สวัสดีค่ะ นี่ก็เป็นกระทู้แรกในการตั้งเลยค่ะ
***หากการใช้ภาษา หรือพิมพ์ผิดไปบ้างต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ***
มาเริ่มเลยก็แล้วกันนะคะ เริ่มแรกเลย คือย้อนกลับไปเมื่อ ปี 2010
เป็นคนที่ไม่ได้เรียนเก่งอะไร ออกจะเกเรียนมากไปด้วยซ้ำ
ติดเพื่อน ติดแฟน เที่ยวเก่ง คือที่บ้านต้องการให้สอบเข้าคณะ
นิติศาสตร๋ มหาลัยธรรมศาสตร์ แต่เราสอบเข้าได้นะคะ แต่เรียนไม่รอด
ก็เลยต้องซิ่ว แล้วมาสมัครเรียน ที่ใหม่ค่ะ แล้วในปีนั้น
ทางเจ้าของมหาลัย ทั้งที่เกาหลี และไทย เค้ามีโปรเจค
ในการให้ทุนการศึกษา ไปเรียนต่อประเทศเกาหลี เป็นทุน 100%
คือ ทีแรกไม่คิดว่าจะสอบได้หรอกค่ะ เพราะต้องสอบทั้งข้อเขียน สัมภาษณ์
กับทางเจ้าของมหาลัย ทีแรกคิดว่าไม่น่าจะได้ด้วยซ้ำ
เพราะเราไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับเกาหลีเลย ไม่ได้ศึกษาไว้เลย
แต่เคยเรียนปรับพื้นฐานภาษา แค่ 3 เดือนเท่านั้น
[แล้ววันที่ไม่คาดคิดก็มาถึง......] คือวันที่ประกาศผล
.....ว่าเราได้ทุนไปเรียนที่เกาหลี ในสาขา วิศวะคอมพิวเตอร์ .....
คือทุกอย่างเหมือนความฝันจริงๆๆๆ เพราะพอประกาศผล
อาทิตย์ต่อมา ต้องไป ทำหนังสือเดินทาง อีกอาทิตย์ไปยื่นขอวีซ่าที่สถานฑูต
แล้วอีกอาทิตย์ต่อมาต้องเดินทางไปเกาหลี เพราะก่อนเข้าเรียน ต้องไปเรียนภาษาก่อน 6 เดือน
- วันที่เราเดินทางมาเกาหลี คือ 2 ตุลาคม 2010 เราจำได้ดีเลย
ตอนนั้นอาจารย์ที่นี่เหมือนยังไม่รู้ เพราะไม่มีคนมารอรับเลยยย
ละเรากะเพื่อนคือมากัน 2 คน ลงเครื่องตอน 7 โมง
พอเดินออกมา ก็ไม่มีใครมา รอรับ จนต้องติดต่อไปทางอาจารย์ที่ไทยว่าไม่มีคนมารับ
จนอาจารย์ทางไทยต้องติดต่อมาทางเกาหลี ว่า นักศึกษาทุน 2 คน
ได้เดินทางไปถึงเกาหลีเช้านี้ ละคือตอนนั้นแบบไม่รู้อะไรเลย ภาษาเกาหลี
ที่พูดได้จิงๆมีอยู่ 2 คำ คือ อันยอง / คัมซาฮัมนีดะ
แต่ยังดีที่เพื่อนเราอีกคนได้ภาษา เลยแบบมีสติพอต่อเน็ต
เพื่อติดต่อไปยังประเทศไทย
- โดนลอยแพร ตั้งแต่วันแรกเลยยย อาจารย์ ที่มารับบอกว่า
"ดีนะบ้านอาจารย์อยู่แถวอินชอน " เลยมารับได้ แบบไม่ต้องรอนาน
หลายๆคน ถามกันมาว่า ............... มีโอกาสได้ทุนมาเรียนเกาหลีทั้งทีทำไมไม่หางานทำ??
... คือ การที่จะทำงานต่างๆ ใช่ว่าจะทำได้นะคะ ยิ่งมาแบบนักศึกษาทุนด้วยแล้ว ยากค่ะ
เพราะ อาจารย์จะแจ้งไว้เลยค่ะว่า ไม่สามารถทำงานได้ หากโดนจับขึ้นมา
โดนปรับตั้งแต่ ล้านวอน - 10 ล้านวอนเลยนะคะ
เพราะ ยิ่งได้ทุน มาเรียน คือเราต้องทำคะแนน ให้ได้ตาม เกณฑ์ที่เค้ากำหนดค่ะ
ถ้าไม่ถึง จะโดนตัดทุน และต้องชดใช้เงินคืนให้ กับทางมหาลัย 30%
ของค่าใช้จ่ายที่เค้าออกให้ทั้งหมด 😱😱😱 โหดมากเลยใช่ไหมคะ???..
