ทำธุรกิจ สู้ได้ แต่ อย่าดันทุรัง จะดีกว่าไหม??
.
.
👉การทำธุรกิจหรือว่าการหาเงิน คุณต้องเป็นนักสู้ที่สามารถปรับตัวได้
วันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องที่ว่า ➖🔸️ สู้ได้แต่อย่าดันทุรังครับ 🔸️➖
.
การที่คุณจะทำธุรกิจนะครับ แน่นอนว่ามักจะเจอปัญหา🙁 อะไรมากมาย
การที่คุณมีหัวใจนักสู้ อยู่แล้วเนี่ย 🥊 มันเป็นพื้นฐานของความสำเร็จครับ ✅
⭕เมื่อคุณเจอปัญหาอะไรแล้วไม่ยอมแพ้ ถึงแม้จะล้มบ้างเจ็บบ้าง
คุณก็ยังสามารถเดินต่อไปได้เรื่อยๆแต่ว่า ...........
ถ้าคุณดันทุรังไม่ยอมปรับตัว เช่นตอนนี้เทรนมันต้องไปทางนี้ ▶️ แต่คุณบอกว่าไม่ใช่ ฉันจะต้องไปอีกทาง ◀️
แล้วคุณก็สู้เพื่อจะไปในทางของคุณ การ "ดังทุรัง" นี้ล่ะครับ.....คุณจะล้มเหลว แบบนี้ไม่ทำให้คุณสำเร็จได้🚫
🔸️ทีนี้ผมจะยกตัวอย่างธุรกิจหนึ่งเป็นธุรกิจจีน คุณรู้จัก taobaoไหมครับ
taobao ก็คือบริษัทของกลุ่ม Alibaba ของแจ็คหม่านั่นเอง ซึ่งก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของ Lazada
ที่เป็นแอปพลิเคชั่นขายของในประเทศไทย 🇹🇭 ก็ไม่มีใครที่คิดว่าจะชนะ หรือว่าจะไปสู้
taobao เพื่อไปชิงส่วนแบ่งการตลาดมาได้
ปกติที่ประเทศจีน 🇨🇳 ก็จะมี กลุ่มtaobao แล้วก็มี jd.com
แต่ก็มีบริษัทบริษัทหนึ่ง ที่เขารู้ว่าจะสู้ยังไงให้ได้ส่วนแบ่งการตลาด
ของ marketplace หรือว่าห้างออนไลน์ 🌐
👉นั่นก็คือบริษัท Pinduoduo ครับ แต่เขาไม่ได้สู้แบบดันทุรังนะครับ ......
เขาสู้แบบปรับตัวโดย ศึกษาจากพฤติกรรม 🤔 ของผู้บริโภค
Pinduoduo ออกตัวแอปพลิเคชั่น เป็นรูปแบบ marketplace อย่างหนึ่ง
แต่ว่าเป็นการซื้อของแบบแชร์กันซื้อ โดยเวลาปกติที่คุณจะซื้อของ คุณก็ซื้อคนเดียว
แต่ของ Pinduoduoเวลาที่คุณจะซื้อ คุณจะต้องไปแชร์ให้คนอื่น .........😲
⭕ถ้าสมมุติว่าร้านค้าตั้งว่าซื้อ 10 คน ได้ราคา 5 บาท แล้วมันก็จะเข้าไปในลิงก์เดียวกัน
คุณก็จะได้ในราคา 5 บาท คือคุณซื้อแค่ชิ้นเดียวแต่คุณได้ราคาส่ง ซึ่งมันก็ถูกกว่า taobao ..........✅✅
ซึ่ง taobao ขายปลีก Alibaba ขายส่ง แต่เขาก็บังคับจำนวนของคุณอีก ให้คุณซื้อเยอะๆ
👉ดังนั้นPinduoduo จึงเข้ามาแก้ปัญหาระหว่าง taobao กับ Alibaba
คุณจะได้ ซื้อสินค้า 1 ชิ้นในราคาส่ง แต่ก็มีข้อบังคับคือให้คุณแชร์ครับ💬
ก็เหมือนเป็นการทำการตลาดไปในตัว ทำมาได้ 3 ปีมูลค่าบริษัท 2 แสนล้าน
นี่แหละครับมันคือการสู้แบบมีชั้นเชิง การสู้แบบปรับตัว แล้วก็ดูตลาดด้วย👈
อย่างตอนนี้กระแสออนไลน์มาแรง แต่ถ้าคุณขยายธุรกิจแบบออฟไลน์
คุณจะเป็นประเภท ดันทุรัง นะครับ ผมขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า ถ้าคุณฝืนทำไป
ไม่นานจะเกิดปัญหาแน่นอนครับ เพราะยังไงตอนนี้ ออนไลน์ก็ยังเป็นขาขึ้น 📈
ออฟไลน์เป็นขาลง 📉 เวลาที่คุณจะสู้ ก็สู้อะไรที่เป็นขาขึ้น และ อย่าหลอกตัวเอง
เพราะมันจะกลายเป็นดันทุรังครับ ..‼️
แล้วคุณเลือกสู้แบบไหน คอมเมนต์ด้านล่างมาได้เลยครับ
==============================
วรัทภพ รชตนามวงษ์
ทำธุรกิจ สู้ได้ แต่ อย่าดันทุรัง จะดีกว่าไหม??
วันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องที่ว่า ➖🔸️ สู้ได้แต่อย่าดันทุรังครับ 🔸️➖
การที่คุณมีหัวใจนักสู้ อยู่แล้วเนี่ย 🥊 มันเป็นพื้นฐานของความสำเร็จครับ ✅
⭕เมื่อคุณเจอปัญหาอะไรแล้วไม่ยอมแพ้ ถึงแม้จะล้มบ้างเจ็บบ้าง
คุณก็ยังสามารถเดินต่อไปได้เรื่อยๆแต่ว่า ...........
ถ้าคุณดันทุรังไม่ยอมปรับตัว เช่นตอนนี้เทรนมันต้องไปทางนี้ ▶️ แต่คุณบอกว่าไม่ใช่ ฉันจะต้องไปอีกทาง ◀️
แล้วคุณก็สู้เพื่อจะไปในทางของคุณ การ "ดังทุรัง" นี้ล่ะครับ.....คุณจะล้มเหลว แบบนี้ไม่ทำให้คุณสำเร็จได้🚫
🔸️ทีนี้ผมจะยกตัวอย่างธุรกิจหนึ่งเป็นธุรกิจจีน คุณรู้จัก taobaoไหมครับ
taobao ก็คือบริษัทของกลุ่ม Alibaba ของแจ็คหม่านั่นเอง ซึ่งก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ของ Lazada
ที่เป็นแอปพลิเคชั่นขายของในประเทศไทย 🇹🇭 ก็ไม่มีใครที่คิดว่าจะชนะ หรือว่าจะไปสู้
taobao เพื่อไปชิงส่วนแบ่งการตลาดมาได้
ปกติที่ประเทศจีน 🇨🇳 ก็จะมี กลุ่มtaobao แล้วก็มี jd.com
แต่ก็มีบริษัทบริษัทหนึ่ง ที่เขารู้ว่าจะสู้ยังไงให้ได้ส่วนแบ่งการตลาด
ของ marketplace หรือว่าห้างออนไลน์ 🌐
👉นั่นก็คือบริษัท Pinduoduo ครับ แต่เขาไม่ได้สู้แบบดันทุรังนะครับ ......
เขาสู้แบบปรับตัวโดย ศึกษาจากพฤติกรรม 🤔 ของผู้บริโภค
Pinduoduo ออกตัวแอปพลิเคชั่น เป็นรูปแบบ marketplace อย่างหนึ่ง
แต่ว่าเป็นการซื้อของแบบแชร์กันซื้อ โดยเวลาปกติที่คุณจะซื้อของ คุณก็ซื้อคนเดียว
แต่ของ Pinduoduoเวลาที่คุณจะซื้อ คุณจะต้องไปแชร์ให้คนอื่น .........😲
⭕ถ้าสมมุติว่าร้านค้าตั้งว่าซื้อ 10 คน ได้ราคา 5 บาท แล้วมันก็จะเข้าไปในลิงก์เดียวกัน
คุณก็จะได้ในราคา 5 บาท คือคุณซื้อแค่ชิ้นเดียวแต่คุณได้ราคาส่ง ซึ่งมันก็ถูกกว่า taobao ..........✅✅
ซึ่ง taobao ขายปลีก Alibaba ขายส่ง แต่เขาก็บังคับจำนวนของคุณอีก ให้คุณซื้อเยอะๆ
👉ดังนั้นPinduoduo จึงเข้ามาแก้ปัญหาระหว่าง taobao กับ Alibaba
คุณจะได้ ซื้อสินค้า 1 ชิ้นในราคาส่ง แต่ก็มีข้อบังคับคือให้คุณแชร์ครับ💬
ก็เหมือนเป็นการทำการตลาดไปในตัว ทำมาได้ 3 ปีมูลค่าบริษัท 2 แสนล้าน
นี่แหละครับมันคือการสู้แบบมีชั้นเชิง การสู้แบบปรับตัว แล้วก็ดูตลาดด้วย👈
อย่างตอนนี้กระแสออนไลน์มาแรง แต่ถ้าคุณขยายธุรกิจแบบออฟไลน์
คุณจะเป็นประเภท ดันทุรัง นะครับ ผมขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า ถ้าคุณฝืนทำไป
ไม่นานจะเกิดปัญหาแน่นอนครับ เพราะยังไงตอนนี้ ออนไลน์ก็ยังเป็นขาขึ้น 📈
ออฟไลน์เป็นขาลง 📉 เวลาที่คุณจะสู้ ก็สู้อะไรที่เป็นขาขึ้น และ อย่าหลอกตัวเอง
เพราะมันจะกลายเป็นดันทุรังครับ ..‼️
แล้วคุณเลือกสู้แบบไหน คอมเมนต์ด้านล่างมาได้เลยครับ
==============================
วรัทภพ รชตนามวงษ์