ผมควรจะทำยังไงต่อไปดี ในเมื่อเขา "หมดรัก" เราแล้วจริงๆ ??

มีเรื่องอยากจะสอบถามเพื่อนๆหน่อยครับ ว่าผมควรทำยังไงต่อไปดี
ขอสรุปสั้นๆเลยนะครับ ไม่งั้นมันจะยาวเกินไป

- ผมกับแฟนคบกันมา 10 ปี จดทะเบียนแล้ว มีลูกด้วยกัน 1 คน ซื้อบ้านร่วมกัน 3 คน ผม แฟน แม่แฟน (กู้ร่วม) ผ่านกันมาทุกช่วงชีวิต เรียนจบ ป.ตรี บวช ทหาร

     เริ่มต้นเลยผมยอมรับว่าแต่ก่อนผมเป็นคนติดเกมมาก ติดจนกระทั่งกินข้าวไปเล่นไป เล่นตลอดหลังเลิกงานถึงเที่ยงคืนทุกวัน ไม่ค่อยได้สนใจแฟนเลย แต่ถามว่ารักมากไหม ผมรักแฟนมากนะ แฟนบอกให้ทำอะไรผมก็วางเกมทันทีแล้วไปทำตามที่แฟนบอกเลย ให้พูดสั้นๆก็คือ "ละเลย" นั้นแหละ แล้ววันนึงแฟนผมก็ไปเล่นเกมโทรศัพท์เกมๆนึง แล้วได้รู้จัก ผช. ในเกมคนนึง รู้จักกันประมาณ 1 เดือน แล้วเขาก็คุยกันทุกวันในเกมเล่นด้วยกัน แล้วทาง ผช.ก็ขอ Line แฟนผม แฟนผมก็ให้ไป แล้วก็มาเริ่มคุยกันแบบจริงจังที่ไม่ได้คุยกันในเกม ไม่รู้นะว่าคุยกันนานขนาดไหน แต่มีอยู่วันนึงอยู่ๆอะไรดลบันดาลผมก็ไม่รู้ ให้ไปดูโทรศัพท์ของแฟน ทั้งๆที่ไม่เคยไปยุ่งเลย พอผมเปิดดูก็ช็อคเลยครับ คุยกันในรูปแบบของ จีบกันใหม่ๆ เช่น คิดถึงจัง ทำไรอยู่ จีบได้ไหม รู้สึกดีๆด้วยนะ (ฝั่ง ผช.ก็รู้ว่า มีลูกมีผัวอยู่แล้ว) แฟนของเราก็ออกแนวเล่นด้วยเฉย ถึงขั้นประมาณว่า "ให้เลิกกับแฟนหนูแล้วให้ไปคบกันพี่หรอ" ประมาณนี้เลย จับว่าคุยกันได้แบบนี้ประมาณ 4 ครั้ง ครั้งแรก แชทLine ครั้ง 2 แชทFB ครั้ง 3 โทรFB ครั้ง 4 โทร Line (ทั้ง 4 ครั้งผมเห็นทุกตัวอักษร ทุกรูปภาพที่ส่งให้กัน ทุกสิ่งของที่ส่ง ปณ.ให้กัน) จนแฟนผมไม่ไหวแล้วมั่ง มาขอคุยกับผมแบบเปิดอก แฟนผมบอกว่า "ไม่รู้ว่าเค้าหมดรักตัวตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วอ่ะ" เราเลิกกันเถอะ แล้วก็เอา ผช.คนนั้นมาให้คุยกับผม ผมก็โดนไอคนนั้นมันด่าซะเสียหลัก ประมาณว่า ทำไมคุณทำให้แฟนคุณเป็นแบบนี้ รู้สึกแบบนี้ บลาๆ แล้วแฟนผมก็ขำซ้ำเติมผมอีก เป็นความรู้สึกที่แบบว่าอะไรวะ เอาแฟนใหม่มาด่าสามีได้ด้วยหรอ แล้วหลังจากนั้นไม่นาน แฟนผมก็ออกจากบ้านผมไป (ไปอยู่หอกับเพื่อนที่ออฟฟิตที่เป็ร ผญ.) ผมทั้งรั้ง ทั้งกอดขา ทั้งอ้อนวอน ทั้งขอโทษ ให้เค้าไม่ไปจากผม แต่แฟนผมก็ไปอยู่ดี
     หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ เค้าก็กลับมาหาที่บ้านมาเก็บข้าวของแล้วมาบอกว่า "ตัว หย่าให้เค้าได้ไหม" ผมนี้สตั้นเลยครับ โดนบอกให้ "หย่า"ทั้งหมดประมาณ 3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายที่เค้ามาหาผมก็คือวันเกิดลูก มาเอาของไป เอาเอกสารไป แล้วมาบอกว่า "หย่าให้เค้าได้ไหม ปล่อยเค้าไปเถอะ" คำพูดนี้ทั้งน้ำตา ทำให้ผมคิดได้ว่า ผมแมร้งโครตเห็นแก่ตัวเลย ที่รั้งเค้าไว้ด้วยกระดาษแผ่นเดียว ผมเลยต้องทำใจแล้วตอบไปว่า "เดี๋ยวจะหย่าให้" หลังจากนั้นเค้าก็ดูมีความสุขมากขึ้น (สังเกตุจากใน Fbการโพสต่างๆ) จนตอนนี้ก็ผ่านมาได้ 2 เดือนแล้ว
     ตอนนี้ลูกอยู่กับผม แล้วผมก็จะย้ายบ้านไปอยู่บ้านที่ซื้อด้วยกัน มีผม ลูกผม แม่แฟน พ่อแฟน ผมจะไปอยู่บ้านนู้น แม่แฟน พ่อแฟน ครอบครัว ญาติของแฟนผมสนิทกับทุกคน แล้วทุกคนก็เข้าใจผม เพราะ ทางครอบครัวพูดยังไงกับแฟนผม แฟนผมก็ไม่ฟังอ่ะไรทั้งนั้น ทางแม่แฟนผมจะช่วยเลี้ยงลูกผมให้ในช่วงที่ผมไปทำงาน 

