หลังจากโควิดระบาดเราก็ไม่ได้นั่งเครื่องบินออกนอกประเทศเลย เลยต้องหาที่เที่ยวในประเทศ ไปเที่ยวพักผ่อนบ้าง สำหรับบ้านเราถ้าให้เลือกระหว่างทะเลกับภูเขา ทะเลก็ยังคงเป็นที่หนึ่งในใจเสมอ
ทริปนี้เลยเลือกมาทะเลทางใต้ดูบ้าง ก่อนหน้าไปหัวหิน พัทยา มาจนเบื่อแล้ว แต่ลงใต้มาหลายที แต่ยังไม่เคยได้แวะเวียนมาเที่ยวกระบี่ซักที และนี่คือครั้งแรกที่เราจะไปเที่ยวกระบี่ ทริปนี้กะไว้แล้วว่าไปเที่ยวแบบพักผ่อนจริงๆ นอนอยู่โรงแรม เล่นน้ำ ทำกิจกรรมภายในโรงแรม ไม่ออกไปไหนเยอะ เพื่อลดความเสี่ยงหลายๆ อย่าง เลยต้องเลือกโรงแรมที่มีครบ ให้เราสามารถอยู่โรงแรมได้อย่างมีความสุข ตลอด 4 วัน 3 คืน
Pimalai Resort & Spa เลยตอบโจทย์ที่สุด แอบดูรีวิวดาราหลายคนชอบมาที่นี่ ที่พักสวย บรรยากาศดี มีกิจกรรมให้เล่นเยอะ เลยต้องมาพิสูจน์หน่อย ค่าที่พักรวมไปถึงค่ารถรับส่งจากสนามบินมาโรงแรมด้วย ซึ่งสะดวกสบายมากที่ไม่ต้องหารถมาโรงแรมอีกที
เราเดินทางด้วยสายการบิน Thai Airasia จากสนามบินสุวรรณภูมิ เลือกสนามบินนี้เพราะว่าใกล้บ้านมากกว่า
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีก็ถึงที่สนามบินกระบี่
ทริปนี้ได้ลองชาไข่มุกของสายการบินนี้ด้วย ชาเข้มข้นดี แต่ถ้าคนไม่ชอบกินหวาน ก็จะออกหวานไปนิดนึง ไข่มุกหนึบๆดี
ถึงสนามบินแล้วก็จะมีพนักงานมาถือป้ายรอรับเลย แค่เราต้องแจ้งกับพนักงานไว้ ว่าเราจะมาถึงไฟล์ทอะไรถึงกี่โมง โรงแรมจะได้จัดรถมารับส่งได้ถูก
รถตู้คันนึง นั่ง 4-5 คน ไม่เบียดเสียดแน่นอน ยังสามารถมี Social distance ได้ พนักงานจะอธิบายก่อนเราขึ้นรถตู้ว่าจะใช้เวลาเดินทางนานเท่าไหร่ จากสนามบินเราต้องนั่งรถตู้ไปประมาณ 45 นาที จะไปถึง Pimalai Jetty ซึ่งจะเป็นท่าเรือส่วนตัวที่จะพาเราไปถึงเกาะลันตา แล้วต่อรถตู้อีก ประมาณ 40 นาที จะถึงโรงแรม เบ็ดเสร็จใช้เวลาจากสนามบินกระบี่ ถึงโรงแรมอีกประมาณ 2 ชั่วโมง
45 นาที รถตู้ก็พาเรามาถึง Pimalai Jetty ที่นี่จะมีห้องน้ำ ห้องรับรองให้เราได้นั่งพัก ก่อนที่จะขึ้นเรือข้ามไปที่เกาะลันตา
ใช้เวลานั่งเรือจากกระบี่ข้ามไปที่เกาะลันตาประมาณ 5 นาที
มาถึงเกาะลันตาก็จะมีรถตู้มาคอยรับอีกรอบ ใช้เวลา 40-45 นาที ก็ถึงโรงแรม ระหว่างทางสังเกตได้เลยว่าเกาะลันตาเวลาที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมันเงียบเหงาไปเยอะเลย ร้านค้า ร้านอาหารหลายๆ ร้านปิดตัวลงเพราะพิษของโควิด ส่วนที่ยังเปิดได้ ก็แทบจะไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ตอนนี้ก็คงจะเป็นคนไทยเนี่ยแหละ ที่ช่วยกันเที่ยวไทยด้วยกันเอง เพื่อประคับประคองกันไป
