สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนน้าค้า สำหรับกระทู้นี้ เราแบ่งส่วนไว้ให้อ่านกันง่าย ๆ สำหรับใครมีเวลาน้อยก็อ่านแต่ที่สนใจก็ได้เนาะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้าาาา อยากจะทราบข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็หลังไมค์ หรือไดเร็กมาในไอจีที่ให้ไว้บนไบโอก็ไม่ติดจ้า ปล. กระทู้นี้รูปทุกรูปไม่มีฟิลเตอร์ใด ๆ
1. ไฮไลท์การเดินทาง
2. บันทึกการเดินทาง
3. แผนการเดินทางคร่าว ๆ
4. ค่าใช้จ่าย
5. เรื่องอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์
          𝐂𝐇𝐀𝐒𝐄 𝐓𝐇𝐄 𝐒𝐔𝐍𝐒𝐄𝐓 | เคยเห็นสวนผึ้งในมุมแบบนี้กันหรือยัง? ถ้ายัง เราอยากแนะนำให้รู้จักกับที่นี่ "สันสิงโต" เป็นแคมป์พักแรมระหว่างทางเดินเทรลขึ้นยอดเขาแหลม อ. สวนผึ้ง จ. ราชบุรี
          เมื่อดวงอาทิตย์ค่อย ๆ หันองศาไปทางทิศตะวันตกราว ๆ 6 โมงเย็น เราย้ายก้นตัวเองไปพร้อมกับเก้าอี้สนามและนั่งมองมันจนแสงอุ่น ๆ ที่ทุกคนเห็นนี้ แปรเปลี่ยนเป็นความมืดสนิท เป็นความอบอุ่นที่สวยมากจนทำให้รู้สึกหนาว แต่ก็นะ โลกที่หมุนด้วยความลำพังก็สวยงามเช่นกัน
#ขอให้เธอได้เจอท้องฟ้าในแบบที่เธอชอบ
          อยากรู้จักที่นี่กันมากขึ้นแล้วใช่ไหมล่าาาา? ไปเริ่มกันเล้ยยย เย่!!
          การเดินทางไปยังจุดเริ่มเดินใช้เส้นทางเดียวกับการขึ้นเขากระโจม พวกเราใช้บริการของกลุ่มคนรักษ์เขากระโจม ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งให้บริการนักท่องเที่ยวขึ้นเขากระโจมมาเป็นเวลายาวนานแล้ว นอกจากจะมีความชำนาญในเส้นทางในเส้นทางแล้ว ยังมีหัวใจนักอนุรักษ์อีกด้วย สบายใจหายห่วง
          โอ้มายก้อด อย่างที่เห็นนี่ล่ะ ถนนหนทางแบบนี้ ย้ำให้ฟังกันชัด ๆ ว่าต้องเป็นรถยกสูงและขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้นน้า ถึงจะขับผ่านถนนเส้นนี้ไปได้
          ทริปนี้เรามากัน 3 คนถ้วน บวกลุงนำทางอีก 1 เท่ากับ 4 คน เราเริ่มเดินประมาณ 09.30 น. ระหว่างเดินก็สังเกตพันธุ์กล้วยไม้ชนิดต่าง ๆ ที่นี่มีให้เห็นเยอะอยู่เหมือนกันนะ ทางเดินไม่ชันมากและไม่ยากสักเท่าไร เพียงแต่ว่าช่วงนี้อาจจะลื่น ๆ หน่อย เพราะใบไม้แห้งเริ่มเยอะร่วงลงมาหนากองอยู่กับพื้น และดินบริเวณทางเดินก็ค่อนข้างจะร่วนและแห้ง ก้าวขึ้นก็ไม่เท่าไรหรอก จังหวะลาดลงก็ใจหายอยู่หลายรอบเหมือนกัน
          ไผ่ที่กำลังถูกเลื่อยที่ทุกคนเห็นอยู่นี้จะกลายมาเป็นหม้อหุงข้าวชั้นดีของพวกเราสำหรับมื้อเย็นล่ะ
