เรียกข้าว่า....ตำนาน



กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ย้อนกลับไปเกือบร้อยปีในยุคสมัยที่อันธพาลครองเมืองอเมริกา พวกมันทำแต่เรื่องผิดกฎหมาย ขายเหล้าเถื่อน ค้าฝิ่นค้าผง ข่มขู่รีดไถผู้บริสุทธิ์และเข่นฆ่ากันเหมือนผักเหมือนปลา พวกมันทำเหมือนกับว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป จนวันนึงมีชายคนหนึ่งทนพวกมันไม่ไหวและเข้าร่วมกับเอฟบีไอเข้าห้ำหั่นกับพวกมันราวกับหนังคาวบอย ดวลปืนกันสนั่นเมือง และชายคนนี้ก็อยู่รอดผ่านยุคสมัยป่าเถื่อนยุคนั้นมาได้ เท่านั้นไม่พอเขายังอยู่จนสร้างตำนานมากมายให้คนรุ่นหลังได้เล่าขาน เรื่องของชายคนนั้นจะเป็นอย่างไร เชิญนั่งลงและรับชมภาพประกอบพร้อมคำบรรยายไปพร้อมๆกันเลยครับ ผมจะเล่าให้ทุกท่านฟัง



ชายคนที่ผมได้พูดถึงเขามีชื่อเสียงเรียงนามว่า วอลเตอร์ วอลช์ เขาเกิดและเติบโตย่านนิวเจอร์ซี่ ในวัยเด็กเขาก็เริ่มหลงใหลในการยิงปืน โดยมักซ้อมยิงที่หนีบผ้าของร้านซักผ้าของคุณป้าจนโดนตีก้นลายไปตามระเบียบ จากนั้นก็พัฒนามาไล่ยิงปลวกยิงหนูด้วยปืนลูกกรด.22จนแม่นยำราวกับจับวาง ต่อมาเมื่อเขาอายุได้ 16 ปี หนุ่มน้อยวอลเตอร์ก็ได้สมัครเข้าร่วมกับกองกำลังป้องกันแห่งชาติโดยปิดบังอายุและไปฝึกทักษะการยิงปืนนานาชนิด จากนั้นก็ไปเข้าเรียนที่โรงเรียนกฎหมายรัทเจอร์และจบออกมาเป็นเอฟบีไอในที่สุด



ในปี 1934 บรรดาเหล่าอันธพาลกำลังเฟื่องฟูกันสุดขีด มีการก่ออาชญากรรมไปทุกหย่อมหญ้า วายร้ายในยุคนั้นที่ดังๆ ก็ได้แก่ จอห์น ดิลลิงเจอร์, "ไอ้ปืนกล" เคลลี่ และบอนนี่ แอนด์ไคลด์ ปีแรกของการเป็นเอฟบีไอ หนุ่มน้อยวอลเตอร์ก็ได้พบกับเรื่องตื่นเต้นระทึกขวัญ เมื่อวันหนึ่งทีมเอฟบีไอได้ไล่ล่าอาชญากรตัวเอ้ จอร์จ "ไอ้หน้าหยก" เนลสัน ซึ่งมันเพิ่งยิงเจ้าหน้าที่ตายไปสองและกำลังหลบหนี หนุ่มน้อยวอลเตอร์ก็แกะรอยไปและพบศพของมันนอนอยู่ในคูน้ำใกล้บ้านเด็กของมัน เป็นครั้งแรกที่อะดรีนาลีนของวอลเตอร์ได้สูบฉีดเพราะความตื่นเต้น ก่อนที่ต่อจากนั้นมาอีกหนึ่งปีเขาจะได้แสดงผลงานในการจับด็อก บาร์เกอร์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของมา บาร์เกอร์ เจ้าแม่แห่งวงการแก็งสเตอร์



