🧐 แบบนี้ก็ได้เหรอ ⁉️


หลังมีข่าวตำรวจนายติดเชื้อโควิด-19 โดยอ้างว่าไปร่วมงานกับดีเจมะตูม แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า จริงๆ แล้วเขาไม่ได้ไปงานดีเจมะตูม
แต่ ที่ให้ข้อมูลเท็จเพราะต้องการตรวจโควิดให้รู้กันไปเลยว่าติด-หรือไม่ติด จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจมีความผิดฐานปกปิดข้อมูลหรือไม่


ล่าสุด เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง และพร้อมยอมรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่ มองว่าหากไม่ทำแบบนี้ ตัวเองก็อาจจะกลายเป็นผู้ที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อให้คนอื่น

การโพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก ของ พ.ต.ต. มงคลรักษ์ จุฑานนท์ สารวัตรสังกัดกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ซึ่งเป็นบุตรชายของ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ อดีตวุฒิสมาชิกและอดีตรอง ผบ.ตร. โดยเปิดเผยไทม์ไลน์ที่หายไป ตั้งแต่
วันที่ 10 ม.ค.แวะรับเพื่อนที่ banyan tree เช้ามืด นำส่งที่บ้าน จากนั้นกลับพักผ่อนที่คอนโด แวะซื้อข้าวซอยข้างห้าง AEC ราว 8.00 น.
วันที่ 11  หยุดพักผ่อน ทานข้าวร้านในละแวกคอนโดซอยข้างห้าง AEC
วันที่ 12  หยุดพักผ่อน ทานข้าวร้านฝั่งตรงข้ามซอยเข้าสยามพารากอน ไม่มีชื่อร้าน 10.00 น.
วันที่ 13  เข้าทำงานตามปกติ
และวันที่ 14  หยุดพักผ่อน

แต่กรณี พ.ต.ต.มงคลรักษ์ มีประเด็นว่า แท้จริงแล้วไม่ได้ไปงานวันเกิดดีเจมะตูม ในวันที่ 9  ม.ค. ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง
เนื่องจากตัวเองพักอยู่ที่คอนโดไม่ได้ออกไปไหน  แต่มีเพื่อนที่ไปร่วมงานวันเกิดดีเจมะตูมมานั่งกินข้าวด้วยกันที่คอนโด
และทราบต่อมาว่าเพื่อนของตัวเองก็ติดโควิดไปด้วยจึงโทรศัพท์มาแจ้งข่าว
 
จากนั้นวันที่ 20 ม.ค. ตนเองได้โทรศัพท์สอบถามโรงพยาบาลทั้งของรัฐและเอกชน ว่าควรไปตรวจโควิด-19 หรือไม่ แต่เมื่อแพทย์สอบถามอาการ
พบว่า ไม่แสดงอาการใดๆ ที่บ่งชี้ว่าเป็นการติดเชื้อ ทั้งเรื่องไอ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รับรส ซึ่งทุกอย่างเป็นปกติหมด
แต่ก็ได้บอกแพทย์ไปแล้วว่า มีเพื่อนที่ไปร่วมงานวันเกิดดีเจมะตูมและติดโควิดเดินทางมาหาที่คอนโด
ซึ่งแพทย์ก็ได้แนะนำว่า หากไม่มีอาการก็ยังไม่จำเป็นต้องตรวจ แต่ขอให้กักตัวเองเพื่อสังเกตอาการ 14วัน
 
จากนั้นเมื่อกลับบ้านไปได้เพียงแค่ 1 วัน ก็รู้สึกร้อนใจ และอยากตรวจโควิดให้รู้ผลกันไปเลย จึงได้โทรศัพท์ปรึกษาเพื่อน
และสุดท้าย ก็ตัดสินใจโกหกข้อมูลอ้างว่า ตนเองมีอาการต่างๆ ทั้งที่แท้จริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น
รวมทั้ง บอกว่าได้เดินทางไปร่วมงานวันเกิดดีเจมะตูมแบบใกล้ชิดด้วย ทำให้สุดท้ายแพทย์จึงยอมให้ตรวจ และในที่สุดก็พบว่าติดเชื้อโควิดจริง
 
