6 เคล็ดลับเพื่อผิวปัง รับวาเลนไทน์
อีกหนึ่งเทศกาลที่หนุ่มๆ สาวๆ ทั่วโลกตั้งตารอมากที่สุดในเดือนนี้คงหนีไม่พ้น 14 กุมภาฯ วันวาเลนไทน์ 🌹🌹🌹 ซึ่งสำหรับคนมีคู่วันนี้ก็อาจจะมีความพิเศษขึ้นมานิดนึง ส่วนคนโสดก็อาจจะเหงาๆ หรือไม่ก็ขวางหูขวางตานิดหน่อย หรือที่ศัพท์วัยรุ่นเค้าเรียกกันว่าอาการเหม็นความรัก 😊
ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าวันวาเลนไทน์นั้น มีที่มาจากการที่เซนต์วาเลนไทน์ ถูกตัดสินประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 เนื่องจากแอบจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักคริสเตียนคู่หนึ่ง เพราะในยุคนั้นมีกฎหมายห้ามไม่ให้มีการแต่งงานกัน ต่อมาภายหลัง นักบวชในนิกายโรมันคาทอลิกจึงได้กำหนดให้วันนี้เป็นวันแห่งความรัก เพื่อเป็นการแสดงความระลึกถึงเซนต์วาเลนไทน์ ซึ่งเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในทวีปยุโรป
และอย่างที่พี่หมอบอกไปว่า สำหรับคนมีคู่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะให้ความสำคัญกับวันนี้ โดยเฉพาะสาวๆ ที่นอกจากจะถือคติประจำใจว่า “เป็นผู้หญิง ต้องอย่าหยุดสวย” แล้ว ยิ่งพอถึงวันพิเศษแบบนี้ก็ยิ่งอยากให้ตัวเองดูสวยกว่าปกติเป็นธรรมดา ซึ่งอีกหนึ่งอาวุธลับที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับหนุ่มๆ ได้ก็คือ ผิวสวยกระจ่างใส แลดูสุขภาพดี แต่จะต้องทำอย่างไรเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น พี่หมอไปรวบรวมเคล็ดลับเพื่อผิวหน้าปังมาฝากสาวๆ แล้วครับ
🌹 เคล็ดลับที่ 1 : เริ่มต้นที่การล้างหน้า
ขั้นตอนแรกที่ควรทำเพื่อผิวหน้าสว่างกระจ่างใสก็คือ การทำความสะอาด เพราะถ้าปล่อยให้มีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่บนใบหน้าก็อาจจะทำให้เกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบตามมาได้ ส่วนผลิตภัณฑ์ล้างหน้าก็ควรเลือกแบบที่อ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง และปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น น้ำหอม เป็นต้น
🌹 เคล็ดลับที่ 2 : ขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพด้วยสครับหรือกรดผลไม้
ความถี่ที่เหมาะสมในการใช้สครับคือ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไปและกระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา โดยควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว เช่น ครีมที่มีเม็ดสครับไม่ใหญ่จนเกินไป เพื่อไม่ให้ผิวเป็นรอยขีดข่วน หรือบางคนอาจจะใช้ครีมผสมกรดผลไม้ (AHA) ที่มีความเข้มข้นต่ำ ทาก่อนนอน 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ แทนการใช้สครับก็ได้เช่นกัน
🌹 เคล็ดลับที่ 3 : ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง
สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่อยากมีผิวกระจ่างใสก็คือ การเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารเหล่านี้ (โดยสามารถสังเกตได้จากฉลากข้างผลิตภัณฑ์) เช่น สารในกลุ่มวิตามินซี ได้แก่ Ethyl Ascorbic Acid, Ascorbyl Tetraisopalmitate, Ascorbyl Glucoside วิตามินบีสาม หรือไนอะซินาไมด์ และสารอื่นๆ เช่น อาร์บูติน, โคจิก แอซิด, ไธอามิดอล, Undecylenoyl Phenylalanine, แอล-กลูตาไธโอน, รีซอร์ซินอล, Deoxyarbutin, Licorice Extract, Resveratrol, Tranexamic Acid ซึ่งนอกจากการดูส่วนผสมแล้ว ความสม่ำเสมอในการทาครีมบำรุงผิวก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะถ้าซื้อครีมมาแล้วตั้งเอาไว้เฉยๆ หรือใช้บ้างไม่ใช้บ้าง ผิวของสาวๆ ก็คงไม่มีทางสวยใสขึ้นมาได้
🌹 เคล็ดลับที่ 4 : ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
สาวๆ ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีค่า PA+++ เพื่อรับมือกับอานุภาพของแสงแดดและสภาพอากาศที่ร้อนระอุของบ้านเรา ที่สำคัญ ต้องทาเป็นประจำทุกวันทั้งใบหน้า ลำคอและตามตัวด้วยนะครับ เพื่อปกป้องผิวจากแสงUV ทั้ง UVA และ UVB ☀️ ดังนั้น ถึงแม้จะไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน ก็ควรทาครีมกันแดดทุกวัน เพื่อสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาว
🌹 เคล็ดลับที่ 5 : ไลฟ์สไตล์ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
เริ่มต้นด้วยการดื่มน้ำเปล่าทุกวัน วันละ 6-8 แก้ว รับประทานผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ หรืออย่างน้อยพยายามรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในทุกๆ มื้อ เข้านอนแต่หัวค่ำ (ดึกสุดไม่ควรเกินเที่ยงคืน) และออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายของสาวๆ มีความสมดุล และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 💪 ซึ่งจะส่งผลถึงการซ่อมแซมและบำรุงผิวพรรณด้วยนะครับ
🌹 เคล็ดลับที่ 6 : ให้รางวัลตัวเองด้วยโปรแกรมปรนนิบัติผิว
อีกหนึ่งตัวช่วยของสาวๆ ในยุคปัจจุบันที่อยากมีผิวสวยแต่ไม่ค่อยมีเวลาก็คือ การทำเลเซอร์ ซึ่งก็มีให้เลือกมากมายหลายชนิด และยังสามารถทำควบคู่ไปกับขั้นตอนการบำรุงผิวตามที่พี่หมอแนะนำมาได้อีกด้วย พี่หมอขอยกตัวอย่างแค่ 3 ตัวนะครับ ได้แก่
· Harmony Acne Pro เป็นเลเซอร์ชนิดใหม่ที่มีคุณสมบัติในการรักษาสิวอักเสบ หลุมสิว รูขุมขนกว้าง และลดการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้หน้าใสไร้สิว
· Picosecond Laser เลเซอร์รักษาความผิดปกติของเม็ดสี กระ ฝ้า จุดด่างดำ ลบรอยสัก ปรับสีผิวให้กระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อให้ผิวเรียบเนียน ดูสุขภาพดี
· IDEAL Radiant หรือเลเซอร์ Elos Plus ที่นำพลังงานคลื่นวิทยุและพลังงานแสงมาใช้ในการแก้ไขความผิดปกติของเม็ดสีต่างๆ เช่น กระ รอยแดงรอยดำที่เกิดจากสิว เส้นเลือดฝอยผิดปกติ พร้อมกระชับผิวและรูขุมขน
เห็นมั้ยล่ะครับว่าการมีผิวสวย กระจ่างใสนั้น ทำได้ไม่ยากเลย และก็ไม่จำเป็นต้องซื้อครีมแพงๆ มาใช้ด้วย แค่สาวๆ มีวินัยในการดูแลผิว รู้จักเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง รวมถึงดูแลตัวเองให้ดีทั้งภายในและภายนอก เพียงเท่านี้ ผิวเป๊ะ หน้าปัง ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน 💘 💘 💘
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โปรแกรมหน้าใส ก่อนวาเลนไทน์และตรุษจีน
