สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ผมใช้แต่ grab นะ ขี้เกียจเข้าแอปอื่น
เข้าใจนะว่าร้านอาหารต้องเสียให้ grab เยอะแค่ไหน แต่อย่าลืมว่าเค้าเป็นเจ้าของ platform ร้านที่ไปลงให้เค้าก็ต้องยอมเสียทุกอย่างตามที่เค้าเรียกร้องอยู่แล้ว ไม่ต่างอะไรกับไปเช่าพื้นที่ศูนย์อาหารในห้างใหญ่ๆหรือสนามบิน ก็ต้องเสียค่าเช่าที่มหาโหด ต่างกันตรงที่เปลี่ยนจากเช่าพื้นที่จริงๆ เป็นเช่าพื้นที่ในแอปแค่นั้น ทีนี้พอเราเทียบกับเช่าพื้นที่จริง ก็ไม่แปลกอะไรที่ร้านที่ยอมจ่ายค่าเช่ามากกว่า หรือให้ส่วนแบ่งเยอะกว่า จะได้อยู่ทำเลดีๆ ที่คนผ่านไปมาเยอะๆ ส่วนร้านที่จ่ายค่าเช่าน้อย หรือสู้ค่าเช่าไม่ไหว ก็ต้องยอมไปอยู่หลืบๆมุมๆ
ร้านที่ทำเลไม่ดี จะขายได้ก็ต้องใช้อย่างอื่นเข้าช่วย ทำให้คนอยากมาซื้อ ทั้งๆที่อยู่ในหลืบมุม เช่น มีเมนูซิกเนเจอร์ที่น่ากินมากๆ หรือทำ online marketing ดีๆ ซึ่งตอนนี้คนทำกันเยอะแยะ ไม่อย่างนั้นเราคงไม่เห็นคอนเทนต์รีวิวอาหารเต็มโซเชียลหรอก
ปัญหาของคนส่วนใหญ่คือ ชอบคิดไปเองว่าการทำงานออนไลน์ไม่มีต้นทุน (เหมือนที่คนทำอาชีพรับออกแบบบ่นว่าลูกค้าจะให้แก้งานหรือให้ออกแบบฟรี เพราะคิดว่างานออกแบบไม่มีต้นทุน) ทั้งที่ตัว platform เค้าต้องลงทุนอะไรมากมาย ถ้าจะบอกว่าเค้าหน้าเลือด ขูดเลือดขูดเนื้อร้านอาหาร ก็ช่วยไม่ได้ เพราะเค้าทำธุรกิจ ไม่ใช่มูลนิธิหรือองค์กรไม่แสวงหาผลประโยชน์ คนทำธุรกิจก็อยากได้กำไรมากที่สุดอยู่แล้ว
แต่ที่ จขกท บอกว่าโดน grab แกล้ง ถึงขั้นพิมพ์ชื่อยังหาไม่เจอ อันนี้ถ้าเป็นจริงผมก็เห็นด้วยว่า grab ทำผิดและน่าเกลียดมาก แต่ส่วนตัวยังไม่เคยเจอ ที่แน่ๆคือร้านที่จ่ายน้อยจะไม่ขึ้นให้เลือก ต้องพิมพ์หาเอง ซึ่งอันนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องปกติ ก็เลยไม่แน่ใจที่ จขกท บอกว่าขนาดลูกค้าพิมพ์ชื่อก็ยังไม่เจอ อาจจะเกิดจากสะกดผิดรึเปล่า
เข้าใจนะว่าร้านอาหารต้องเสียให้ grab เยอะแค่ไหน แต่อย่าลืมว่าเค้าเป็นเจ้าของ platform ร้านที่ไปลงให้เค้าก็ต้องยอมเสียทุกอย่างตามที่เค้าเรียกร้องอยู่แล้ว ไม่ต่างอะไรกับไปเช่าพื้นที่ศูนย์อาหารในห้างใหญ่ๆหรือสนามบิน ก็ต้องเสียค่าเช่าที่มหาโหด ต่างกันตรงที่เปลี่ยนจากเช่าพื้นที่จริงๆ เป็นเช่าพื้นที่ในแอปแค่นั้น ทีนี้พอเราเทียบกับเช่าพื้นที่จริง ก็ไม่แปลกอะไรที่ร้านที่ยอมจ่ายค่าเช่ามากกว่า หรือให้ส่วนแบ่งเยอะกว่า จะได้อยู่ทำเลดีๆ ที่คนผ่านไปมาเยอะๆ ส่วนร้านที่จ่ายค่าเช่าน้อย หรือสู้ค่าเช่าไม่ไหว ก็ต้องยอมไปอยู่หลืบๆมุมๆ
