ในเกมกีฬาทุกประเภทเมื่อขึ้นชื่อว่าการแข่งขันแล้วผู้เล่นต้องมีความเอาจริงเอาจังเป็นอย่างมากต้องซีเรียสกันเกือบจะทุกรายเพียงเพราะต้องการทำผลงานให้ออกมาดีและมีสมาธิกับเกมให้มากที่สุด แต่ใครจะรู้ว่า
.
.
เมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว ในเกมพรีเมียร์ลีก การแข่งขันฟุตบอลที่หลายๆคนชื่นชอบ ทั้งความสนุก ตื่นตาตื่นใจและการปะทะของนักเตะทั้งสองทีมที่ฟาดแข้งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย กลับมาชายคนหนึ่งที่แตกต่างจากนักเตะทั่วไปเพราะเขานั้นไม่ได้สนใจความเดือดระอุของเกมการแข่งขันเลยแม้แต่น้อยแต่กลับสร้างรอยยิ้มเสียงหัวเราะจากแฟนบอลและเพื่อนร่วมทีมแทน ชายผู้มีอารมณ์ขันคนนี้คือ จิมมี่ บูลลาร์ด
.
.
นักเตะสายเอนเตอร์เทนคนนี้เกิดวันที่ 23 ตุลาคม 1978 ที่ประเทศอังกฤษ ส่วนสูง 5ฟุต 10 นิ้ว ตำแหน่งกองกลาง จิมมี่ บูลลาร์ด เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งระดับเยาวชนกับทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จากนั้นได้สัญญาอาชีพ กับทีม โครินเตียน เอฟซี ซึ่งโดยปกติแล้วเขาเป็นคนที่มีอารมณ์ขันตลอดเวลา ชอบสร้างความสนุกให้กับเพื่อนร่วมทีมรวมถึงเจ้านายของเขาด้วย เพียงเพราะว่าเกมฟุตบอลนั้นตรึงเครียดจนเกินไป
.
.
จิมมี่เองไม่ได้ชอบความจริงจังแบบนี้สักเท่าไหร่นัก แต่ใช่ว่าการกระทำที่ไม่สนใจเกมจะทำให้ไม่สนใจรูปเกมการเล่นไปด้วย ผลงานในสนามที่เขาแสดงออกมานั้นมีคุณภาพคับแก้วเลย
แต่ด้วยความที่เป็นคนตลก เขาจึงได้เนรมิตทุกอย่างให้เป็นเสียงฮาได้อย่างลงตัว
.
.
โดยเหตุการณ์ที่จำไม่มีวันลืมเลยคือภายใต้สีเสื้อส้มดำ อย่าง ฮัลล์ ซิตี้ ที่เขานั้นโยกมาร่วมทีมในปี 2009 จิมมี่ บูลลาร์ด ได้ก่อวีรกรรมแสบๆขึ้นอีกครั้ง โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้จัดการทีม ฮัลล์ ซิตี้อย่าง ฟิล บราวน์ ตำหนิลูกทีมกลางสนามแข่งแทนที่จะเป็นในห้องพักนักเตะ
.
.
ทำให้เมื่อ จิมมี่ ยิงประตูตีเสมอได้จึงแสดงท่าดีใจกับเพื่อนร่วมทีมล้อเลียนฉากที่ ฟิล บราวน์ ตำหนิลูกทีม โดยเขาสวมบทเป็นผู้จัดการชี้นิ้วด่าเพื่อนร่วมทีมอย่างสนุกสนามเรียกเสียงหัวเราะจากแฟนๆได้อย่างมากมายและเป็นที่พูดถึงกันจวบปัจจุบันนี้
.
.
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นของวีรกรรมแสบๆของ จิมมี่ บูลลาร์ด ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่เขาสามารถพลิกสถานการณ์ที่ตรึงเครียดให้กลับกลายเป็นเสียงหัวเราะได้ไม่น่าเชื่อ เรียกได้ว่านี้คือทักษะเฉพาะตัวที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้เลยสำหรับนักเตะจอมเอนเตอร์เทนรายนี้ อย่างคำที่เขาว่ากันว่า
.
