6 วิธี ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายธุรกิจของคุณ ด้วยเว็บไซต์
.
.
.
เดี๋ยวนี้การยิงโฆษณาบน Google หรือ Facebook อย่างเดียวเพื่อสร้างการรับรู้เพียงอย่างเดียว
อาจไม่ได้ทำให้ลูกค้าซื้อของจากเราเสมอไป เพราะบางทีเมื่อลูกค้าคลิกโฆษณาเข้าไปในเว็บไซต์แล้ว
ลูกค้าอาจดูสินค้าแล้วไม่สนใจ
หรือสนใจแต่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อในขั้นตอนต่อไป หรือรู้ว่าต้องทำอะไรต่อ
แต่ตอนกดซื้อของกลับไม่รู้ว่าลูกค้าอยู่ขั้นตอนไหนของการซื้อของ
จะเห็นได้ว่าสาเหตุเหล่านี้เป็นสาเหตุที่การยิงโฆษณานั้นไม่ได้ช่วยอะไรต่อธุรกิจของคุณยังไงล่ะ
เพราะเราไม่รู้หรอกว่าเว็บไซต์ของเราดีแค่ไหนจนกว่าจะให้ลูกค้าเข้ามาในเว็บไซต์และให้ข้อมูล ฉะนั้นแล้วการปรับแต่งเว็บไซต์ขายของ จึงสำคัญไม่แพ้การเอาแต่ลงทุนทำคอนเทนต์และทำโฆษณา ถ้าหากอยากทำรายได้ ก็ต้องโฟกัสไปที่ยอดขายและตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง
6 วิธีปรับแต่งเว็บไซต์ จะช่วยเพิ่มยอดขายได้
1.ทำ SEO เสิร์ชเอนจิน (Search Engines)
เริ่มต้นเลย เราต้องทำการ Research keywords ก่อนจะสร้างเว็บไซต์ เพราะว่าโดยทั่วไปแล้ว Keyword สำคัญ ๆ สั้น ๆ จะถูกเอาไปหมดแล้ว เราจึงต้องเข้าใจเรื่อง Long - Tail Keyword เพราะจะทำให้เรามีพื้นที่ในการแข่งขันมากกว่า และสร้างเว็บไซต์ Traffic ได้ดีกว่าการแข่งกับ Keyword ทั่วไป เมื่อลูกค้า Search หาบน Google อย่างน้อยต้องเจอเราเป็นอันดับต้น ๆ
2.ใส่บล็อก เวลาสร้างเว็บไซต์ และโพสต์อย่างสม่ำเสมอ
เว็บส่วนใหญ่จะมีบล็อกอยู่แล้ว แต่คนทำธุรกิจส่วนใหญ่ มักจะมีข้ออ้างที่จะไม่เขียนลงบล็อกเช่นว่า ไม่รู้จะเขียนอะไร / ไม่มีเวลาเขียน / ไม่รู้จะเขียนทำไม ต่าง ๆ นานา คอนเทนต์คือทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งคอนเทนต์ ดี ยิ่งใช้เงินโฆษณาน้อย
บล็อกที่อัพเดทอย่างสม่ำเสมอ (และมี คอนเทนต์ ที่ดี) จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในบล็อก โพสต์แต่ละอันบนเว็บไซต์ ควรจะให้ข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ อธิบายถึงวิธีใช้ หรือวิธีแก้ปัญหาที่ลูกค้าเจอ ให้เน้นไปที่ตัวผลลัพธ์ที่ลูกค้าจะได้รับ การทำแบบนี้จะทำให้ลูกค้าจำเราได้ และนึกถึงเราเวลาที่เค้ามีความต้องการจะซื้อ
3. ทำเว็บไซต์ตามอุปกรณ์ที่ลูกค้าเข้าเว็บไซต์
เพราะเดี๋ยวนี้คนเข้าเว็บไซต์จากสมาร์ทโฟนมีมากขึ้น ฉะนั้นก็ต้องทำเว็บไซต์ ให้เหมาะกับหน้าจอของสมาร์ทโฟน รวมไปถึงการกดปุ่มต่างบนเว็บไซต์ในมือถือด้วย
4. ปุ่มในหน้า Checkout ยังเป็นปุ่ม Continue อยู่หรือเปล่า
เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ลูกค้าก็จะไม่รู้เลยว่าตัวเองจะต้องกดสั่งซื้อของอีกกี่ขั้นตอนถึงจะจบ ฉะนั้นในเพจที่ลูกค้ากดเลือกของเสร็จ ควรเขียนคำว่า Review Order จะดีที่สุด เพื่อที่ลูกค้าจะได้รู้ว่าต่อไปได้เวลาจ่ายเงินแล้ว ทำให้ชัดเจนที่สุด เพื่อความสะดวกต่อลูกค้านั่นเอง
5. รู้ใจคนเสิร์ช ถึงจะพิมพ์ คีย์เวิร์ด ผิด
