บทสวดมนต์แต่งใหม่ เช่น ชินบัญชร ดีจริงเหรอ?
เราอคติ มองแค่นี้ ไม่ยอมมองให้กว้าง เราไม่ยอมมองเจตนาที่แฝงอยู่ตรงนั้นคืออะไร เขาต้องการอะไร มีข้างในเพิ่มเติม
พระพุทธเจ้ายังอนุญาตไว้ก่อนว่า สามารถปรับให้เข้ากับสังคมได้ เพราะแต่ละกาลสมัยไม่เหมือนกัน แต่ละสังคมวัฒนธรรม ไม่เหมือนกัน ถ้าเราไม่มีอย่างนี้เราก็ไปไม่รอด
ฉะนั้น เราอย่าใจแคบ!!!
ถ้าถามว่า บทสวดมนต์ที่เราสวดนี้ เป็นบทสวดมนต์ของใครแต่ง? เป็นของพระพุทธเจ้าไหม?
ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า แต่เป็นบทสวดของพระสาวกสรรเสริญพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเกิดมาไม่มีมนต์ที่เป็นของพระพุทธเจ้าแต่งขึ้นเอง พระพุทธเจ้าไม่เคยมีมนต์ แต่พระพุทธเจ้าชี้แนะให้เขาตรงนี้ต้องทำอย่างนี้ เป็นบทที่ชี้แนะสั่งสอน เป็นบทคำสั่งสอนอันนี้มี นอกนั้นเป็นการสรรเสริญท่าน เหมือนกับว่าเรารักในหลวง แล้วเราก็สรรเสริญในหลวงว่าท่านดียังไงๆ
บทสวดมนต์ทั้งหลายเป็นบทแห่งการสรรเสริญทั้งนั้น ว่าท่านมีพระคุณยังไง? เห็นไหมว่าไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า แต่เป็นของสาวก หรือลูกศิษย์แต่งขึ้นเพื่อสรรเสริญพระพุทธเจ้า พระเกียรติคุณของพระพุทธเจ้า เพื่อถวายความภักดีต่อพระพุทธเจ้า ดำรงความดีของพระพุทธเจ้า
เช่นเดียวกันก็เหมือนกับในหลวง เราสรรเสริญพระเกียรติของในหลวง ถวายความจงรักภักดีต่อในหลวง เพื่อดำรงความดีของในหลวงไว้
ถ้าเราไม่สรรเสริญพระพุทธเจ้า แล้วใครจะมารู้จักความดีของพระพุทธเจ้าล่ะ? เราจะบอกว่าทุกคนตรัสรู้มาเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าเหรอ ไม่มีใครบอกก็เข้าใจได้เองเหรอ? เป็นไปไม่ได้
นี่แหละ ถ้าเราเป็นบัวเหล่าที่ ๔ แต่เราต้องคิดถึงบัวเหล่าที่ ๑ บ้าง
ทำไมมีอะไรก็ไม่ให้เขาเลย แล้วภูมิเขาจะมาเท่ากับเราได้ยังไง? ก็ไม่มี
ก็เหมือนกับราวบันได ถ้าเรากระโดนได้แล้ว ไม่ให้สร้างราวบันได แล้วก็บอกว่าขึ้นมาสิๆ แล้วเขาจะขึ้นมาได้ยังไง
ถ้าเรามีความจริงใจ เราจะต้องรู้จักสร้างราวบันไดให้เขาเดินขึ้นมาได้
ฉะนั้น เราใจแคบไปไหม? ไม่คิดถึงภูมิคนอื่น ไม่คิดถึงคนอื่น แล้งน้ำใจไปไหม?
บทสวดมนต์แต่งใหม่ เช่น ชินบัญชร ดีจริงเหรอ?
เราอคติ มองแค่นี้ ไม่ยอมมองให้กว้าง เราไม่ยอมมองเจตนาที่แฝงอยู่ตรงนั้นคืออะไร เขาต้องการอะไร มีข้างในเพิ่มเติม
พระพุทธเจ้ายังอนุญาตไว้ก่อนว่า สามารถปรับให้เข้ากับสังคมได้ เพราะแต่ละกาลสมัยไม่เหมือนกัน แต่ละสังคมวัฒนธรรม ไม่เหมือนกัน ถ้าเราไม่มีอย่างนี้เราก็ไปไม่รอด
ฉะนั้น เราอย่าใจแคบ!!!
ถ้าถามว่า บทสวดมนต์ที่เราสวดนี้ เป็นบทสวดมนต์ของใครแต่ง? เป็นของพระพุทธเจ้าไหม?
ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า แต่เป็นบทสวดของพระสาวกสรรเสริญพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเกิดมาไม่มีมนต์ที่เป็นของพระพุทธเจ้าแต่งขึ้นเอง พระพุทธเจ้าไม่เคยมีมนต์ แต่พระพุทธเจ้าชี้แนะให้เขาตรงนี้ต้องทำอย่างนี้ เป็นบทที่ชี้แนะสั่งสอน เป็นบทคำสั่งสอนอันนี้มี นอกนั้นเป็นการสรรเสริญท่าน เหมือนกับว่าเรารักในหลวง แล้วเราก็สรรเสริญในหลวงว่าท่านดียังไงๆ
บทสวดมนต์ทั้งหลายเป็นบทแห่งการสรรเสริญทั้งนั้น ว่าท่านมีพระคุณยังไง? เห็นไหมว่าไม่ใช่ของพระพุทธเจ้า แต่เป็นของสาวก หรือลูกศิษย์แต่งขึ้นเพื่อสรรเสริญพระพุทธเจ้า พระเกียรติคุณของพระพุทธเจ้า เพื่อถวายความภักดีต่อพระพุทธเจ้า ดำรงความดีของพระพุทธเจ้า
เช่นเดียวกันก็เหมือนกับในหลวง เราสรรเสริญพระเกียรติของในหลวง ถวายความจงรักภักดีต่อในหลวง เพื่อดำรงความดีของในหลวงไว้
ถ้าเราไม่สรรเสริญพระพุทธเจ้า แล้วใครจะมารู้จักความดีของพระพุทธเจ้าล่ะ? เราจะบอกว่าทุกคนตรัสรู้มาเช่นเดียวกับพระพุทธเจ้าเหรอ ไม่มีใครบอกก็เข้าใจได้เองเหรอ? เป็นไปไม่ได้
นี่แหละ ถ้าเราเป็นบัวเหล่าที่ ๔ แต่เราต้องคิดถึงบัวเหล่าที่ ๑ บ้าง
ทำไมมีอะไรก็ไม่ให้เขาเลย แล้วภูมิเขาจะมาเท่ากับเราได้ยังไง? ก็ไม่มี
ก็เหมือนกับราวบันได ถ้าเรากระโดนได้แล้ว ไม่ให้สร้างราวบันได แล้วก็บอกว่าขึ้นมาสิๆ แล้วเขาจะขึ้นมาได้ยังไง
ถ้าเรามีความจริงใจ เราจะต้องรู้จักสร้างราวบันไดให้เขาเดินขึ้นมาได้
ฉะนั้น เราใจแคบไปไหม? ไม่คิดถึงภูมิคนอื่น ไม่คิดถึงคนอื่น แล้งน้ำใจไปไหม?