เครียดมากเลยใช่ไหม?? ใช่ค่ะ ช่วงสอบเป็นอะไรที่กดดันมาก ทั้งรายงานเอย
การบ้านที่ต้องส่ง และ ยิ่งวิศวะคอมนะคะ ต้องเรียนเขียนโปรแกรมอีก
ถ้าในเมื่อเราได้โอกาสมาอยู่ที่ประเทศเกาหลีแล้ว >< ไม่ว่าจะเจออุปสรรคแค่ไหน
เราก็ต้องผ่านไปให้ได้ เพราะพอมาอยู่ คือ หลงรักเกาหลี เลยยย อากาศที่นี่ดี
การคมนาคม การขนส่งก็ดี เราถึงพยายามทำทุกอย่างงง เพื่อให้ได้อยู่ที่นี่
แต่พอย้อนเวลากลับไปก็เสียดายนะคะ เราสามารถ ทำอะไรหลายๆๆอย่างได้
เช่น หิ้วของ รับส่งของกลับไทย และ กดเว็ปต่างๆ แต่ตอนนั้นยังเด็ก คือไม่รู้วิธีหาเงิน
พอมองย้อนกลับไปแอบเสียดายเวลาค่ะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปล. ตอนนี้เราได้กลับมาอยู่ที่เกาหลีอีกครั้งแล้วนะคะ แต่ก็ด้วยวีซ่า ปริญญาตรี แต่รอบนี้ทุนตัวเองน๊าาา
เดี๋ยวกระทู้หน้า เราจะแชร์ ประสบการณ์ในการขอวี นะคะ ฝากติดตามด้วยน๊าาาาา
สามารถถามได้ทุกเรื่องเลยนะคะ -- ขอบคุณค่ะ
[แชร์ประสบการณ์] การมาเรียนต่อเกาหลี EP.1
***หากการใช้ภาษา หรือพิมพ์ผิดไปบ้างต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ***
มาเริ่มเลยก็แล้วกันนะคะ เริ่มแรกเลย คือย้อนกลับไปเมื่อ ปี 2010
เป็นคนที่ไม่ได้เรียนเก่งอะไร ออกจะเกเรียนมากไปด้วยซ้ำ
ติดเพื่อน ติดแฟน เที่ยวเก่ง คือที่บ้านต้องการให้สอบเข้าคณะ
นิติศาสตร๋ มหาลัยธรรมศาสตร์ แต่เราสอบเข้าได้นะคะ แต่เรียนไม่รอด
ก็เลยต้องซิ่ว แล้วมาสมัครเรียน ที่ใหม่ค่ะ แล้วในปีนั้น
ทางเจ้าของมหาลัย ทั้งที่เกาหลี และไทย เค้ามีโปรเจค
ในการให้ทุนการศึกษา ไปเรียนต่อประเทศเกาหลี เป็นทุน 100%
คือ ทีแรกไม่คิดว่าจะสอบได้หรอกค่ะ เพราะต้องสอบทั้งข้อเขียน สัมภาษณ์
กับทางเจ้าของมหาลัย ทีแรกคิดว่าไม่น่าจะได้ด้วยซ้ำ
เพราะเราไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับเกาหลีเลย ไม่ได้ศึกษาไว้เลย
แต่เคยเรียนปรับพื้นฐานภาษา แค่ 3 เดือนเท่านั้น
[แล้ววันที่ไม่คาดคิดก็มาถึง......] คือวันที่ประกาศผล
.....ว่าเราได้ทุนไปเรียนที่เกาหลี ในสาขา วิศวะคอมพิวเตอร์ .....