          เราเดินเท้าไต่ระดับความชันไปเรื่อย ๆ ยากบ้าง ง่ายบ้าง ระหว่างเดินก็มีจุดเหมาะ ๆ ให้พักหลายจุดเลย พักเยอะหน่อยเพราะรอบนี้เป้หนัก 17 กิโลกรัม เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า
          อุ๊ย ๆ เจอเจ้านี่กำลังบานน่ารักเชียว "เอื้องศิลา" กล้วยไม้ดินชนิดหนึ่ง ดอกสีน้ำตาลเข้มไปทางดำ ๆ แบบนี้เลย สวยแปลกตาดีเนาะ
          เกือบ 5 ชั่วโมง พวกเราก็เดินทางมาถึงจุดที่พวกเราจะตั้งแคมป์กันแล้ว บริเวณนี้ถูกเรียกว่า "สันสิงโต" หรือ "ผาสิงโต" เป็นทั้งสันเขาด้วยและมีหน้าผาด้วย ก็แล้วแต่จะเรียกกันเลยจ้า ส่วนคำว่า "สิงโต" ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเจ้าป่าราชสีห์แต่อย่างใด แต่หมายถึง "กล้วยไม้ป่าตระกูลสิงโต" ถูกพบบริเวณนี้ไม่น้อยเลย
          ก่อนอื่นเราต้องไปหาไม้แห้งหลาย ๆ ขนาดมาเตรียมไว้ให้เพียงพอสำหรับทำฝืนกันในคืนนี้
          เมื่อได้ที่ปักหลักปักฐานเรียบร้อยแล้ว ผืนผ้าใบถูกกางออกให้เรานั่งพักนอนพักกันใต้เงาไม้สักครู่หนึ่งก่อนที่จะไปเดินชมกล้วยไม้ชนิดต่าง ๆ กันรอบ ๆ บริเวณ ส่วนใหญ่ยังไม่ออกดอก จะมีก็แต่ "สิงโตสยาม" ที่เริ่มจะบานให้ชมความงามกันบ้างแล้ว
          เมนูเลิศรสของพวกเราในเย็นวันนี้คือ แทม แถ่ม แท้มมมม คื๊อออ ปลาซาบะย่างและหมูสามชั้นย่าง ว้าววววว อร่อยดีงามมากเลยทุกคนเราอยากจะบอก สำหรับปลานั้น ลูกพี่ใหญ่ของเราก็คว้านท้องควักไส้ควักพุงออกจนหมดและหมักด้วยเกลืออย่างเดียว ส่วนหมูสามชั้นก็แวะซื้อตลาดนัดเช้าในอำเภอสวนผึ้งนี่แหละ เอาไปหมักกับเกลือก่อนจะเอาลงเป้แล้วเดินมาจนถึงที่นี่ ไม้ง่ามก็หาเอาแถว ๆ นี้ ส่วนไม้ไผ่นี่คือไม้เท้าที่ได้มาตั้งแต่ต้นทางก่อนจะเริ่มเดิน เอามาดัดแปลงเป็นไม้เสียบได้อย่างดีเลย

          กินข้าวกันไป พลางก็ชมนกชมไม้กันไป สังเกตองศาที่ค่อย ๆ คล้อยลงของดวงอาทิตย์ บวกกับได้เวลาอิ่มพอดี เป็นสัญญาณบอกกับพวกเราให้หันก้นพร้อมหยิบเก้าอี้แล้วไปนั่งชมความงามนี้ด้วยกัน
          อยากจะบอกว่าพระอาทิตย์ตกที่นี่สวยมาก ไม่เคยเห็น Sunset ที่ใกล้ขนาดนี้มาก่อนเลย อบอุ่นจริง ๆ
          เมื่อไม่มีไออุ่นจากดวงอาทิตย์ กองไฟน้อย ๆ ตรงนี้คือเพื่อนที่ดีมาก ๆ เลยนะ เรานอนแหงนหน้าดูดาวพูดกันไปบนผืนผ้าใบ สวยดีเนาะ
แผนการเดินทางคร่าว ๆ คือง่ายมาก
⚪ Day 1- 06/02/2021
05.00 น. ขับรถจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าราชบุรี ไปต่อสวนผึ้ง
08.00 น. ถึงสวนผึ้ง กินข้าวเช้าในตัวอำเภอ (บ้านบ่อ) เตรียมเสบียงสำหรับมื้อกลางวัน น้ำดื่ม และซื้อหมูสามชั้นสำหรับมือเย็น 1 ชิ้น (หรือถ้าใครอยากจะจัดเต็มสำหรับเสบียงก็สามารถซื้อได้จากตลาดนัด ซีเจ หรือเซเว่น ได้เลย)