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องอาศัยคนเขียนโค้ดเก่ง ๆ แต่แค่นี้ไม่พอ เพราะเราต้องทำ Market Research เพื่อให้เข้าใจลูกค้ามากขึ้นว่าจริง ๆ แล้วลูกค้าต้องการอะไร จากคีย์เวิร์ดที่พิมพ์ผิด
6.พฤติกรรมการใช้เว็บไซต์บอก Insight ได้
พฤติกรรมการเข้าใช้งานเว็บของลูกค้ามันเป็น Insight ที่คุณไม่ควรมองข้าม ยิ่งคุณเข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้าแบบ Real time ด้วยการตามดูว่าพวกเขาอยู่ในแต่ละหน้าเว็บนานเท่าไร จากนั้นพวกเขาไปไหนต่อหรือมีการคลิกดูหรือสนใจอะไรเป็นพิเศษในเว็บของคุณหรือไม่
เช่น ถ้าคุณรู้ว่าลูกค้ากำลังอยู่หน้าเปรียบเทียบราคาแต่ไม่ยอมตัดสินใจซื้อสักที คุณอาจจะปล่อยคูปองส่วนลดหรือข้อเสนอบางอย่างออกไปเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของพวกเขามากขึ้น
ยิ่งคุณสามารถวิเคราะห์ลูกค้าได้ดีเท่าไร คุณก็จะสามารถวางแผนการตลาดของคุณได้ง่ายขึ้นสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มหรือในลูกค้าแต่ละคน รวมไปถึงการจัดการงบประมาณในการใช้จ่ายแต่ละส่วนว่าจะใช้มากน้อยแค่ไหนได้ง่ายขึ้นด้วย
ส่วนเทคนิคเล็กๆน้อยในการโฆษณาให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มทางเลือกในการจ่ายเงิน นำเสนอสินค้าในมุมที่แต่ต่างจากเดิมที่มีแค่รูปภาพ ก็ลองเป็นวีดีโอดูบ้าง มีเบอร์โทรศัพท์ทิ้งไว้ในโฆษณาให้สอบถาม เขียนนโยบายการคืนสินค้า และที่สำคัญ ลองคิดดูว่าจริง ๆ แล้วคุณค่าของสินค้าที่เราขายคืออะไรกันแน่ แค่นี้ก็พอที่จะทำให้เว็บไซต์ออนไลน์ของคุณขายของได้เยอะขึ้นแล้วนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ? สำหรับใครที่คิดว่า การปรับแต่งเว็บไซต์ เหมาะที่สุดกับการเพิ่มยอดขาย ตอนนี้คุณพอจะมีไอเดียในการจะไปต่อได้แล้วรึยัง ? ซึ่งคุณสามารถแชร์ไอเดียได้นะครับหรือพูดคุยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีหรือขั้นตอนการปรับเว็บไซต์ หรือกับอะไรก็ตามแต่.... คุณสามารถคอมเมนต์มาด้านล่างนี้ได้เลย ผมยินดีรับฟังครับ
วรัทภพ รชตนามวงษ์
6 วิธี ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายธุรกิจของคุณ ด้วยเว็บไซต์
1.ทำ SEO เสิร์ชเอนจิน (Search Engines)
เริ่มต้นเลย เราต้องทำการ Research keywords ก่อนจะสร้างเว็บไซต์ เพราะว่าโดยทั่วไปแล้ว Keyword สำคัญ ๆ สั้น ๆ จะถูกเอาไปหมดแล้ว เราจึงต้องเข้าใจเรื่อง Long - Tail Keyword เพราะจะทำให้เรามีพื้นที่ในการแข่งขันมากกว่า และสร้างเว็บไซต์ Traffic ได้ดีกว่าการแข่งกับ Keyword ทั่วไป เมื่อลูกค้า Search หาบน Google อย่างน้อยต้องเจอเราเป็นอันดับต้น ๆ
2.ใส่บล็อก เวลาสร้างเว็บไซต์ และโพสต์อย่างสม่ำเสมอ
เว็บส่วนใหญ่จะมีบล็อกอยู่แล้ว แต่คนทำธุรกิจส่วนใหญ่ มักจะมีข้ออ้างที่จะไม่เขียนลงบล็อกเช่นว่า ไม่รู้จะเขียนอะไร / ไม่มีเวลาเขียน / ไม่รู้จะเขียนทำไม ต่าง ๆ นานา คอนเทนต์คือทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งคอนเทนต์ ดี ยิ่งใช้เงินโฆษณาน้อย