ขอสรุปเลยนะครับ ผมควรจะทำยังไงต่อไปดี ความสัมพันของผมมันแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ เลิกกับแฟนแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในครอบครัวของแฟน แถมแฟนก็มีแฟนใหม่ไปแล้ว แต่ผมยังไม่มีใคร ยังดีที่ได้ดูแลลูก (ถึงแม่เค้าจะนานๆโทรมาที) ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายลูกก็คุยกันแล้วจะช่วยจ่ายคนละครึ่งๆทุกๆค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับลูก แล้วก็ยังสามารถคุยกันได้ตามปกติ (คุยแต่เรื่องลูกนะ)

มีคนแนะนำให้หาแฟนใหม่ แต่ผมก็ลองแล้วนะ แต่ความรู้สึกประมาณว่า เหมือนกำลังนอกใจเค้าอยู่ ผมเลยหยุดผมไม่อยากหาคนอื่นเพื่อมาแทนคนเดิมเลย สงสารคนที่เข้ามา แต่พอหลังๆมานี้ แฟนเก่าผมก่อนหน้านี้ทั้ง 2 คน ก็กลับมาคุยกับผมเฉย พอรู้ว่าผมเลิกกับแฟนผมแล้ว แต่ผมก็แค่คุยเฉยๆแล้วก็ปรึกษากับเขานะครับว่าเรื่องนี้ ผมควรทำยังไงต่อไปดี ผมรักเขามาก แต่ก็นะ . . . ตอนนี้ผมเลิกเล่นเกมได้แล้วครับ เลิกขาดเลย คอมพึ่งประกอบมา 40,000 กว่าก็ยกให้น้องชายไปละ โทรศัพท์ ASUS เกมมิ่งโฟนที่ซื้อมาเล่นเกมโดยเฉพาะก็ไม่ได้เล่นเกมแล้ว ใช้ทำงานแทน

เพื่อนๆว่า ผมควรจะทำยังไงต่อไปดีครับ อยากได้เป็นแนวทางในการตัดสินใจครับ (วันหย่าอีกประมาณ 20 วัน กว่าจะถึงวันหย่า)

อ่อลืมบอกผมกับแฟนเป็นพวก ไม่กินเหล้า ไม่ดูดบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แล้วตอนคบกันตอนแรกผมอายุ 19 แฟน 15 ตอนนี้ก็ผ่านมา 10 ปีละ ผม 29 แฟน 25 ลูก 3 ขวบ ครับ... ทุกวันนี้ผมยังรัก ยังคิดถึง เสมอ "ขนาดเลิกกันไปแล้ว ผมยังไม่กล้านอกใจ ไม่กล้ามีคนใหม่เลยครับ" จะทำยังไงกับความรู้สึกแบบนี้ดี แม่แฟนผมก็ยอมรับผมเป็ฯลูกอีกคนนึงของแกแล้วด้วยนิ พวกสมบัติของแกก็ยกให้หลานหมด (แทนที่จะยกให้ลูกตัวเอง คือ แฟนผม)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่