6 เคล็ดลับเพื่อผิวปัง รับวาเลนไทน์
อีกหนึ่งเทศกาลที่หนุ่มๆ สาวๆ ทั่วโลกตั้งตารอมากที่สุดในเดือนนี้คงหนีไม่พ้น 14 กุมภาฯ วันวาเลนไทน์ 🌹🌹🌹 ซึ่งสำหรับคนมีคู่วันนี้ก็อาจจะมีความพิเศษขึ้นมานิดนึง ส่วนคนโสดก็อาจจะเหงาๆ หรือไม่ก็ขวางหูขวางตานิดหน่อย หรือที่ศัพท์วัยรุ่นเค้าเรียกกันว่าอาการเหม็นความรัก 😊
ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าวันวาเลนไทน์นั้น มีที่มาจากการที่เซนต์วาเลนไทน์ ถูกตัดสินประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 เนื่องจากแอบจัดงานแต่งงานให้กับคู่รักคริสเตียนคู่หนึ่ง เพราะในยุคนั้นมีกฎหมายห้ามไม่ให้มีการแต่งงานกัน ต่อมาภายหลัง นักบวชในนิกายโรมันคาทอลิกจึงได้กำหนดให้วันนี้เป็นวันแห่งความรัก เพื่อเป็นการแสดงความระลึกถึงเซนต์วาเลนไทน์ ซึ่งเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในทวีปยุโรป
และอย่างที่พี่หมอบอกไปว่า สำหรับคนมีคู่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะให้ความสำคัญกับวันนี้ โดยเฉพาะสาวๆ ที่นอกจากจะถือคติประจำใจว่า “เป็นผู้หญิง ต้องอย่าหยุดสวย” แล้ว ยิ่งพอถึงวันพิเศษแบบนี้ก็ยิ่งอยากให้ตัวเองดูสวยกว่าปกติเป็นธรรมดา ซึ่งอีกหนึ่งอาวุธลับที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับหนุ่มๆ ได้ก็คือ ผิวสวยกระจ่างใส แลดูสุขภาพดี แต่จะต้องทำอย่างไรเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น พี่หมอไปรวบรวมเคล็ดลับเพื่อผิวหน้าปังมาฝากสาวๆ แล้วครับ
ขั้นตอนแรกที่ควรทำเพื่อผิวหน้าสว่างกระจ่างใสก็คือ การทำความสะอาด เพราะถ้าปล่อยให้มีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่บนใบหน้าก็อาจจะทำให้เกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบตามมาได้ ส่วนผลิตภัณฑ์ล้างหน้าก็ควรเลือกแบบที่อ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง และปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น น้ำหอม เป็นต้น
🌹 เคล็ดลับที่ 2 : ขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพด้วยสครับหรือกรดผลไม้
ความถี่ที่เหมาะสมในการใช้สครับคือ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ เพื่อขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไปและกระตุ้นการเกิดเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา โดยควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว เช่น ครีมที่มีเม็ดสครับไม่ใหญ่จนเกินไป เพื่อไม่ให้ผิวเป็นรอยขีดข่วน หรือบางคนอาจจะใช้ครีมผสมกรดผลไม้ (AHA) ที่มีความเข้มข้นต่ำ ทาก่อนนอน 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ แทนการใช้สครับก็ได้เช่นกัน
🌹 เคล็ดลับที่ 3 : ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง
สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่อยากมีผิวกระจ่างใสก็คือ การเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารเหล่านี้ (โดยสามารถสังเกตได้จากฉลากข้างผลิตภัณฑ์) เช่น สารในกลุ่มวิตามินซี ได้แก่ Ethyl Ascorbic Acid, Ascorbyl Tetraisopalmitate, Ascorbyl Glucoside วิตามินบีสาม หรือไนอะซินาไมด์ และสารอื่นๆ เช่น อาร์บูติน, โคจิก แอซิด, ไธอามิดอล, Undecylenoyl Phenylalanine, แอล-กลูตาไธโอน, รีซอร์ซินอล, Deoxyarbutin, Licorice Extract, Resveratrol, Tranexamic Acid ซึ่งนอกจากการดูส่วนผสมแล้ว ความสม่ำเสมอในการทาครีมบำรุงผิวก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะถ้าซื้อครีมมาแล้วตั้งเอาไว้เฉยๆ หรือใช้บ้างไม่ใช้บ้าง ผิวของสาวๆ ก็คงไม่มีทางสวยใสขึ้นมาได้
🌹 เคล็ดลับที่ 4 : ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
สาวๆ ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีค่า PA+++ เพื่อรับมือกับอานุภาพของแสงแดดและสภาพอากาศที่ร้อนระอุของบ้านเรา ที่สำคัญ ต้องทาเป็นประจำทุกวันทั้งใบหน้า ลำคอและตามตัวด้วยนะครับ เพื่อปกป้องผิวจากแสงUV ทั้ง UVA และ UVB ☀️ ดังนั้น ถึงแม้จะไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน ก็ควรทาครีมกันแดดทุกวัน เพื่อสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาว
🌹 เคล็ดลับที่ 5 : ไลฟ์สไตล์ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
เริ่มต้นด้วยการดื่มน้ำเปล่าทุกวัน วันละ 6-8 แก้ว รับประทานผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ หรืออย่างน้อยพยายามรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในทุกๆ มื้อ เข้านอนแต่หัวค่ำ (ดึกสุดไม่ควรเกินเที่ยงคืน) และออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายของสาวๆ มีความสมดุล และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 💪 ซึ่งจะส่งผลถึงการซ่อมแซมและบำรุงผิวพรรณด้วยนะครับ
🌹 เคล็ดลับที่ 6 : ให้รางวัลตัวเองด้วยโปรแกรมปรนนิบัติผิว
อีกหนึ่งตัวช่วยของสาวๆ ในยุคปัจจุบันที่อยากมีผิวสวยแต่ไม่ค่อยมีเวลาก็คือ การทำเลเซอร์ ซึ่งก็มีให้เลือกมากมายหลายชนิด และยังสามารถทำควบคู่ไปกับขั้นตอนการบำรุงผิวตามที่พี่หมอแนะนำมาได้อีกด้วย พี่หมอขอยกตัวอย่างแค่ 3 ตัวนะครับ ได้แก่
· Harmony Acne Pro เป็นเลเซอร์ชนิดใหม่ที่มีคุณสมบัติในการรักษาสิวอักเสบ หลุมสิว รูขุมขนกว้าง และลดการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้หน้าใสไร้สิว
· Picosecond Laser เลเซอร์รักษาความผิดปกติของเม็ดสี กระ ฝ้า จุดด่างดำ ลบรอยสัก ปรับสีผิวให้กระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อให้ผิวเรียบเนียน ดูสุขภาพดี
· IDEAL Radiant หรือเลเซอร์ Elos Plus ที่นำพลังงานคลื่นวิทยุและพลังงานแสงมาใช้ในการแก้ไขความผิดปกติของเม็ดสีต่างๆ เช่น กระ รอยแดงรอยดำที่เกิดจากสิว เส้นเลือดฝอยผิดปกติ พร้อมกระชับผิวและรูขุมขน
เห็นมั้ยล่ะครับว่าการมีผิวสวย กระจ่างใสนั้น ทำได้ไม่ยากเลย และก็ไม่จำเป็นต้องซื้อครีมแพงๆ มาใช้ด้วย แค่สาวๆ มีวินัยในการดูแลผิว รู้จักเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง รวมถึงดูแลตัวเองให้ดีทั้งภายในและภายนอก เพียงเท่านี้ ผิวเป๊ะ หน้าปัง ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน 💘 💘 💘
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้