.
"ตำแหน่งอยู่ไม่นาน แต่ ตำนานจะอยู่ตลอดไป"
ในเกมกีฬาทุกประเภทเมื่อขึ้นชื่อว่าการแข่งขันแล้วผู้เล่นต้องมีความเอาจริงเอาจังเป็นอย่างมากต้องซีเรียสกันเกือบจะทุกรายเพียงเพราะต้องการทำผลงานให้ออกมาดีและมีสมาธิกับเกมให้มากที่สุด แต่ใครจะรู้ว่า
.
.
เมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว ในเกมพรีเมียร์ลีก การแข่งขันฟุตบอลที่หลายๆคนชื่นชอบ ทั้งความสนุก ตื่นตาตื่นใจและการปะทะของนักเตะทั้งสองทีมที่ฟาดแข้งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย กลับมาชายคนหนึ่งที่แตกต่างจากนักเตะทั่วไปเพราะเขานั้นไม่ได้สนใจความเดือดระอุของเกมการแข่งขันเลยแม้แต่น้อยแต่กลับสร้างรอยยิ้มเสียงหัวเราะจากแฟนบอลและเพื่อนร่วมทีมแทน ชายผู้มีอารมณ์ขันคนนี้คือ จิมมี่ บูลลาร์ด
.
.
นักเตะสายเอนเตอร์เทนคนนี้เกิดวันที่ 23 ตุลาคม 1978 ที่ประเทศอังกฤษ ส่วนสูง 5ฟุต 10 นิ้ว ตำแหน่งกองกลาง จิมมี่ บูลลาร์ด เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งระดับเยาวชนกับทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จากนั้นได้สัญญาอาชีพ กับทีม โครินเตียน เอฟซี ซึ่งโดยปกติแล้วเขาเป็นคนที่มีอารมณ์ขันตลอดเวลา ชอบสร้างความสนุกให้กับเพื่อนร่วมทีมรวมถึงเจ้านายของเขาด้วย เพียงเพราะว่าเกมฟุตบอลนั้นตรึงเครียดจนเกินไป
.
.
จิมมี่เองไม่ได้ชอบความจริงจังแบบนี้สักเท่าไหร่นัก แต่ใช่ว่าการกระทำที่ไม่สนใจเกมจะทำให้ไม่สนใจรูปเกมการเล่นไปด้วย ผลงานในสนามที่เขาแสดงออกมานั้นมีคุณภาพคับแก้วเลย
แต่ด้วยความที่เป็นคนตลก เขาจึงได้เนรมิตทุกอย่างให้เป็นเสียงฮาได้อย่างลงตัว
.
.
โดยเหตุการณ์ที่จำไม่มีวันลืมเลยคือภายใต้สีเสื้อส้มดำ อย่าง ฮัลล์ ซิตี้ ที่เขานั้นโยกมาร่วมทีมในปี 2009 จิมมี่ บูลลาร์ด ได้ก่อวีรกรรมแสบๆขึ้นอีกครั้ง โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้จัดการทีม ฮัลล์ ซิตี้อย่าง ฟิล บราวน์ ตำหนิลูกทีมกลางสนามแข่งแทนที่จะเป็นในห้องพักนักเตะ
.
.
ทำให้เมื่อ จิมมี่ ยิงประตูตีเสมอได้จึงแสดงท่าดีใจกับเพื่อนร่วมทีมล้อเลียนฉากที่ ฟิล บราวน์ ตำหนิลูกทีม โดยเขาสวมบทเป็นผู้จัดการชี้นิ้วด่าเพื่อนร่วมทีมอย่างสนุกสนามเรียกเสียงหัวเราะจากแฟนๆได้อย่างมากมายและเป็นที่พูดถึงกันจวบปัจจุบันนี้
.
.
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นของวีรกรรมแสบๆของ จิมมี่ บูลลาร์ด ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่เขาสามารถพลิกสถานการณ์ที่ตรึงเครียดให้กลับกลายเป็นเสียงหัวเราะได้ไม่น่าเชื่อ เรียกได้ว่านี้คือทักษะเฉพาะตัวที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้เลยสำหรับนักเตะจอมเอนเตอร์เทนรายนี้ อย่างคำที่เขาว่ากันว่า
.
