ผมอ่านแล้ว คิดว่าปัญหาคืออะไรรู้ไหมครับ
คุณกำลังทะเลาะกัน คุณไม่พอใจเขา แล้วคุณขุดเรื่องที่คุณเคยไม่พอใจขึ้นมาใส่กัน

คนรอบๆตัวว่าแฟนคุณเป็นคน ok แต่ตอนนี้คุณรู้สึกไม่แฮ้ปปี้เลย คุณกำลังหาพวก หาความมั่นใจว่าความผิดทั้งหลายมันมาจากแฟนคุณ ส่วนตัวคุณคุณยอมรับว่าเป็นคนเหวี่ยงวีนนะ โมโหง่ายนะ แต่เป็นแบบนี้ก็เพราะเค้า..

คุณเอาเรื่องลูกติดมาเป็นประเด็นหลักในการต่อว่าแฟนคุณ แต่ผมมองไม่ใช่เค้าไม่ดำเนินการอะไรนะ เค้าอาจจะตัดสินใจแล้วก็ได้ว่าจะไม่ให้เงิน ไม่ช่วย เพราะพวกคุณเองก็มีปัญหาด้านการเงินจากโควิดอยู่ไม่ใช่หรือครับ (เค้าคิดถูกหรือเปล่าผมไม่รู้นะ ไม่ตัดสิน)

ค่าตรวจ DNA ราคาเหยียบหมื่นนะครับ แค่ค่าซ่อมโทรศัพท์แฟนเก่ายังต้องมาขอเงินแฟนคุณ ถ้าตัวคุณเป็นเค้า ถามว่าจะบังคับให้ฝ่ายนั้นไปตรวจยังไง? ให้ตังค์ไปเค้าจะเอาไปตรวจเหรอ? แล้วถึงจะตรวจไม่ตรวจค่าเทอมเด็กมันก็หลายตังค์ ถ้าไม่มีจะจ่ายอยู่ดีตรวจไม่ตรวจมันมีประโยชน์อะไร?

เขาขอคำปรึกษาจากคุณ แค่เรื่อง 40 สัปดาห์คุณก็ว่าเขา 'ย้อนถาม' ตัวคุณพร้อมให้คำปรึกษา ยืนข้างเค้า เผชิญเรื่องร้ายๆที่เข้ามาแค่ไหน แต่อ่านๆดูคือคุณไม่มีตรงนี้เลยนะ คุณพร้อมทำตัวเป็น 'อีกปัญหา' นึงให้เค้าตลอด เหวี่ยงวีนใส่เขา มันไม่แปลกหรอกที่มีอะไรหนักๆเข้ามาแล้วเค้าจะไม่บอกคุณ

นิสัยเสียข้ออื่นผมดูเหมือนน้ำจิ้มอ่ะ เหมือนคนไม่พอใจกันมากๆแล้วขุดขึ้นมา อย่างเขาทำงานไปวันๆนี่ แต่ เขาเป็นฝ่ายที่ซัพพอร์ตชีวิตคุณ นะครับ

ไอ้ที่เขาตั้งใจกวนคุณ ว่าคุณ จิ๊ปาก เขาอาจไม่พอใจหรือพยายามสื่อสาร สอน หรือแสดงออกอะไรกับคุณแล้วไงครับ แต่คุณไม่สน คุณชอบเอาเหตุผลอื่นมาบอกว่าตัวเองถูก อะไรก็ 'ทีเขา' ยังงั้นยังงี้ ชีวิตคู่ไม่ใช่แบทเทิลรอยัลนะครับ เราไม่ต้องรบกันเพื่อหาผู้ชนะหนึ่งเดียว เราต้องการเหตุผล และปรับจูนตัวเองเข้าหากัน ช่วยเหลือกัน เกื้อกูลกัน เข้าใจกันครับ

โควิดเนี่ยหลายๆคนมีปัญหานะครับ เงินฝืดเคืองใครๆก็มีปัญหา แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่จะมาเหวี่ยงวีนกับคนที่ร่วมชีวิตกันมานะครับ