เจ้าหน้าที่วอลช์ก็ได้สะกดรอยและพบว่าด็อก บาร์เกอร์ วายร้ายผู้ก่อคดีฆ่าคนตาย ปล้นธนาคาร เรียกค่าไถ่ และแหกคุกออกมาอยู่แถวๆชิคาโก เขาเฝ้ารอที่รถจนกระทั่งพบตัวด็อก เขาก็โผล่พรวดจากรถ ด็อกก็วิ่งหนีแต่ลื่นล้มตกลงไปในน้ำแข็ง "กริ๊ก..." เสียงนกปืนถูกสับลงจี้บนที่หัวของด็อกขณะที่หนาวสั่นพร้อมเอ่ย "อย่าขยับนะไม่งั้นตาย" เขาถามต่อ "ฮีทเตอร์อยู่ไหน?" ด็อกตอบ "อยู่บนอพาร์ทเมนต์ อ่าว...มันก็ต้องอยู่บนนั้นไม่ใช่หรอ" ซึ่งด็อกได้ซ่อนปืนไว้ที่นั่นแต่วอลเตอร์รู้ทัน "แน่ะอย่ามาหลอกกัน วันนี้ถือว่าแกโชคดีไป" หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง วอลเตอร์ก็ได้ไปปฏิบัติภารกิจต่อโดยการไปจับรัสเซล กิ๊บสันเพื่อนร่วมแก๊งของด็อกที่เพิ่งปล้นอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง เมื่อวอลเตอร์ไปถึงก็ตะโกนออกไป "ยอมมอบตัวซะกิ๊บสัน ข้าสัญญาว่าจะจับเป็นเอ็ง" แต่แทนที่มันจะตอบกลับมากลับสาดกระสุนด้วยปืนบราวนิงเจ้าหน้าที่วอลช์ไม่มีทางเลือกและจบลงด้วยการวิสามัญฯ ส่วนด็อกที่ถูกส่งตัวไปเรือนจำก็เอาแต่โอดครวญว่าเสียท่าโดนไอ้เอฟบีไอหน้าอ่อนจับเสียได้



จากนั้นอีกสามปีให้หลัง ชื่อเสียงของวอลเตอร์ก็เริ่มโด่งดังจากการวิสามัญอัล เบรดี้ ที่คนยุคนั้นขนานนามว่าเป็นวายร้ายอันดับหนึ่ง โดยเบรดี้มีนัดรับกระสุนปืนกลทอมมี่คู่ใจในร้านแห่งหนึ่งหลังจากที่เจ้าของร้านแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีบุคคลน่าสงสัยมาขอซื้อกระสุนด้วยเงินสดปึกใหญ่ๆจนผิดสังเกต หลังจากนั้นเอฟบีไอก็ได้ปลอมตัวเป็นเสมียนของร้าน และบางส่วนก็ดักรอที่ถนนฝั่งตรงข้าม เมื่อถึงเวลาก็มีสมาชิกแก๊งคนหนึ่งเข้าไปในร้าน พอวอลเตอร์ในฐานะหัวหน้าทีมให้สัญญานก็เปิดฉาก ก็เริ่มมีการสาดกระสุนเสียงดังลั่นถนน เมื่อเหตุการณ์สงบลง อัล เบรดี้ และลูกน้องอีกคนก็นอนแน่นิ่งกลางถนน ส่วน วอลเตอร์พระเอกของเราก็โดนยิงไปห้านัดเข้าที่ไหล่และหน้าอกแต่ไม่ตาย แถมหลังจากนั้นไม่กี่วันเขาก็กลับมาทำงานตามปกติ ทำให้คนสงสัยว่าเขาอาจไม่ใช่เอฟบีไอธรรมดา แต่เขาคือมิวแทนท์ที่ชื่อวอลช์เวอรีนก็เป็นได้ ที่สามารถขับกระสุนออกจากร่างได้เอง



เมื่อเวลาผ่านไป ประชากรของเหล่าอันธพาลก็เริ่มมีจำนวนลดลงไป ทำให้งานของวอลเตอร์มีน้อยลง แต่กระนั้นก็ตามว่ากันว่าเขาได้วิสามัญอาชญากรไปเป็นจำนวนระหว่าง 11 ถึง 17 ราย จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่สองได้ระเบิดขึ้นอเมริกาถูกโจมตีที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ วอลเตอร์ในวัยหนุ่มใหญ่ก็ถูกบรรจุเป็นเข้าเป็นกองหนุนที่นาวิกโยธิน และได้ถูกเรียกตัวไปประจำการในตอนที่กองทัพลุงแซมบุกโอกินาว่า โดยมีอยู่ครั้งหนึ่งขณะที่หน่วยของวอลเตอร์ถูกล้อมและกดอยู่ด้วยสไนเปอร์ จังหวะนั้นเขาก็ออกมาจากที่ซ่อนตัวแล้วควักปพ.86 หรือ 11 มม.ออกมายิงสไนเปอร์ที่ซุ่มอยู่ กระสุนสุนเข้ากลางอกและขาดใจตายทันที