.
ที่มา 
"ตำแหน่งอยู่ไม่นาน แต่ ตำนานจะอยู่ตลอดไป"
.
.
เมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว ในเกมพรีเมียร์ลีก การแข่งขันฟุตบอลที่หลายๆคนชื่นชอบ ทั้งความสนุก ตื่นตาตื่นใจและการปะทะของนักเตะทั้งสองทีมที่ฟาดแข้งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย กลับมาชายคนหนึ่งที่แตกต่างจากนักเตะทั่วไปเพราะเขานั้นไม่ได้สนใจความเดือดระอุของเกมการแข่งขันเลยแม้แต่น้อยแต่กลับสร้างรอยยิ้มเสียงหัวเราะจากแฟนบอลและเพื่อนร่วมทีมแทน ชายผู้มีอารมณ์ขันคนนี้คือ จิมมี่ บูลลาร์ด
.
.
นักเตะสายเอนเตอร์เทนคนนี้เกิดวันที่ 23 ตุลาคม 1978 ที่ประเทศอังกฤษ ส่วนสูง 5ฟุต 10 นิ้ว ตำแหน่งกองกลาง จิมมี่ บูลลาร์ด เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งระดับเยาวชนกับทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จากนั้นได้สัญญาอาชีพ กับทีม โครินเตียน เอฟซี ซึ่งโดยปกติแล้วเขาเป็นคนที่มีอารมณ์ขันตลอดเวลา ชอบสร้างความสนุกให้กับเพื่อนร่วมทีมรวมถึงเจ้านายของเขาด้วย เพียงเพราะว่าเกมฟุตบอลนั้นตรึงเครียดจนเกินไป
.
.
จิมมี่เองไม่ได้ชอบความจริงจังแบบนี้สักเท่าไหร่นัก แต่ใช่ว่าการกระทำที่ไม่สนใจเกมจะทำให้ไม่สนใจรูปเกมการเล่นไปด้วย ผลงานในสนามที่เขาแสดงออกมานั้นมีคุณภาพคับแก้วเลย
แต่ด้วยความที่เป็นคนตลก เขาจึงได้เนรมิตทุกอย่างให้เป็นเสียงฮาได้อย่างลงตัว
.
.
โดยเหตุการณ์ที่จำไม่มีวันลืมเลยคือภายใต้สีเสื้อส้มดำ อย่าง ฮัลล์ ซิตี้ ที่เขานั้นโยกมาร่วมทีมในปี 2009 จิมมี่ บูลลาร์ด ได้ก่อวีรกรรมแสบๆขึ้นอีกครั้ง โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้จัดการทีม ฮัลล์ ซิตี้อย่าง ฟิล บราวน์ ตำหนิลูกทีมกลางสนามแข่งแทนที่จะเป็นในห้องพักนักเตะ
.
.
ทำให้เมื่อ จิมมี่ ยิงประตูตีเสมอได้จึงแสดงท่าดีใจกับเพื่อนร่วมทีมล้อเลียนฉากที่ ฟิล บราวน์ ตำหนิลูกทีม โดยเขาสวมบทเป็นผู้จัดการชี้นิ้วด่าเพื่อนร่วมทีมอย่างสนุกสนามเรียกเสียงหัวเราะจากแฟนๆได้อย่างมากมายและเป็นที่พูดถึงกันจวบปัจจุบันนี้
.
.
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นของวีรกรรมแสบๆของ จิมมี่ บูลลาร์ด ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่เขาสามารถพลิกสถานการณ์ที่ตรึงเครียดให้กลับกลายเป็นเสียงหัวเราะได้ไม่น่าเชื่อ เรียกได้ว่านี้คือทักษะเฉพาะตัวที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้เลยสำหรับนักเตะจอมเอนเตอร์เทนรายนี้ อย่างคำที่เขาว่ากันว่า
.
.