ก็ไม่รู้หรอกครับว่านิสัยเขาจริงๆเป็นยังไง แต่คนรอบข้างก็ว่าเขาดีใช่ไหมครับ

แต่ผมอ่านที่คุณพิมพ์มาแล้ว พูดตรงๆผมเห็นข้อเสียคุณเยอะมากเลย ถ้าที่จริงแล้วปัญหาทั้งหมดมันมาจากฝ่ายคุณซะส่วนใหญ่ เลิกกันไปก็คงไม่ช่วยอะไรขึ้นมาหรอกครับ คุณอาจไม่ต้องรับรู้เรื่องแฟนเก่าเขา แต่ก็ไม่มีคนซัพพอร์ตชีวิตคุณ กิจการคุณก็ไม่ดีขึ้น ความเหวี่ยงวีนคุณก็ไม่หาย ลองคิดดูให้ถ่องแห้ก่อนครับ เริ่มจากคุยกันดีๆใช้เหตุผลและความอดทนแก่กันก่อน

เราเคยคิดว่าเราโชคร้ายที่เจอคนที่ใจดำกับเรา แถมพอเลิกไปไม่เคยง้อแม้แต่คำเดียว เหมือนรอเวลาให้เราบอกเลิกมานานแล้ว เราเคยไม่เข้าใจว่าเราผิดอะไร ย้ำคิดย้ำทำว่า ฉันผิดอะไร? ทุกๆวัน

แต่นาทีนี้ เราขอบคุณที่เค้าใจร้ายแบบเด็ดขาดกับเรา เพราะมันทำให้เราลืมเขาได้ง่ายขึ้นมากๆ ไม่งั้นเราก็ต้องยื้อกันไปแบบไม่มีที่สิ้นสุด

บางทีนี่อาจจะเป็นความหวังดีครั้งสุดท้าย เป็นความรักครั้งสุดท้ายที่เค้าจะมอบให้เราก็ได้นะ เพราะเค้ารู้ว่ายังไงอนาคตก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้ากันได้ เหมือนเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกัน ยื้อกันไปก็มีแต่ทำให้เราเสียใจแบบไม่มีที่สิ้นสุด

พอมาอ่านเรื่อง จขกท. เราก็ยิ่งเข้าใจ บางทีการตัดแบบไม่ขาด ขาดแต่ไม่สุด แบบที่ จขกท. กำลังเผชิญอยู่ เค้าก็แค่รักตัวเอง อยากให้มีคนอยู่ตรงนั้นกับเค้า 2 คน ไม่ยอมให้ใครไปเลยสักคน ผูก จขกท. เอาไว้ไม่ให้ไปมีอนาคตที่ดี ให้จมอยู่กับเค้าในขณะที่เค้าจะทำอะไรก็ได้ จะเย็นชา เมินเฉย หมดโปร จะไปแอบเลี้ยงคนอื่นยังไงก็ได้ ยังไง จขกท ก็อยู่กะเค้า เดี๋ยวง้อๆหน่อยก็กลับมาเหมือนเดิม

เราว่าแบบนี้ใจร้ายกว่าแฟนเก่าเราเยอะเลยอ่ะ

ความสัมพันธ์ของคุณมันเหมือนอยู่กับคนที่เราเคยชินค่ะ คือความรักความผูกพันมันจางไปแล้วล่ะ  ที่คุณสับสนอยู่เพราะคิดว่าอยู่ด้วยกันมานาน เป็นคนที่คุ้นเคยไง เลยตัดใจไม่ขาด

เราอ่านข้อดีของแฟนคุณ เหมือนกับว่าคุณพยายามขุดหาเหตุผลมาใส่  อย่างข้อ3 นี่ไม่ใช่ละ  เขาหาคนมาดูแลแม่ต่างหาก  ส่วนข้อ5 ที่คุณใส่วงเล็บไว้  แสดงว่าคุณก็รู้ว่าเขาไม่จริงใจ

เห็นด้วยกับความเห็นบนๆ ลองแยกกันอยู่สักพักก็ดี จะได้รู้ใจเราว่าขาดเขาได้ไหม  จะเลิกเลยก็ได้นะ เพราะฝืนอยู่ต่อไปมันมีแต่ทุกข์  อยู่ที่คุณว่าจะทนได้แค่ไหน  อย่าลืมว่าทั้งคู่ต้องช่วยปรับตัวเข้าหากัน ถึงจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ได้ ทำอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่ไหวมันเหนื่อย

ระวังอย่าพลาดท้องช่วงนี้นะคะ ไม่งั้นจะยิ่งสร้างปัญหาไปอีก  ลูกควรมีตอนคุณทั้งสองมีความสุขค่ะ