เมื่อถามว่า กรณีแบบนี้อาจจะเป็นการปกปิดข้อมูล และอาจถูกดำเนินคดีหรือไม่
พ.ต.ต.มงคลรักษ์ ยอมรับว่า หากจะต้องถูกดำเนินคดีฐานให้ข้อมูลเท็จ ก็พร้อมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
เพราะหากไม่ใช้วิธีนี้ ตัวเองอาจกลายเป็นคนที่ไปแพร่เชื้อให้คนอื่นโดยที่ไม่รู้ตัว  และอาจทำลายชีวิตคนอื่นไปด้วย

ซึ่งเมื่อวานนี้ ได้พูดคุยกับทางอนามัย และ กทม. นับว่าเป็นครั้งแรกที่ได้คุยกันตรงๆ จนเข้ากันด้วยดีและจบด้วยความแฮบปี้เอนดิ้ง
หลังจากนี้ คาดว่าน่าจะมีอัพเดทไทม์ไลน์ในส่วนที่หายไป ที่ระบุว่า “อยู่ในระหว่างสอบสวน” ให้ถูกต้องเพิ่มเติมต่อไป
พร้อมกับให้ข้อมูลไทม์ไลน์ย้อนหลังวันที่ 9 ม.ค. เพิ่มเติมไปอีก 10 วัน ว่าเดินทางไปที่ไหนมาบ้าง เพื่อเป็นประโยชน์ในการสอบสวนโรคครั้งนี้ด้วย
 
ส่วนความคืบหน้าอาการป่วยของตนเองหลังติดเชื้อโควิด  ทีมแพทย์ บอกว่า ตนมีเชื้ออยู่น้อยมาก
และตั้งข้อสังเกตว่าอาจได้รับเชื้อมานานแล้ว หรืออาจจะใกล้หายแล้ว
ซึ่งทำให้เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจจะได้รับเชื้อมานานแล้วก่อนหน้านี้ หรือก่อนเกิดเคสของดีเจมะตูมด้วยซ้ำ
 
โดยล่าสุด นายตำรวจคนนี้ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์เพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่มีการให้ยารักษาแต่อย่างใด
และคาดว่าจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ภายใน 10 วัน



ปล เพิ่มเติม
เหมือนจะมีประโยชน์ แต่จริงๆ แล้วนั้น...อมยิ้ม35
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ตอนแรกเค้าบอกเรื่องจริงนิครับ แต่ทาง รพ ไม่ตรวจให้ หรือว่าไม่บอกเรื่องจริง แต่จากที่ดูข่าว เหมือนเค้าจะเล่าความจริง แต่ทาง รพไม่ตรวจ เลยต้องโกหกเพื่อจะได้ตรวจ แล้วก็ได้ตรวจจริงๆ อันนี้ต้องถาม รพ ว่าทำไมไม่ตรวจ เพราะจากที่เค้าเล่าตอนแรก ก็น่าจะเข้าข่ายตรวจได้ เพราะเค้ารู้ตัวเองว่าใกล้ชิดกับคนที่ติดเชื่อ(คนนี้ไปงานมะตูมมาแล้วมาหาเค้า) ลองนึกว่าเป็นตัวเอง ใกล้ชิดกับคนที่ติดมาก่อน ก็จะอยู่นิ่งๆสบายใจไม่ได้ ยังไงก็ต้องตรวจ เพื่อคนรอบข้าง ตรวจเพื่อความสบายใจ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่ตรวจตรวจแบบมีค่าใช้จ่าย เรื่องจะได้ไม่ออกมาแบบนี้
ความคิดเห็นที่ 6
ทำไมไม่เลือกจ่ายค่าตรวจเอง ทำไมเลือกโกหก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่