"ตำแหน่งอยู่ไม่นาน แต่ ตำนานจะอยู่ตลอดไป"
ในเกมกีฬาทุกประเภทเมื่อขึ้นชื่อว่าการแข่งขันแล้วผู้เล่นต้องมีความเอาจริงเอาจังเป็นอย่างมากต้องซีเรียสกันเกือบจะทุกรายเพียงเพราะต้องการทำผลงานให้ออกมาดีและมีสมาธิกับเกมให้มากที่สุด แต่ใครจะรู้ว่า
.
.
เมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว ในเกมพรีเมียร์ลีก การแข่งขันฟุตบอลที่หลายๆคนชื่นชอบ ทั้งความสนุก ตื่นตาตื่นใจและการปะทะของนักเตะทั้งสองทีมที่ฟาดแข้งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย กลับมาชายคนหนึ่งที่แตกต่างจากนักเตะทั่วไปเพราะเขานั้นไม่ได้สนใจความเดือดระอุของเกมการแข่งขันเลยแม้แต่น้อยแต่กลับสร้างรอยยิ้มเสียงหัวเราะจากแฟนบอลและเพื่อนร่วมทีมแทน ชายผู้มีอารมณ์ขันคนนี้คือ จิมมี่ บูลลาร์ด
.
.
นักเตะสายเอนเตอร์เทนคนนี้เกิดวันที่ 23 ตุลาคม 1978 ที่ประเทศอังกฤษ ส่วนสูง 5ฟุต 10 นิ้ว ตำแหน่งกองกลาง จิมมี่ บูลลาร์ด เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งระดับเยาวชนกับทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จากนั้นได้สัญญาอาชีพ กับทีม โครินเตียน เอฟซี ซึ่งโดยปกติแล้วเขาเป็นคนที่มีอารมณ์ขันตลอดเวลา ชอบสร้างความสนุกให้กับเพื่อนร่วมทีมรวมถึงเจ้านายของเขาด้วย เพียงเพราะว่าเกมฟุตบอลนั้นตรึงเครียดจนเกินไป
.
.
จิมมี่เองไม่ได้ชอบความจริงจังแบบนี้สักเท่าไหร่นัก แต่ใช่ว่าการกระทำที่ไม่สนใจเกมจะทำให้ไม่สนใจรูปเกมการเล่นไปด้วย ผลงานในสนามที่เขาแสดงออกมานั้นมีคุณภาพคับแก้วเลย
แต่ด้วยความที่เป็นคนตลก เขาจึงได้เนรมิตทุกอย่างให้เป็นเสียงฮาได้อย่างลงตัว
.
.
โดยเหตุการณ์ที่จำไม่มีวันลืมเลยคือภายใต้สีเสื้อส้มดำ อย่าง ฮัลล์ ซิตี้ ที่เขานั้นโยกมาร่วมทีมในปี 2009 จิมมี่ บูลลาร์ด ได้ก่อวีรกรรมแสบๆขึ้นอีกครั้ง โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้จัดการทีม ฮัลล์ ซิตี้อย่าง ฟิล บราวน์ ตำหนิลูกทีมกลางสนามแข่งแทนที่จะเป็นในห้องพักนักเตะ
.
.
ทำให้เมื่อ จิมมี่ ยิงประตูตีเสมอได้จึงแสดงท่าดีใจกับเพื่อนร่วมทีมล้อเลียนฉากที่ ฟิล บราวน์ ตำหนิลูกทีม โดยเขาสวมบทเป็นผู้จัดการชี้นิ้วด่าเพื่อนร่วมทีมอย่างสนุกสนามเรียกเสียงหัวเราะจากแฟนๆได้อย่างมากมายและเป็นที่พูดถึงกันจวบปัจจุบันนี้
.
.
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นของวีรกรรมแสบๆของ จิมมี่ บูลลาร์ด ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่เขาสามารถพลิกสถานการณ์ที่ตรึงเครียดให้กลับกลายเป็นเสียงหัวเราะได้ไม่น่าเชื่อ เรียกได้ว่านี้คือทักษะเฉพาะตัวที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้เลยสำหรับนักเตะจอมเอนเตอร์เทนรายนี้ อย่างคำที่เขาว่ากันว่า
.
.
ที่มา