09.00 น. ไปยังจุดนัดหมาย ตรวจสอบสัมภาระ และจัดเป้เตรียมความพร้อมอีกครั้งก่อนออกเดินทาง เมื่อพร้อมแล้วก็ขึ้นรถเลย
09.30 น. เริ่มเดิน
14.30 น. เดินถึงแคมป์
⚪ Day 2 - 07/02/2021
08.30 น. เริ่มเดินลง (กลับทางเดิม)
11.30 น. ถึงจุดหมาย
12.00 น. อาบน้ำ กินมื้อกลางวัน + คาเฟ่ดี ๆ
15.00 น. เดินทางกลับ
1. ค่าบริการรถรับ - ส่ง 1,000.-
2. ค่าคนนำทาง วันละ 600.- × 2 วัน
3. ค่าอาหารและน้ำดื่ม 200.-
รวม 1,800.- หาร 3 คน ตกคนละ 800.-
⚪ 1. สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวสามารถเดินทางแบบแบ็คแพ็คมาได้เหมือนกันนะแต่คือต้องเตรียมเสบียงมาให้เรียบร้อยเลย โดยนั่งรถตู้ กรุงเทพฯ - ราชบุรี จากหมอชิต (ชานชาลา D) เที่ยวแรก 05.00 น. หรือสายใต้ เที่ยวแรก 04.30 น. (โซนรถตู้) ***ช่วง Covid โทรไปถามเวลาอีกทีก็ดีนะ ลงตัวเมืองราชบุรี เลือกลงที่ บิ๊กซีราชบุรีเพราะจะมีวินมอเตอร์ไซค์ตลอด ต่อวินมอเตอร์ไซค์ประมาณ 5 นาที ไปท่ารถโป่งกระทิง (ท่ารถอยู่บริเวณตลาดริมน้ำ ไม่ไกลจากธนาคารออมสินสาขาราชบุรี) รถสายนี้จะผ่านจุดขึ้นรถโฟวิวพอดี บอกว่าลงตรงร้านกาแฟ อามันเต้ คอฟฟี่ (รถตู้กทม. 120 + วิน 30 + รถตู้โป่งกระทิง 70)
          ส่วนขากลับ ก็มีรถผ่าน เวลามันจะพอดี ถ้าเราเริ่มเดินลงไม่เกิน 8 โมง ถึงข้างล่างก็ประมาณไม่เกิน 11 โมง อาบน้ำ กินข้าว เตรียมตัวกลับ รถจะผ่านประมาณบ่ายโมงพอดี (ขามาขอเบอร์เขาไว้ก็ได้) ไปลงตัวเมืองราชบุรี ถ้าจะให้ง่ายก็นั่งไปสุดสาย ถึงตัวเมืองราชบุรีก็วินมอเตอร์ไซค์ บอกไปลงท่ารถตู้บิ๊กซี แล้วต่อรถได้เลย มีทั้ง หมอชิต สายใต้
⚪ 2. เบอร์โทร พี่ไก่ ให้บริการรถโฟวิว 092-9029618 ไม่เกิน 10 คน รับ - ส่ง 1,000 บาท ถ้าเกินกว่านี้ก็ติดต่อก่อนได้ในทีมมีรถหลายคัน
⚪ 3. มีทาก ไม่ชันมาก สัญญาณมือถือมีบางจุด สัญญาณอินเตอร์เน็ตนาน ๆ มีที ลมเพลมพัด
⚪ 4. ไม่ควรใช้ทิชชู่เปียกในการเข้าห้องน้ำ เพราะข้างบนเราพบว่าเกลื่อนหน้าผาเลย ถ้าเป็นทิชชู่แห้งฝนตกมันก็ย่อยสลายไป สำหรับถ่ายหนักก็อยากให้ใช้เสียมหรือมีด ขุดหลุมสักหน่อยก่อนปล่อย ปล่อยเสร็จก็กลบไว้ ไม่โยนกระดาษทิ้ง หรือยัดไว้ มีเยอะเกลื่อนไปหมดเลย อยากให้ช่วยกันให้ความสำคัญกันด้วยน้าาา พี่ใหญ่เราตื่นมาเก็บได้เป็นถุงใหญ่มากเลย เผาทำลายให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่วยกันคนอื่น ๆ จะได้มีความสุขเวลาไปเที่ยวต่อจากเราเนาะ

จอบอ.
รูปอื่น ๆ ไปส่องใน Instagram ได้เน้อ cha.char.charri