รู้ไว้ใช่ว่า...การกรองอากาศกับการฟอกอากาศต่างกันอย่างไร?
เวลาเราไปซื้อเครื่องปรับอากาศ มักจะเจอคำเหล่านี้ “แอร์รุ่นนี้สามารถกรองอากาศได้” หรือ “แอร์รุ่นนี้ฟอกอากาศได้” เอาแล้วววว งงแล้ว ว่าจะฟอกหรือจะกรองดี เพราะอยากได้แอร์ที่ช่วยทำให้อากาศในห้องบริสุทธิ์ แล้วอย่างนี้เราจะต้องเลือกแบบไหนกันนะถึงจะตอบโจทย์เราที่สุด? แล้วเครื่องฟอกอากาศยังจะต้องซื้ออยู่ไหมเนี่ย? วันนี้เราจะมาคลายข้อสงสัยของทุกท่านให้กระจ่างกัน 💡
กรองอากาศกับฟอกอากาศต่างกันอย่างไร?
หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าการกรองอากาศและการฟอกอากาศต่างกันอย่างไร
“การกรองอากาศ” จะใช้เรียกการดักจับฝุ่นละอองประเภทที่ฝุ่นลอยเข้ามาติดแผ่นกรองอากาศ
“การฟอกอากาศ” จะใช้เรียกการกำจัดฝุ่นละอองด้วยการการปล่อยประจุไฟฟ้าออกมา
การกรองอากาศด้วยแผ่นกรอง (ฟิลเตอร์)
เครื่องปรับอากาศโดยส่วนใหญ่จะมีแผ่นกรองอากาศมาด้วยในตัวเครื่อง ทำหน้าที่ดักจับฝุ่นละอองในอากาศไม่ให้เข้าไปถึงคอยล์เย็นได้
ข้อจำกัดของแผ่นกรองอากาศคือมีอายุการใช้งานที่จำกัด เมื่อครบอายุการใช้งานแผ่นกรองอากาศจะเสื่อมสภาพลง ทำให้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นเมื่อครบอายุการใช้งานแล้วอย่าลืมที่จะเปลี่ยนแผ่นกรองเป็นแผ่นใหม่ด้วยล่ะ
การฟอกอากาศด้วยระบบฟอกอากาศ
ระบบฟอกอากาศจะอยู่ในเครื่องปรับอากาศเฉพาะรุ่น ไม่ได้มีอยู่ในเครื่องปรับอากาศทุกตัว เรียกได้ว่าเป็นฟังก์ชั่นเสริมที่เราต้องเลือกให้ดีก่อนที่จะซื้อเครื่องปรับอากาศ ระบบฟอกอากาศมีหลายแบบและมีชื่อเรียกต่างกันในแต่ละยี่ห้อ ทั้งนี้เราจะมาพูดถึงระบบฟอกอากาศที่น่าสนใจคือระบบฟอกอากาศด้วยการปล่อยประจุไฟฟ้า ว่ามีหลักการทำงานอย่างไรไปดูกันเลย!
ระบบฟอกอากาศด้วยการปล่อยประจุไฟฟ้า (Ionizer) จะปล่อยกระแสไฟฟ้าประจุลบ (Negative Ion) ออกมาจากตัวเครื่อง เพื่อให้ไปเกาะกับฝุ่นละออง อนุภาคขนาดเล็กมาก ไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายในอากาศ และลดสิ่งไม่พึงประสงค์ที่ลอยอยู่ในอากาศด้วยกรรมวิธีการสร้างโอโซน O-Zone (O3) ประจุลบในปริมาณที่เหมาะสมและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต
นอกจากการดักจับฝุ่นที่ได้กล่าวไป 2 แบบแล้วยังมีฟังก์ชั่นยิบย่อยของเครื่องปรับอากาศต่างๆ ในแต่ละยี่ห้อที่เป็นเทคโนโลยีในการช่วยลดการสะสมของฝุ่นละออง เชื้อรา หรือแแบคทีเรียที่จะเข้ามาในฝังในเครื่องปรับอากาศ ทั้งนี้อยากให้ผู้บริโภคอย่างเราไปเลือกกันเองได้เลยตามใจชอบ
แล้วอย่างนี้เครื่องฟอกอากาศยังจำเป็นอยู่ไหม?
เราต้องอย่าลืมหน้าที่หลักของเครื่องปรับอากาศคือซื้อมาเพื่อปรับอากาศให้เย็นสบาย ส่วนการฟอกอากาศหรือกรองอากาศจะเป็นผลพลอยได้เสียมากกว่า หากเอาไปเทียบกับเครื่องฟอกอากาศที่มีหน้าที่หลักคือการฟอกอากาศ
แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการใช้งานเป็นหลักและงบประมาณที่เราได้กำหนดไว้ หากคุณมีงบประมาณที่จำกัดก็ขอแนะนำให้เลือกเป็นเครื่องปรับอากาศที่มีฟังก์ชั่นในการช่วยฟอกฝุ่นไปด้วยเลย หรือหากใครมีเครื่องปรับอากาศอยู่แล้วก็ให้ซื้อเป็นเครื่องฟอกอากาศเสริมเข้าไป แต่ถ้าเงินเราถึงกระเป๋าเราหนักก็จัดไป 2 อย่างได้เล้ยยยย🤑🤑🤑
เคล็ดไม่ลับที่อยากบอกต่อ
อย่าลืมที่จะเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศอย่างน้อย 30 นาที ต่อวัน เพิ่งให้อากาศภายในห้องถ่ายเทนะ
หายงงกันแล้วใช่มั้ยล่ะ หากใครมีข้อสงสัย สามารถคอมเมนต์เข้ามาถามได้เลย แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า 🥰👋
รู้ไว้ใช่ว่า...การกรองอากาศกับการฟอกอากาศต่างกันอย่างไร?