มาถึงโรงแรมแล้วก็มีมาตรการควบคุมที่ดี มีการวัดอุณภูมิก่อนที่จะเข้าไปในโรงแรม
Welcome drink เป็นน้ำตะไคร้เย็นๆ โรงแรมที่นี่เป็นโรงแรมที่รักษ์โลก พยายามลดการใช้พลาสติก จะเห็นได้จากมีการใช้ตะไคร้แทนการใช้หลอดพลาสติก หรือห้องในโรงแรมเอง แทบจะไม่มีถุงพลาสติกให้เห็นเลย นับเป็นเรื่องดี ที่หลายโรงแรมหันมาสนใจเรื่องนี้กันมากขึ้น ถ้าทุกทีช่วยกันลดปริมาณการใช้พลาสติก เราก็จะเห็นปริมาณขยะที่ก่อให้เกิดมลพิษน้อยลง
โรงแรมที่นี้แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซน Beachfront ที่ตั้งอยู่ใกล้ชายหาด สามารถเดินลงไปเล่นน้ำทะเลได้ง่าย และก็โซน Hillside สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หาดทรายที่นี่กว้างมาก เหมาะกับการเล่นกิจกรรมทางน้ำสุดๆ
ที่พักที่เราเลือกคือ Pool Villa Hillside ที่ต้องนั่งรถออกไป เด็กน้อยชอบมาก ได้นั่งรถบรรทุกเล็กๆขึ้นไปบนเขา ตื่นเต้นจนไม่ยอมนั่งกันเลยทีเดียว
ข้ามฝั่งถนนมาก็จะเข้าสู่โซน Pimalai Pool Villa
มาถึงแล้วที่พักของเรา Pool Villa Hillside กว้างมากจ้า กว้างเกินกว่าจะอยู่กันแค่ 3 คนพ่อแม่ลูก
ห้องจะแบ่งออกเป็น 2 โซน โดยมีสระว่ายน้ำเป็นตัวกั้น ด้านขวามือจะเป็นโซนห้องนอนที่กว้างมาก
มองออกไปจากปลายเตียงก็จะสามารถชมวิวทะเลได้เลย ชอบบรรยากาศมากมาย
สามารถที่จะแช่น้ำไปด้วยชมวิวไปด้วยได้เลย แต่สรุปคือมุมนี้ลูกมาเล่นน้ำต่อหลังจากขึ้นจากสระว่ายน้ำ แม่แทบไม่ได้แช่เลย
สระน้ำก็คือไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เอาเป็นว่ามีเด็กน้อยนี่คือได้ใช้สระน้ำคุ้มมาก ถ้าอยู่ห้องเมื่อไหร่ก็คือต้องกระโดดลงน้ำทันที
ขยับมาอีกฝั่งจะเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นห้องนั่งเล่นที่ใหญ่มาก สามารถเป็นห้องนอนได้อีกห้องเลย
ห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัว มีระเบียงออกไปด้านนอกให้เราสามารถนั่งเล่น ชั่งชมวิวได้ มีครัวพร้อมจานชาม ช้อนส้อมให้ได้
นอกจากสระว่ายน้ำที่อยู่ในห้องแล้ว ที่ฝั่งของ Pool Villa ยังมีมุมที่ถือว่าเป็น Land mark ของ Pimalai Resort
นั้นก็คือ Infinity pool ที่มองไปจะเห็นวิวภูเขาและทะเลสวยงามมาก ยิ่งตอนพระอาทิตย์ใกล้ๆตกดิน ไม่ควรพลาดมุมนี้เลย
ห้องอาหารเช้าของฝั่ง Pool Villa จะเป็นห้องอาหาร The Seven Seas บรรยากาศดี๊ดี
ไม่ใช่แค่ทานอาหารเช้านะ อาหารเย็นห้องอาหารนี้ก็เหมาะที่จะหนีลูกมานั่งสวีทมาก
กาแฟเช้าๆ กับบรรยากาศดีๆ นี่มันคือที่สุดจริงๆ อ่ะ หลอดอันนี้ก็เป็นหลอดแบบรักษ์โลกนะ