ร้านที่ทำเลไม่ดี จะขายได้ก็ต้องใช้อย่างอื่นเข้าช่วย ทำให้คนอยากมาซื้อ ทั้งๆที่อยู่ในหลืบมุม เช่น มีเมนูซิกเนเจอร์ที่น่ากินมากๆ หรือทำ online marketing ดีๆ ซึ่งตอนนี้คนทำกันเยอะแยะ ไม่อย่างนั้นเราคงไม่เห็นคอนเทนต์รีวิวอาหารเต็มโซเชียลหรอก
ปัญหาของคนส่วนใหญ่คือ ชอบคิดไปเองว่าการทำงานออนไลน์ไม่มีต้นทุน (เหมือนที่คนทำอาชีพรับออกแบบบ่นว่าลูกค้าจะให้แก้งานหรือให้ออกแบบฟรี เพราะคิดว่างานออกแบบไม่มีต้นทุน) ทั้งที่ตัว platform เค้าต้องลงทุนอะไรมากมาย ถ้าจะบอกว่าเค้าหน้าเลือด ขูดเลือดขูดเนื้อร้านอาหาร ก็ช่วยไม่ได้ เพราะเค้าทำธุรกิจ ไม่ใช่มูลนิธิหรือองค์กรไม่แสวงหาผลประโยชน์ คนทำธุรกิจก็อยากได้กำไรมากที่สุดอยู่แล้ว
แต่ที่ จขกท บอกว่าโดน grab แกล้ง ถึงขั้นพิมพ์ชื่อยังหาไม่เจอ อันนี้ถ้าเป็นจริงผมก็เห็นด้วยว่า grab ทำผิดและน่าเกลียดมาก แต่ส่วนตัวยังไม่เคยเจอ ที่แน่ๆคือร้านที่จ่ายน้อยจะไม่ขึ้นให้เลือก ต้องพิมพ์หาเอง ซึ่งอันนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องปกติ ก็เลยไม่แน่ใจที่ จขกท บอกว่าขนาดลูกค้าพิมพ์ชื่อก็ยังไม่เจอ อาจจะเกิดจากสะกดผิดรึเปล่า
แสดงความคิดเห็น
ยอดขาย Grab ตกอย่างมาก เพราะคนใช้จ่ายน้อยลง หรือ Grab เก็บ % ทุกอย่างโดยไม่คำนึงถึงความอยู่รอดของร้านอาหาร?
แต่ส่วนนึงก็มาจาก Grab เก็บเงินร้านค้าเดือนละ 28,000 - 30,000 บาท แล้วดึงให้ร้านค้านั้นๆ ขึ้นมาให้ลูกค้าที่กดเข้าแอพไปเห็นร้านแรกๆ
แล้วยังกล้าโทรมาหาร้านที่ไม่ยอมเสียเงินให้ แจ้งว่า Ranking ร้านตกนะคะ ยอดขายน้อยลง ใช่ไง! เพราะแอพเธอจะเอาเงินทุกทางไง รานเล็ก ๆ ก็ตายหมดสิ ร้านเล็กๆ เขาก็ไม่ได้มีเงินมาจ่ายให้ต่อเดือนเยอะขนาดนั้น ร้านเราเองก็ทั้งลดทั้งแถม ลูกค้าไม่เห็นร้านเลย บางคนมาบ่นถึงหน้าร้านว่าหาไม่เจอทั้งที่ค้นหาชื่อร้านแท้ๆ คุยกับพนักงานติดต่อทำส่วนลดพนักงานถึงกับหลุดปากออกมาว่าใช่ Grab บล็อคไม่ให้ลูกค้ามองเห็นร้านค้าที่ไม่ทำโปรกับ Grab โดยตรง ทั้งส่วนลดในแอพ และการโปรโมทแบบเสียเงินรายเดือน
พอได้ยินงั้นถึงกับท้อแท้ว่าหัก 32% แล้ว ยังจะเอาบล็อคการมองเห็นร้านอีก ไปขายแอพอื่นก็ไม่ได้ สัญญาบอกห้ามขายร้านก็ทำตาม
เลยแอบคิดว่าตกลงยอดขายตกนี่เพราะการใช้จ่ายที่ลดลงอย่างเดียว หรือเพราะ Grab บล็อคการมองเห็นร้าน
ถ้ากระทู้นี้ดัง แล้ว Grab เข้ามาปฏิเสธว่าไม่มีการบล็อคการมองเห็น ก็จะเชื่อนะ แต่ขอเลิกใช้ละ ยกเลิกร้านออกจาก Grab ยอมแล้วจริงๆ ยอมใจนายทุนที่มีเงินแบบเขาแล้วจริงๆ