เวลาเราไปซื้อเครื่องปรับอากาศ มักจะเจอคำเหล่านี้ “แอร์รุ่นนี้สามารถกรองอากาศได้” หรือ “แอร์รุ่นนี้ฟอกอากาศได้” เอาแล้วววว งงแล้ว ว่าจะฟอกหรือจะกรองดี เพราะอยากได้แอร์ที่ช่วยทำให้อากาศในห้องบริสุทธิ์ แล้วอย่างนี้เราจะต้องเลือกแบบไหนกันนะถึงจะตอบโจทย์เราที่สุด? แล้วเครื่องฟอกอากาศยังจะต้องซื้ออยู่ไหมเนี่ย? วันนี้เราจะมาคลายข้อสงสัยของทุกท่านให้กระจ่างกัน 💡
กรองอากาศกับฟอกอากาศต่างกันอย่างไร?
หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจว่าการกรองอากาศและการฟอกอากาศต่างกันอย่างไร
“การกรองอากาศ” จะใช้เรียกการดักจับฝุ่นละอองประเภทที่ฝุ่นลอยเข้ามาติดแผ่นกรองอากาศ
“การฟอกอากาศ” จะใช้เรียกการกำจัดฝุ่นละอองด้วยการการปล่อยประจุไฟฟ้าออกมา
การกรองอากาศด้วยแผ่นกรอง (ฟิลเตอร์)
เครื่องปรับอากาศโดยส่วนใหญ่จะมีแผ่นกรองอากาศมาด้วยในตัวเครื่อง ทำหน้าที่ดักจับฝุ่นละอองในอากาศไม่ให้เข้าไปถึงคอยล์เย็นได้
ข้อจำกัดของแผ่นกรองอากาศคือมีอายุการใช้งานที่จำกัด เมื่อครบอายุการใช้งานแผ่นกรองอากาศจะเสื่อมสภาพลง ทำให้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นเมื่อครบอายุการใช้งานแล้วอย่าลืมที่จะเปลี่ยนแผ่นกรองเป็นแผ่นใหม่ด้วยล่ะ
การฟอกอากาศด้วยระบบฟอกอากาศ
ระบบฟอกอากาศจะอยู่ในเครื่องปรับอากาศเฉพาะรุ่น ไม่ได้มีอยู่ในเครื่องปรับอากาศทุกตัว เรียกได้ว่าเป็นฟังก์ชั่นเสริมที่เราต้องเลือกให้ดีก่อนที่จะซื้อเครื่องปรับอากาศ ระบบฟอกอากาศมีหลายแบบและมีชื่อเรียกต่างกันในแต่ละยี่ห้อ ทั้งนี้เราจะมาพูดถึงระบบฟอกอากาศที่น่าสนใจคือระบบฟอกอากาศด้วยการปล่อยประจุไฟฟ้า ว่ามีหลักการทำงานอย่างไรไปดูกันเลย!
ระบบฟอกอากาศด้วยการปล่อยประจุไฟฟ้า (Ionizer) จะปล่อยกระแสไฟฟ้าประจุลบ (Negative Ion) ออกมาจากตัวเครื่อง เพื่อให้ไปเกาะกับฝุ่นละออง อนุภาคขนาดเล็กมาก ไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายในอากาศ และลดสิ่งไม่พึงประสงค์ที่ลอยอยู่ในอากาศด้วยกรรมวิธีการสร้างโอโซน O-Zone (O3) ประจุลบในปริมาณที่เหมาะสมและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต
นอกจากการดักจับฝุ่นที่ได้กล่าวไป 2 แบบแล้วยังมีฟังก์ชั่นยิบย่อยของเครื่องปรับอากาศต่างๆ ในแต่ละยี่ห้อที่เป็นเทคโนโลยีในการช่วยลดการสะสมของฝุ่นละออง เชื้อรา หรือแแบคทีเรียที่จะเข้ามาในฝังในเครื่องปรับอากาศ ทั้งนี้อยากให้ผู้บริโภคอย่างเราไปเลือกกันเองได้เลยตามใจชอบ
แล้วอย่างนี้เครื่องฟอกอากาศยังจำเป็นอยู่ไหม?
เราต้องอย่าลืมหน้าที่หลักของเครื่องปรับอากาศคือซื้อมาเพื่อปรับอากาศให้เย็นสบาย ส่วนการฟอกอากาศหรือกรองอากาศจะเป็นผลพลอยได้เสียมากกว่า หากเอาไปเทียบกับเครื่องฟอกอากาศที่มีหน้าที่หลักคือการฟอกอากาศ
แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการใช้งานเป็นหลักและงบประมาณที่เราได้กำหนดไว้ หากคุณมีงบประมาณที่จำกัดก็ขอแนะนำให้เลือกเป็นเครื่องปรับอากาศที่มีฟังก์ชั่นในการช่วยฟอกฝุ่นไปด้วยเลย หรือหากใครมีเครื่องปรับอากาศอยู่แล้วก็ให้ซื้อเป็นเครื่องฟอกอากาศเสริมเข้าไป แต่ถ้าเงินเราถึงกระเป๋าเราหนักก็จัดไป 2 อย่างได้เล้ยยยย🤑🤑🤑
เคล็ดไม่ลับที่อยากบอกต่อ
อย่าลืมที่จะเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศอย่างน้อย 30 นาที ต่อวัน เพิ่งให้อากาศภายในห้องถ่ายเทนะ
หายงงกันแล้วใช่มั้ยล่ะ หากใครมีข้อสงสัย สามารถคอมเมนต์เข้ามาถามได้เลย แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า 🥰👋