ชีวิตที่เหมือนจะ เสพติดความโสด

หลังจากโสดมานานทุกวันนี้ผมเหมือนจะเริ่มชิน.      แล้วก็เริ่มรักความโสดเข้าแล้ว. หลังจากโสดแรกๆ ผมขวนขวายหาความรักใหม่เยอะมากเพราะมองว่ามันเหงา ที่ไม่มีแฟน. แต่เมื่อผมได้เจอคนรอบข้างมันก็เป็นเหมือนแสงสว่างในชีวิตผม. บวกกับเวลาที่สอนเรา. จนปัจจุบันผมรู้สึกอิ่มเอมและมีความสุขกับความโสดที่เป็นอิสระของผม  ถามว่ามีเหงามั้ย ตอนนี้ผมตอบตรงๆนะว่าไม่มี. มีคนเข้ามามั้ย มีครับ แต่เราก็คุยกันแบบไม่ใช้ความรักเชิงชู้สาวเป็นตัวกั้นกลาง. แต่ใช้เส้นใยของมิตรภาพและไห้ความจริงใจไห้แก่กัน. สิ่งนึงที่สิ่งนี้มีค่ามากสำหรับผมคือ. ผมไม่จำเป็นต้องสร้างตัวตนที่2 ตัวตนที่3 ในตัวผมเองเพื่อไห้คนใหม่ๆรู้จัก. แต่ผมได้เปิดเผยตัวผมจริงๆให้เขาได้รับรู้ ในฐานะเพื่อน.   เกลิ่นมาซะเยอะ ผมเข้าเรื่องในเรื่องราวของผมเลยนะครับ. ว่าสิ่งที่ทำไห้ผม มูฟออนจากความเศร้า. มาสู่ ความสุขของหนุ่มโสดแบบผม. มันเริ่มต้นยังไง

     ครั้นตอนที่ผมโสดใหม่ๆ ผมเพิ่งเข้ามหาลัยได้ไม่นานเองครับ. เลิกปุ๊ปใช้เวลาพักใจไม่นานมากประมาณ 3-4 วันผมก็เริ่มลบความรู้สึกเสียดายออกหมด เหลือเพียงชื่อเขาที่อยู่ในลิสแฟนเก่า (มันไม่มีใครลืมได้หรอก งั้นผมขอจดจำเขาไง้ในฐานะแฟนเก่าแล้วกัน อย่างน้อย เขาก็เคยทำไห้เรามีความสุข)    ผมเริ่มต้นตั้งกระทู้ พันทิปหาแฟน หาคนคุย. แต่สิ่งที่ผมได้กลับมา คือ. คนหลากหลายนิสัย หลากหลายสภาพ. หาทั้งในเฟส ในไอจี. เริ่มคุย เริ่มทำความรู้จัก. แต่เชื่อมั้ยครับ สิ่งที่ผมได้กลับมา คืออะไร. คือความอึดอัด.  ในขณะที่ผมคัดกรองคน(ความเห็นแก่ตัวนี้).   ผมค่างใส่ทุกประโยคที่มีแต่ข้อดีในตัวผม.  ใส่ทุกอย่างที่บางอย่าง อาจไม่ใช่ตัวตนเรา ให้หลายๆคนฟัง. เพียงเพราะอยากไห้คนเหล่านั้นประทับใจในตัวผม.  
     ระยะเวลาที่คุยหรือนัดทานข้าวกับคน กลุ่มนี้ (2-3คน). แต่เจอคนละครั้งนะครับ. ผมเริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่ผมแสดงออกไปไห้เขาเห็นมันไม่ใช่ตัวผม. อย่างแรกคือ. ผมเป็นคนปากปีจอ. แต่ผมต้องแส้วเป็นคนพูดหวาน.   จนวันนึงผมมีโอกาสคุยกับพี่คนนึงครับ. เขาบอกว่าเขามีแฟนแล้ว เขาพร้อมตะเป็นเพื่อนกับผม.  ผมก็งงๆ แต่ก็ตอบไป. แล้วมีโอกาสนัดเจอกันหลายครั้ง. ครั้งนี้เปลี่ยนแปลงจากครั้งก่อนๆมากครับ. ผมเริ่มรู้สึกคุ้นชินและสนิทกับพี่เขามากขึ้น. ผมเริ่มมีเหตุการณ์ต่างๆมาปรึกษาพี่เขา ว่าทำถูกมั้ย. พี่เขาก็จะบอกตรงๆ. จะช่วยแก้ไข.     ผมได้เริ่มรู้ข้อเสียของตัวเอง.  เริ่มไห้ความเป็นตัวเองออกมาภายนอก. จนผมได้ตั้งกระทู้หาเพื่อน ชวนเที่ยวไรงี้ดู. เชื่อมั้ยครับ ว่าคนทักมาเยอะเหมือนกัน แต่คราวนี้ เป็นเพื่อนพี่น้อง จากหลากหลายเพศ.  ทุกคนเริ่มจากการเกร็งๆ แต่สุดท้ายมันลงเอยที่ยังคุยกันได้ต่อเรื่อยๆ.  หลายคนอกหักก็มาระบายไห้ฟัง.   จนทุกวันนี้ คนจากกระทู้ที่ผมหาแฟนหายไปหมดแล้วครับ.  แต่คนจากกระทู้หาเพื่อน คือยังอยู่ครบครับ.  แม้จะผ่านไป2-4 ปีแล้ว.

การกำจัดความเหงา.  คือการพร้อมเปิดตัวเอง. ผมเชื่อว่าทุกคนต้องมีความเหงา อยากมีแฟน. อยากมีคนคุย.  แรกๆผมก็มีนั้นแหละครับ.  แต่ลองมองดูคนรอบข้างก่อนครับ. คนรอบข้างนั้นแหละที่จะเป็นยาแก้เหงาไห้เราดีที่สุด. อย่างผมถ้าเหงาก็ทักชวนเพื่อนเที่ยว หากิจกรรมทำ.  ตอนมีแฟนผมแทบจะไม่ได้ไปไหน.  ตอนนี้อิสระเต็มที่ครับ.

แล้วถ้าสักวันมีคนที่เราถูกใจ. =. ใช่ครับผมคงไม่อยากโสดไปตลอดชีวิตหรอก. แต่ถ้าถามว่าผมอยากคบคนแบบไหน ผมอยากไห้มันเริ่มจากคำว่าเพื่อนจริงๆ  อยากเจอคนที่เราเผยทั้งด้านดีและด้านลบไห้เห็นกัน ก่อนตัดสินใจคบมากกว่า  คนที่มีแต่จะเสริมพาวเวอร์. เพิ่มพลังบวกไห้กัน.  ถ้าเจอจริงผมคงตะครุบเลยครับ5555.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่