อาหารเช้าที่เรากินแล้วติดใจ ต้องกินทุกเช้าคือ Egg benedict อร่อยมาก
ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศจาก Infinity pool มาเป็นฝั่ง Beach front ก็จะชิลได้อีก
Kids’ Corner เหมาะสำหรับให้ลูกไปปล่อยพลังมาก เพราะว่าบางทีเล่นน้ำ เล่นทะเลทั้งวัน ก็ไม่ไหว แม่ก็คือผิวเปลี่ยนสีไปแล้ว ขอมาแวะพักผ่อนที่ Kids’ Corner ซักแปปนึงก็ยังดี
อยากออกกำลังกายก็มี Fitness พร้อมเครื่องเล่นแบบครบครัน รวมถึงคลาสมวยไทยให้ด้วย มาเที่ยวแล้วก็ออกกำลังกายได้
แม้ว่าจะเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ แต่สิ่งที่ที่นี่ยังคงรักษาไว้คือต้นไม้ และธรรมขาติ
ที่อยู่ร่วมกับสิ่งปลูกสร้างได้อย่างลงตัว จะเห็นได้จากความร่มรื่นตลอดทางที่เราเดินรอบโรงแรม
กิจกรรมภายในโรงแรม นอกจากจะเป็น Fitness มวยไทยแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมริมชายหาด แล้วก็กิจกรรมทางน้ำให้ได้เล่นกันแบบไม่มีเบื่อเลย มีน้องๆ พนักงานคอยแนะนำ คอยดูแลตลอดเวลา แต่ทางนี้ลูกเล็ก เลยได้แต่เล่นอยู่ริมหาด แค่นี้เด็กน้อยก็ฟินแล้ว
ไม่ได้เล่น แต่แต่งตัวจัดเต็มนะครับ บอกเลยว่าทริปนี้ตัวแห้งน้อยมาก เอ๊ะอ๊ะ ลงน้ำตลอดทั้งวัน
[CR] [Travelling As A Couple] ทริปพักผ่อนชิลๆ ที่กระบี่ ที่พักดีงาม Pimalai Resort &Spa
ทริปนี้เลยเลือกมาทะเลทางใต้ดูบ้าง ก่อนหน้าไปหัวหิน พัทยา มาจนเบื่อแล้ว แต่ลงใต้มาหลายที แต่ยังไม่เคยได้แวะเวียนมาเที่ยวกระบี่ซักที และนี่คือครั้งแรกที่เราจะไปเที่ยวกระบี่ ทริปนี้กะไว้แล้วว่าไปเที่ยวแบบพักผ่อนจริงๆ นอนอยู่โรงแรม เล่นน้ำ ทำกิจกรรมภายในโรงแรม ไม่ออกไปไหนเยอะ เพื่อลดความเสี่ยงหลายๆ อย่าง เลยต้องเลือกโรงแรมที่มีครบ ให้เราสามารถอยู่โรงแรมได้อย่างมีความสุข ตลอด 4 วัน 3 คืน
Pimalai Resort & Spa เลยตอบโจทย์ที่สุด แอบดูรีวิวดาราหลายคนชอบมาที่นี่ ที่พักสวย บรรยากาศดี มีกิจกรรมให้เล่นเยอะ เลยต้องมาพิสูจน์หน่อย ค่าที่พักรวมไปถึงค่ารถรับส่งจากสนามบินมาโรงแรมด้วย ซึ่งสะดวกสบายมากที่ไม่ต้องหารถมาโรงแรมอีกที
โรงแรมที่นี้แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซน Beachfront ที่ตั้งอยู่ใกล้ชายหาด สามารถเดินลงไปเล่นน้ำทะเลได้ง่าย และก็โซน Hillside สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หาดทรายที่นี่กว้างมาก เหมาะกับการเล่นกิจกรรมทางน้ำสุดๆ
ที่พักที่เราเลือกคือ Pool Villa Hillside ที่ต้องนั่งรถออกไป เด็กน้อยชอบมาก ได้นั่งรถบรรทุกเล็กๆขึ้นไปบนเขา ตื่นเต้นจนไม่ยอมนั่งกันเลยทีเดียว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้