บล็อกที่อัพเดทอย่างสม่ำเสมอ (และมี คอนเทนต์ ที่ดี) จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในบล็อก โพสต์แต่ละอันบนเว็บไซต์ ควรจะให้ข้อมูลที่ลูกค้าต้องการ อธิบายถึงวิธีใช้ หรือวิธีแก้ปัญหาที่ลูกค้าเจอ ให้เน้นไปที่ตัวผลลัพธ์ที่ลูกค้าจะได้รับ การทำแบบนี้จะทำให้ลูกค้าจำเราได้ และนึกถึงเราเวลาที่เค้ามีความต้องการจะซื้อ
3. ทำเว็บไซต์ตามอุปกรณ์ที่ลูกค้าเข้าเว็บไซต์
เพราะเดี๋ยวนี้คนเข้าเว็บไซต์จากสมาร์ทโฟนมีมากขึ้น ฉะนั้นก็ต้องทำเว็บไซต์ ให้เหมาะกับหน้าจอของสมาร์ทโฟน รวมไปถึงการกดปุ่มต่างบนเว็บไซต์ในมือถือด้วย
4. ปุ่มในหน้า Checkout ยังเป็นปุ่ม Continue อยู่หรือเปล่า
เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ลูกค้าก็จะไม่รู้เลยว่าตัวเองจะต้องกดสั่งซื้อของอีกกี่ขั้นตอนถึงจะจบ ฉะนั้นในเพจที่ลูกค้ากดเลือกของเสร็จ ควรเขียนคำว่า Review Order จะดีที่สุด เพื่อที่ลูกค้าจะได้รู้ว่าต่อไปได้เวลาจ่ายเงินแล้ว ทำให้ชัดเจนที่สุด เพื่อความสะดวกต่อลูกค้านั่นเอง
5. รู้ใจคนเสิร์ช ถึงจะพิมพ์ คีย์เวิร์ด ผิด
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องอาศัยคนเขียนโค้ดเก่ง ๆ แต่แค่นี้ไม่พอ เพราะเราต้องทำ Market Research เพื่อให้เข้าใจลูกค้ามากขึ้นว่าจริง ๆ แล้วลูกค้าต้องการอะไร จากคีย์เวิร์ดที่พิมพ์ผิด
6.พฤติกรรมการใช้เว็บไซต์บอก Insight ได้
พฤติกรรมการเข้าใช้งานเว็บของลูกค้ามันเป็น Insight ที่คุณไม่ควรมองข้าม ยิ่งคุณเข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้าแบบ Real time ด้วยการตามดูว่าพวกเขาอยู่ในแต่ละหน้าเว็บนานเท่าไร จากนั้นพวกเขาไปไหนต่อหรือมีการคลิกดูหรือสนใจอะไรเป็นพิเศษในเว็บของคุณหรือไม่
เช่น ถ้าคุณรู้ว่าลูกค้ากำลังอยู่หน้าเปรียบเทียบราคาแต่ไม่ยอมตัดสินใจซื้อสักที คุณอาจจะปล่อยคูปองส่วนลดหรือข้อเสนอบางอย่างออกไปเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของพวกเขามากขึ้น
ยิ่งคุณสามารถวิเคราะห์ลูกค้าได้ดีเท่าไร คุณก็จะสามารถวางแผนการตลาดของคุณได้ง่ายขึ้นสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มหรือในลูกค้าแต่ละคน รวมไปถึงการจัดการงบประมาณในการใช้จ่ายแต่ละส่วนว่าจะใช้มากน้อยแค่ไหนได้ง่ายขึ้นด้วย
ส่วนเทคนิคเล็กๆน้อยในการโฆษณาให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มทางเลือกในการจ่ายเงิน นำเสนอสินค้าในมุมที่แต่ต่างจากเดิมที่มีแค่รูปภาพ ก็ลองเป็นวีดีโอดูบ้าง มีเบอร์โทรศัพท์ทิ้งไว้ในโฆษณาให้สอบถาม เขียนนโยบายการคืนสินค้า และที่สำคัญ ลองคิดดูว่าจริง ๆ แล้วคุณค่าของสินค้าที่เราขายคืออะไรกันแน่ แค่นี้ก็พอที่จะทำให้เว็บไซต์ออนไลน์ของคุณขายของได้เยอะขึ้นแล้วนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ? สำหรับใครที่คิดว่า การปรับแต่งเว็บไซต์ เหมาะที่สุดกับการเพิ่มยอดขาย ตอนนี้คุณพอจะมีไอเดียในการจะไปต่อได้แล้วรึยัง ? ซึ่งคุณสามารถแชร์ไอเดียได้นะครับหรือพูดคุยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีหรือขั้นตอนการปรับเว็บไซต์ หรือกับอะไรก็ตามแต่.... คุณสามารถคอมเมนต์มาด้านล่างนี้ได้เลย ผมยินดีรับฟังครับ
วรัทภพ รชตนามวงษ์