สารานุกรมปืนตอนที่ 498 " What if " ตอนที่ 4

นี่คือตอนพิเศษขำๆของสารานุกรมปืนแรงบันดาลใจเกิดจากการที่ Marvel Studio มี Animation Series ที่จะมีการนำเสนอคำว่า what if เป็นการเล่าถึงเหตุการณ์คู่ขนานที่ต่างจากภาพยนตร์ในจักรวาลหลักยกตัวอย่างเช่น ถ้ากัปตันอเมริกาฆ่าโทนี่สตาร์คในภาค Civil War ล่ะ. ผมเลยอยากทำบ้าง



///Background/// 

ในจักรวาลคู่ขนานที่ทางการไทยสามารถปราบปรามการก่อกำเริบของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้อย่างเด็ดขาด ด้วยนโยบายที่ตรงกันข้ามกับแผน 66/23 ในจักรวาลของเราสิ่งที่เหลือไว้คือเลือดและความตายของคนจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว แต่โดยรวมแล้วราชอาณาจักรไทยก็ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ในเวทีสงครามเย็น การปราบปรามอย่างรุนแรงและการสู้รบที่เต็มประสิทธิภาพของกองกำลังทหารพรานคือหัวหอกสำคัญสู่ชัยชนะในครั้งนี้พวกเขาใช้ปืน Type 56-1 ซึ่งก็คือปืน ak47 พานท้ายเหล็กแบบพับฐาน เป็นปืนเล็กยาวมาตรฐานของทหารพราน ภายหลังจากการปราบปรามพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยทำให้ภายในคลังแสงของกองทัพมีปืนแบบ Type 56 ซึ่งก็คือปืน ak47 แบบพานท้ายไม้เต็มของจีนแดงอยู่ในคลังจำนวน 65,000 กระบอก โดยปืนเหล่านี้นั้นไม่ได้ถูกนำมาใช้งานโดยหน่วยงานไหนของราชการไทยเลย... 



หนึ่งใน Type 56 ที่มีอยู่ 65,000 กระบอกในคลังแสง

ผ่านไป 2-3 ปีก็เริ่มมีคนใหญ่คนโตภายในกระทรวงกลาโหม รู้สึกเสียดายปืนพวกนี้แต่ก็ติดปัญหาตรงที่ว่ากระสุนขนาด 7.62x39mm ที่ปืนพวกนี้ใช้นั้น ไม่ใช่กระสุนมาตรฐานของกองทัพและกระสุน 7.62x39mm ทั้งหมดเท่าที่หาได้ในไทยก็ถูกส่งไปยังหน่วยทหารพรานที่กำลังสู้รบอยู่กับทหารลาว/เวียดนามในพื้นที่พิพาททางอีสานจึงทำให้ปืน 65,000 กระบอกเหล่านี้นั้นกลายเป็นแค่เศษเหล็กที่กองอยู่ในคลังแสง 

(เคยมีความพยายามที่จะขายปืนเหล่านี้ให้ CIA เอาไปแจกจ่ายให้กับกองกำลังที่สหรัฐสนับสนุนในสงครามตัวแทนทั่วโลกแต่ไม่สามารถตกลงเรื่องราคากันได้) 

แต่ปัญหานี้ก็มีทางแก้ไขเมื่อมีวิศวกรอาวุธชาวอิสราเอลได้เดินทางมายังประเทศไทยพร้อมกับผู้ช่วยทูตทหารอิสราเอลประจำประเทศไทยในปี พ.ศ 2523 เขาได้เสนอที่จะทำการดัดแปลงปืน Type 56 เหล่านี้ให้สามารถใช้กระสุนขนาด 5.56 มม นาโต้มาตรฐาน ได้ในราคาที่ไม่แพง 

จากการออกแบบเพื่อดัดแปลงทำให้มันถูกเปลี่ยนจากการเป็นปืนเล็กยาวมาตรฐานของทหารราบไปเป็นปืนเล็กกลยิงสนับสนุนประจำหมู่ปืนเล็กแทน เมื่อทำการดัดแปลงและทดสอบผลออกมาเป็นที่น่าพอใจมากมันถูกนำเข้าประจำการในปีพ.ศ 2526 ในชื่อปืนเล็กกลแบบ 26 (เปลี่ยนฝาครอบหลังเต่าจากของเดิมเป็นของ AKM ที่แข็งแรงกว่า)

 



มีการดัดแปลงปืน Type 56 ให้เป็นปืนเล็กกลแบบ 26 จำนวนทั้งสิ้น 30,000 กระบอกส่วนที่เหลือถูกแยกชิ้นส่วนเพื่อนำไปเป็นอะไหล่ปืน Type 56-1 ของทหารพราน ซองกระสุนของปืนชนิดนี้บรรจุกระสุนได้ 60 นัดเป็นแบบเฉพาะซึ่งมีพื้นฐานของ M16 แต่มีความแตกต่างในเรื่องของมิติและความยาวทำให้ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ซึ่งซองกระสุนชนิดนี้มีที่ผลิตเพียงที่เดียวในโลกนั่นคือกรมสรรพาวุธทหารบกตัวปืนมีน้ำหนักเมื่อบรรจุกระสุนเต็มคือ 5.8 กิโลกรัม ภายหลังมีการปรับปรุงเพิ่มเติมทำให้น้ำหนักลดลงเหลือ 4.2 กิโลกรัมเมื่อบรรจุกระสุนเต็ม ตัวปืนมีอัตราการยิงอยู่ที่ 650 นัดต่อนาที มีโหมดการยิงคือกึ่งอัตโนมัติและอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

หน่วยงานที่รับเอาปืนเล็กกลแบบ 26 ไปใช้งานคือกองทัพบกและมีอยู่ 60 กระบอกที่กรมราชทัณฑ์นำไปใช้ในหอพลแม่นปืนของเรือนจำบางขวางและเรือนจำความมั่นคงสูงทั่วประเทศ ปืนเล็กกลแบบ 26 รับใช้กองทัพบกและกรมราชทัณฑ์มายาวนานนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 ได้ปลดประจำการอย่างเป็นทางการในปีพศ 2556 ถูกแทนที่ด้วย FN Minimi ภายหลังจากที่ถูกปลดประจำการไปแล้วปรากฏว่าเพียง 2 ปีหลังจากนั้น ปืนเล็กกลแบบ 26 ก็เริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง โดยอยู่ในมือของกองกำลังชนกลุ่มน้อยไทใหญ่ในสงครามการเมืองยืดเยื้อกับกองทัพของรัฐบาลพม่า...ไม่มีใครรู้ว่าปืนเหล่านั้นไปอยู่ที่กองกำลังไทใหญ่ได้อย่างไรอาจจะถูกลักลอบนำไปขายหรือไม่ก็... เป็นการสนับสนุนอย่างลับๆเพื่อสร้างรัฐกันชนที่เข้มแข็งระหว่างไทยกับพม่า.


สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่