หลังจบสงครามโลกวอลเตอร์ก็ได้กลับไปรับราชการที่เอฟบีไอต่ออีกสองปี จากนั้นด้วยความที่เขามีความเชี่ยวชาญด้านการยิงปืนจึงถูกคัดเลือกให้ติดทีมชาติสหรัฐไปแข่งที่โอลิมปิกเมื่อปี 1948 ที่ลอนดอนและได้ที่ 12 ก่อนที่อีกสี่ปีต่อมาในการแข่งขันยิงปืนชิงแชมป์โลกที่ออสโลเขาจะคว้าเหรียญเงินและเหรียญทองมาครอง นอกจากนี้เขายังชนะการแข่งขันภายในประเทศอีกมากมาย ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นโค้ชให้กับทีมชาติสหรัฐ และในวัย 90 ปีเขาได้รับรางวัลนักแม่นปืนยอดเยี่ยม ก่อนที่อีกสองปีต่อมาเขาจะเลิกยิงปืนและกลับมาพักผ่อนเพราะเริ่มต้องใช้แว่นสายตา และถึงแม้ว่าเขาจะกลับมาพักผ่อนที่บ้านแล้วในวัยเฉียดร้อยเขาก็ยังดูแลตัวเองได้ เดินเหินได้คล่องแคล่ว มีเพียงแค่หูตึงและความจำเสื่อมไปบ้างเล็กน้อย



"ผมเองไม่ได้ยึดติดกับเหรียญรางวัลที่เคยได้รับมา แต่คนในเอฟบีไอต่างก็รู้ว่าผมใช้ปืนได้ดีแค่ไหน" เขาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง เมื่อมีคนถามเขาถึงเคล็ดลับการมีชีวิตที่ยืนยาว เขาก็กล่าวว่า " อย่างแรกก็คือ เอ็งต้องมีโชคนะไอ้หนู หลังจากนั้นก็เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ อย่าออกนอกลู่นอกทาง ที่สำคัญนะปู่คิดว่าพระเจ้าเมตตาเอ็งเอ็งก็มีชีวิตยืนยาว" ปู่วอลเตอร์ก็เล่าต่อ "ปู่ก็คิดว่าปู่ก็ทำงานได้ดีมาโดยตลอด อีกอย่างนะปู่ก็ไม่ได้นึกถึงไอ้พวกเวรที่ปู่เคยเก็บมันเอามาใส่ใจนะ แค่นี้ชีวิตมันก็ง่ายขึ้นแล้วล่ะอีหนู" แม้ว่าปู่วอลเตอร์จะรอดพ้นจากคมกระสุน และสงครามโลกมาได้ แต่สุดท้ายคนเราก็ต้องพ่ายแพ้ต่อสังขาร และเสียชีวิตลงด้วยโรคชราก่อนวันครบรอบ 107 ปีได้ห้าวันในปี 2014 ปิดฉากชายผู้เป็นโคตรตำนานที่ยิ่งกว่าตำนาน ชายคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความทารุณแห่งยุคสมัย ชายคนนี้ที่ชื่อว่า "วอลเตอร์ วอลช์"



Cr : https://en.m.wikipedia.org/wiki/Walter_Walsh
https://www.independent.co.uk/news/obituaries/walter-walsh-fbi-marksman-who-killed-a-clutch-of-depressionera-gangsters-and-later-became-the-world-s-oldest-olympian-9334832.html
https://www.washingtonpost.com/local/obituaries/2014/05/02/89932b92-d15f-11e3-9e25-188ebe1fa93b_story.html
https://bangordailynews.com/2014/05/01/news/bangor/col-walter-r-walsh-expert-marksman-who-shot-al-brady-in-bangor-dies-at-age-106/
https://www.nytimes.com/2014/05/01/sports/walter-r-walsh-dies-at-106-terrorized-gangsters-and-targets.html
https://www.mirror.co.uk/news/world-news/walter-walsh-americas-deadliest-shot-3536959

ถ้าชอบใจฝากไลค์เพจ Someone in History : ใครสักคนในประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/someoneinhistory/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่