เมืองเกียวโตรณรงค์ยุติการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโควิด
สมาคมการแพทย์แห่งญี่ปุ่นเรียกร้องให้ปกป้องบุคลากรทางการแพทย์จากการถูกกลั่นแกล้งและเลือกปฏิบัติ ทั้ง ๆ ที่เป็นผู้เสียสละและทำงานอย่างหนักเพื่อรับมือการระบาดของไวรัสโควิด
การสำรวจของสมาคมการแพทย์แห่งญี่ปุ่นพบการกลั่นแกล้งและเลือกปฏิบัติต่อบุคลากรทางการแพทย์และครอบครัว เช่น ถูกปฏิเสธไม่ให้ใช้บริการรถแท็กซี่ และเข้าร้านต่าง ๆ เนื่องจากทำงานในสถานพยาบาล,ได้รับโทรศัพท์กลั่นแกล้งหรือข้อความคุกคามในสื่อสังคมออนไลน์, เพื่อนบ้านแสดงท่าทีรังเกียจ, แพร่ข่าวเท็จว่ามีการติดเชื้อในสถานที่ทำงาน
สถานพยาบาลบางแห่งยังถูกข่มขู่ให้เปิดเผยที่อยู่เจ้าหน้าที่ หรือไม่ให้ปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ออกไปข้างนอก โดยอ้างว่าจะแพร่เชื้อไวรัส
สมาคมการแพทย์แห่งญี่ปุ่นได้รวบรวมข้อมูลจากจังหวัดต่าง ๆ ในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2563 และระบุว่ามีรายงานการกลั่นแกล้งและเลือกปฏิบัติต่อแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในลักษณะนี้เกือบ 700 กรณีทั่วทั้งญี่ปุ่น
ทางสมาคมเรียกร้องว่าการเลือกปฏิบัติจากสังคมเป็นการบั่นทอนกำลังใจ และทำร้ายสุขภาพจิตของบุคลากรทางการแพทย์
หน่วยงานต่าง ๆ ของญี่ปุ่นรณรงค์ให้ยุติการเลือกปฏิบัติหรือคุกคามผู้ติดเชื้อ, บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงครอบครัว เช่น การสืบค้นที่อยู่ ที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ จนถึงการกดดันทางสังคมต่าง ๆ จนบางคนคิดสั้นฆ่าตัวตาย หลายครอบครัวบอกลูกหลานที่ทำงานในเมืองใหญ่ว่าอย่ากลับภูมิลำเนา สถานพยาบาลและสถานดูแลผู้สูงอายุหลายแห่งต้องใช้มาตรการห้ามบุคคลภายนอกเข้าสถานที่ และติดป้ายประกาศว่า “มีมาตรการฆ่าเชื้ออย่างรัดกุม” เพื่อหลีกเลี่ยงความหวาดระแวงของสังคม
การเลือกปฏิบัติเช่นนี้เกิดขึ้นกับผู้ที่เสียสละอย่างแพทย์และพยาบาล และผู้ติดเชื้อที่ทนทุกข์อยู่แล้ว แต่ประชาชนจำนวนไม่น้อยกลับใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ ไม่ได้ระมัดระวังตัวป้องกันการติดเชื้อ
สมาคมการแพทย์แห่งญี่ปุ่นเรียกร้องให้ประชาชนติดตามข้อมูลให้มากขึ้น และทำความเข้าใจกับการแพร่ระบาดของโรคโควิดอย่างถูกต้อง.
โปสเตอร์รณรงค์ระบุว่า "ไม่ว่าใครก็อาจจะติดเชื้อได้"
"การเลือกปฏิบัติจะทำให้ผู้ติดเชื้อหลีกเลี่ยงการเข้ารักษา
การแพร่ระบาดจะยิ่งขยายวง" และ "คู่ต่อสู้ของเราคือเชื้อไวรัส"
ข่าวจาก : MGR Online
แพทย์พยาบาลญี่ปุ่นถูก “บูลลี่” เดียดฉันท์แพร่โควิด
เมืองเกียวโตรณรงค์ยุติการเลือกปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโควิด
การสำรวจของสมาคมการแพทย์แห่งญี่ปุ่นพบการกลั่นแกล้งและเลือกปฏิบัติต่อบุคลากรทางการแพทย์และครอบครัว เช่น ถูกปฏิเสธไม่ให้ใช้บริการรถแท็กซี่ และเข้าร้านต่าง ๆ เนื่องจากทำงานในสถานพยาบาล,ได้รับโทรศัพท์กลั่นแกล้งหรือข้อความคุกคามในสื่อสังคมออนไลน์, เพื่อนบ้านแสดงท่าทีรังเกียจ, แพร่ข่าวเท็จว่ามีการติดเชื้อในสถานที่ทำงาน
สถานพยาบาลบางแห่งยังถูกข่มขู่ให้เปิดเผยที่อยู่เจ้าหน้าที่ หรือไม่ให้ปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ออกไปข้างนอก โดยอ้างว่าจะแพร่เชื้อไวรัส
สมาคมการแพทย์แห่งญี่ปุ่นได้รวบรวมข้อมูลจากจังหวัดต่าง ๆ ในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2563 และระบุว่ามีรายงานการกลั่นแกล้งและเลือกปฏิบัติต่อแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในลักษณะนี้เกือบ 700 กรณีทั่วทั้งญี่ปุ่น
ทางสมาคมเรียกร้องว่าการเลือกปฏิบัติจากสังคมเป็นการบั่นทอนกำลังใจ และทำร้ายสุขภาพจิตของบุคลากรทางการแพทย์
หน่วยงานต่าง ๆ ของญี่ปุ่นรณรงค์ให้ยุติการเลือกปฏิบัติหรือคุกคามผู้ติดเชื้อ, บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงครอบครัว เช่น การสืบค้นที่อยู่ ที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ จนถึงการกดดันทางสังคมต่าง ๆ จนบางคนคิดสั้นฆ่าตัวตาย หลายครอบครัวบอกลูกหลานที่ทำงานในเมืองใหญ่ว่าอย่ากลับภูมิลำเนา สถานพยาบาลและสถานดูแลผู้สูงอายุหลายแห่งต้องใช้มาตรการห้ามบุคคลภายนอกเข้าสถานที่ และติดป้ายประกาศว่า “มีมาตรการฆ่าเชื้ออย่างรัดกุม” เพื่อหลีกเลี่ยงความหวาดระแวงของสังคม
การเลือกปฏิบัติเช่นนี้เกิดขึ้นกับผู้ที่เสียสละอย่างแพทย์และพยาบาล และผู้ติดเชื้อที่ทนทุกข์อยู่แล้ว แต่ประชาชนจำนวนไม่น้อยกลับใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ ไม่ได้ระมัดระวังตัวป้องกันการติดเชื้อ
สมาคมการแพทย์แห่งญี่ปุ่นเรียกร้องให้ประชาชนติดตามข้อมูลให้มากขึ้น และทำความเข้าใจกับการแพร่ระบาดของโรคโควิดอย่างถูกต้อง.