คือทุกอย่างเหมือนความฝันจริงๆๆๆ เพราะพอประกาศผล
อาทิตย์ต่อมา ต้องไป ทำหนังสือเดินทาง อีกอาทิตย์ไปยื่นขอวีซ่าที่สถานฑูต
แล้วอีกอาทิตย์ต่อมาต้องเดินทางไปเกาหลี เพราะก่อนเข้าเรียน ต้องไปเรียนภาษาก่อน 6 เดือน
- วันที่เราเดินทางมาเกาหลี คือ 2 ตุลาคม 2010 เราจำได้ดีเลย
ตอนนั้นอาจารย์ที่นี่เหมือนยังไม่รู้ เพราะไม่มีคนมารอรับเลยยย
ละเรากะเพื่อนคือมากัน 2 คน ลงเครื่องตอน 7 โมง
พอเดินออกมา ก็ไม่มีใครมา รอรับ จนต้องติดต่อไปทางอาจารย์ที่ไทยว่าไม่มีคนมารับ
จนอาจารย์ทางไทยต้องติดต่อมาทางเกาหลี ว่า นักศึกษาทุน 2 คน
ได้เดินทางไปถึงเกาหลีเช้านี้ ละคือตอนนั้นแบบไม่รู้อะไรเลย ภาษาเกาหลี
ที่พูดได้จิงๆมีอยู่ 2 คำ คือ อันยอง / คัมซาฮัมนีดะ
แต่ยังดีที่เพื่อนเราอีกคนได้ภาษา เลยแบบมีสติพอต่อเน็ต
เพื่อติดต่อไปยังประเทศไทย
- โดนลอยแพร ตั้งแต่วันแรกเลยยย อาจารย์ ที่มารับบอกว่า
"ดีนะบ้านอาจารย์อยู่แถวอินชอน " เลยมารับได้ แบบไม่ต้องรอนาน
หลายๆคน ถามกันมาว่า ............... มีโอกาสได้ทุนมาเรียนเกาหลีทั้งทีทำไมไม่หางานทำ??
... คือ การที่จะทำงานต่างๆ ใช่ว่าจะทำได้นะคะ ยิ่งมาแบบนักศึกษาทุนด้วยแล้ว ยากค่ะ
เพราะ อาจารย์จะแจ้งไว้เลยค่ะว่า ไม่สามารถทำงานได้ หากโดนจับขึ้นมา
โดนปรับตั้งแต่ ล้านวอน - 10 ล้านวอนเลยนะคะ
เพราะ ยิ่งได้ทุน มาเรียน คือเราต้องทำคะแนน ให้ได้ตาม เกณฑ์ที่เค้ากำหนดค่ะ
ถ้าไม่ถึง จะโดนตัดทุน และต้องชดใช้เงินคืนให้ กับทางมหาลัย 30%
ของค่าใช้จ่ายที่เค้าออกให้ทั้งหมด 😱😱😱 โหดมากเลยใช่ไหมคะ???..
เครียดมากเลยใช่ไหม?? ใช่ค่ะ ช่วงสอบเป็นอะไรที่กดดันมาก ทั้งรายงานเอย
การบ้านที่ต้องส่ง และ ยิ่งวิศวะคอมนะคะ ต้องเรียนเขียนโปรแกรมอีก
ถ้าในเมื่อเราได้โอกาสมาอยู่ที่ประเทศเกาหลีแล้ว >< ไม่ว่าจะเจออุปสรรคแค่ไหน
เราก็ต้องผ่านไปให้ได้ เพราะพอมาอยู่ คือ หลงรักเกาหลี เลยยย อากาศที่นี่ดี
การคมนาคม การขนส่งก็ดี เราถึงพยายามทำทุกอย่างงง เพื่อให้ได้อยู่ที่นี่
แต่พอย้อนเวลากลับไปก็เสียดายนะคะ เราสามารถ ทำอะไรหลายๆๆอย่างได้
เช่น หิ้วของ รับส่งของกลับไทย และ กดเว็ปต่างๆ แต่ตอนนั้นยังเด็ก คือไม่รู้วิธีหาเงิน
พอมองย้อนกลับไปแอบเสียดายเวลาค่ะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปล. ตอนนี้เราได้กลับมาอยู่ที่เกาหลีอีกครั้งแล้วนะคะ แต่ก็ด้วยวีซ่า ปริญญาตรี แต่รอบนี้ทุนตัวเองน๊าาา
เดี๋ยวกระทู้หน้า เราจะแชร์ ประสบการณ์ในการขอวี นะคะ ฝากติดตามด้วยน๊าาาาา
สามารถถามได้ทุกเรื่องเลยนะคะ -- ขอบคุณค่ะ