ว

                  “ป่ะแหลม ไปหาพี่สรพงษ์กัน” จื้นชวน ก่อนจะเดินไปหยิบเหล้าหงส์ทอง นำไปวางจองโต๊ะไว้ก่อนกลมนึง เป็นโต๊ะท้าย ๆ ห้อง แล้วเดินไปหาพี่สรพงษ์เพื่อนซี้ต่างวัยบนเวที

               ที่หน้าเวทีมีป้ายเขียนติดไว้ว่า “14 กุมภา วันวาเลนไทน์ ” มีพี่สรพงษ์ พี่ศรราม พี่ณเดช อือ พี่ณเดชก็มานะ ไม่เห็นพลอยใสเลย มีช่อดอกไม้เตรียมไว้ให้นักร้อง ให้ใครก็ได้ที่อยากให้ ใครแอบปลื้มใคร ชอบใครอยู่คืนนี้ก็จัดเลย ถือเป็นโอกาสที่ดี มีกลองไว้เล่นดนตรีสดสำหรับราตรีนี้

               “พี่แหลม มืงว่าสาวพลอยมามั้ย พลอยใสอ่ะ “ จื้นกระซิบพูดกับเพื่อนสนิท เห็นพี่ณเดชนั่นแหละก็เลยแอบถาม พวกเขาคงไม่แคร์ โดยเฉพาะสาวพลอยใส คงจะแบบไม่รู้ไม่ชี้ ใส ๆ แบ๊ว ๆ เนียน ๆ ไป

               “มาสิ เชื่อกู ใส ๆ ไง อีโน ๆ แก้กรดลดเฟ้อ ฮา”

               “อะเคกูเชื่อมืงพี่ ฮา” จื้นชอบใจมาก เพื่อนสนิทมองตาก็รู้ใจ เป็นรุ่นพี่ที่อายุห่างกันไม่มากนัก ก็มารู้จักกันในคณะนี่แหละ ถูกจริตกัน พูดกันถูกคอ นานวันเข้าก็ลามปาม ใช่! จื้นเองนี่แหละลามปาม จากเรียกพี่อยู่ดี ๆ อี่ซะงั้น นิสัยไม่ดีจริง ๆ เลย สองคนเธอแค่พูดเปรย ๆ ก็รู้ไปถึงความใน

               พวกเธอสองคนเดินไปหาพี่สรพงษ์บนเวที “พี่สรพงษ์สวัสดีค่า ฮ่า มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่หนิ พี่ศรราม พี่ณเดชวัสดีค่ะ” พวกเธอทั้งสองคนยกมือสวัสดีผู้อาวุโสกว่า(มากหลายเท่า อิอิ) จื้นกับแหลมก็ยืนเล่น พูดคุยอยู่กับพวกพี่ ๆ ที่เวทีกัน ตอนนี้ก็มีคนทยอยมากันบ้างแล้ว

              พี่เบิร์ด ธงชาติกับครอบครัวก็มาถึงกันแล้ว รอบที่แล้วก็พาลูกพาเมียมา รอบนี้ก็พามาอีก ช่างเป็นพ่อบ้านที่แสนดีเสียนี่กะไร จื้นสะกิดให้แหลมมองตาม พี่เบิร์ดพาครอบครัวไปลงทะเบียน และทักทายเพื่อนคนอื่น ๆ

              “จื้น ๆ ใครอ่ะ คนนั้นน่ะ นู่นเดินดุ่ม ๆ เข้ามาน่ะ” แหลมทองกระซิบกระซาบจื้นให้มองตาม

               “ไม่รู้เหมือนกัน” เธอเองก็ไม่เคยเห็นและไม่รู้จัก อาจจะรู้จักแต่ลืมหน้าไปแล้วก็ได้

               “พี่สรพงษ์ใครอ่ะ คนที่กำลังยืนคุยกับพี่สมบัติน่ะแหมะ นั่นแหมะคนนั้นน่ะ” จื้นเดินเข้ามาถามพี่สรพงษ์ และพี่สรพงษ์ก็ไม่รู้จักเหมือนกัน จื้นจึงเดินไปถามพี่ศรราม “พี่ศรรามใครอ่ะ พี่คนนั้นน่ะ ที่ยืนคุยกับพวกพี่แพนเค้กพี่สมบัติอ่ะ”

               ศรราม อสูรพิทักษ์กำลังเทสเสียงกีตาร์อยู่ เงยหน้าขึ้นมองตามที่เธอบอกให้ดู “อ่อ พี่หมาก หมาก ปริญญาตรีไง”

               “อ้อ! จื้นจำได้ละ” จื้นอุทานออกมา จะให้จำหน้าได้อย่างไร ก็คุณหมากพึ่งจะมาเป็นครั้งแรกนี่ เธอพึ่งรู้จักไม่กี่วันเอง

               “ใครครับ” ณเดช คุกกี้มั้ยคะ ถามอีกคน

               “คุณหมากครับ น้องจื้นถาม เด็กใหม่ ๆ ของชาวเรา “ พี่ศรรามตอบพี่ณเดช

               “อ่อ “ แล้วพี่ณเดชก็เทสเบสต่อ พี่สรพงษ์เทศไมค์โครโฟน เธอกับแหลมยืนกอดอกดู

               บ่ายสามโมงเข้าให้แล้ว มีหลายคนทยอยมาแล้วด้วย จื้นคิดว่าหกโมงเย็นทุกคนก็น่าจะมากันเกือบครบ เพราะหนึ่งทุ่มตรงพี่มิตร ชัยบงการ ก็จะเปิดงานยาวไปถึงเที่ยงคืนกันเลย เหมือนคราวก่อน

                พี่สรพงษ์ก็เทสไมค์ไปเรื่อย “วันนี้วันแห่งความรัก เราจะบอกรักกันยังไงไม่ให้มีคำว่ารัก ฮ่า “

                “พร้อมยัง ๆ เวทีอ่ะ” พี่มิตรตะโกนถาม

               “พร้อมมากครับ! ไหน ๆ พวกเราก็มากันแล้ว จะให้มันเงียบเหงาทำไมละครับ เปิดงานรอเลยได้มั้ย” พี่สรพงษ์พูดใส่ไมค์

               “ตามสบายครับ จัดเลย” พี่มิตรตอบ นั่งอยู่กับพวกพี่แพนเค้กและพี่สมบัติ ก็เป็นคนจัดงานนี่นา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งเรื่องสั้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่