แปะในกระทู้ท่านอื่น เอามาแปะกระทู้ตัวเองอีกที
บังเอิญ วันที่ 22 เม.ย. 2563 มี Blueprint มีแผน
ขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการผลิต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับแผน Blueprint เพื่อการเข้าถึงวัดซีนป้องกันโควิด-19 ของประชาชนไทย ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2563 ซึ่งถือเป็นกรอบนโยบาย ในการบูรณาการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน โดยดำเนินงาน ตามยุทธศาสตร์สำคัญ 2 ด้าน ได้แก่ การนำวัคซีนต้นแบบที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศมาทดสอบ ในประเทศไทย และขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการผลิต ซึ่งเป็นเป้าหมายระยะสั้น และระยะกลาง
บังเอิญ เดือน พ.ค. 2563 ไปเริ่มเจรจากับ oxford
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่า...ก็ทราบว่าทางอ๊อกซ์ฟอร์ดกำลังทำเรื่องวัคซีนอยู่ สักช่วง พ.ค. น่าจะเริ่มคุยได้
2. เดือนพ.ค.63 SCG ต้องการต่อยอดเรื่องวัคซีน จึงติดต่อ ม.อ๊อกฟอร์ด สนใจเรื่องวัคซีน COVID
บังเอิญ ระหว่างเจรจาโรงงาน
เพิ่งสั่งเครื่องจักรเป็นรุ่นเดียวกับสายการผลิตของ แอสตร้าเซนเนก้า
บังเอิญ วันที่ 25 ส.ค. 2563 ครม.อนุมัติงบ 1,000 ล้านบาท อุดหนุนให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และโรงงานได้ไป 600 ล้านบาท อ้างอิงแผน Blueprint
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 1,000,000,000.- บาท ในลักษณะเงินอุดหนุนให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่อให้การสนับสนุนหน่วยงานเครือข่ายการพัฒนางานด้านวัคซีนของประเทศในการเพิ่มศักยภาพการผลิตวัคซีนให้พร้อมรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโควิด 19 และการสร้างขีดความสามารถของประเทศโดยการพัฒนาวัคซีนตั้งแต่ต้นน้ำ ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ
หลักการและเหตุผล
แผน Blueprint เพื่อการเข้าถึงวัคซีนป้องกัน COVID-19 ของประชาชนไทย ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 ซึ่งถือเป็นกรอบนโยบายในการบูรณาการประสานความร่วมมือหน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ในการบรรลุเป้าหมายการเข้าถึงวัคซีนให้ทันท่วงที และสร้างขีดความสามารถของประเทศในการพัฒนาและผลิตวัคซีน เพื่อให้ประชาชนไทยได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด โดยดำเนินงานตามยุทธศาสตร์สำคัญ 2 ด้าน ได้แก่ 1) การนำวัคซีนต้นแบบที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศมาทดสอบในประเทศไทย และขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการผลิต (เป้าหมายระยะสั้น และระยะกลาง) และ 2) พัฒนาวัคซีนต้นแบบในประเทศไทยตั้งแต่ต้นน้ำ (เป้าหมายระยะกลาง และระยะยาว)
บังเอิญ วันที่ 15 ตุลาคม 2563 สธ.และ3-4 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องลงนาม LOI
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้กระทรวงสาธารณสุข สยามไบโอไซเอนซ์ เอสซีจี และแอสตราเซนเนกา ในการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ในการผลิตและจัดสรรวัคซีนวิจัยป้องกันโควิด 19 ชนิด Adenoviral vector (AZD1222) ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 สรุป สั่งจองและซื้อวัคซีน โดยจ่ายมัดจำล่วงหน้า 2,379,430,600 บาท เงื่อนไขการมัดจำถ้าสำเร็จก็ได้ ไม่สำเร็จก็ฟรี
บังเอิญ 5 มกราคม 2564 ที่ประชุมครม.มีมติให้พิจารณาสั่งซื้อเพิ่มอีกจำนวน 35,000,000 โดส
บังเอิญ โชคดี
-------------------------------------------------------
แต่มีประเด็นใหม่ในการจัดหาวัคซีนตามมติที่ประชุมเพิ่มเข้ามาอีก
เพราะมีหลายคนพยามยามอธิบายเรื่อง
แทงม้าตัวเดียว
เนื้อหาในที่ประชุมครม. บางส่วนบอกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ 4.1 การจัดหาวัคซีนครอบคลุมประชากรไทยในปี 2564 จำนวน 33,000,000 คน คิดเป็นร้อยละ 50 ของประชากรทั้งประเทศ ประกอบด้วย
(1) การจัดหาวัคซีนจากการตกลงแบบทวิภาคี Bilateral Agreement (Advanced Market Commitment) กับบริษัท AstraZeneca จำกัด ร้อยละ 20 (จำนวน 26,000,000 โดส) และคาดว่าจะได้รับวัคซีนประมาณเดือนมิถุนายน 2564 (อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อให้ได้วัคซีนมาก่อนจำนวนหนึ่งในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564) ซึ่งที่ประชุมมีมติให้พิจารณาสั่งซื้อเพิ่มอีกจำนวน 35,000,000 โดส รวมเป็นจำนวนวัคซีนที่ประเทศไทยจัดหา จำนวน 61,000,000 โดส
(2) การจัดหาวัคซีนจากแหล่งอื่น ร้อยละ 10 กระทรวงสาธารณสุขได้เจรจากับบริษัท Sinovac Biotech จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนของประเทศจีนเพื่อจัดหาวัคซีนเร่งด่วนให้ได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2564 จำนวน 2,000,000 โดส ทั้งนี้ วัคซีนต้องได้รับอนุญาตขึ้นทะเบียนจากสถาบันอาหารและยา (อย.) ประเทศจีนก่อน โดยจะฉีดคนละ 2 โดส ระยะเวลาห่างกัน 1 เดือน วงเงินงบประมาณรวม 1,228,208,000 บาท
(3) การจัดหาวัคซีนจาก COVAX Facility ร้อยละ 20 ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาเงื่อนไขและเจรจาต่อรอง
==========================================================
อ่านผ่านๆ ก็ดูเหมือนเราไม่ได้ฝากการจัดซื้อวัคซีนไว้กับม้าตัวเดียว แต่...
33 ล้านคน คนละ 2 โดส ก็ 66 ล้านโดส
ข้อแรก การจัดหาวัคซีนจากการตกลงแบบทวิภาคี ร้อยละ 20
ที่เดียว 61 ล้านโดส? (26+35 ล้านโดส)
ข้อสอง หาวัคซีนจากแหล่งอื่น ร้อยละ 10 ซื้อ Sinovac 2 ล้านโดส (ที่ควรจะเป็น 6.6 ล้านโดส)
ข้อสาม หาวัคซีนจาก COVAX ร้อยละ 20 ซื้อ 0 โดส (ที่มีคุณหมอบางท่านออกมาบอกเหตุผลบางเรื่องแล้ว)
ที่เหลือ = 66-61-2 = 3 ล้านโดส เอาไปเติมข้อสองก็ยังเป็น 5 ล้านโดสจากที่ควรเป็น 6.6 ล้านโดส
ไม่ได้แทงม้าตัวเดียว??
ปล. คุณอนุทินมาอธิบายเพิ่มก็สงสัยอีก ว่า กฎหมายไทย ไม่อนุญาตให้ทำ...หน่วยงานของรัฐ ไม่สามารถทำสัญญาเช่นนั้นได้
แล้วที่นายกฯ ไปเป็นประธานในพิธีลงนามใน
สัญญาการจัดหาวัคซีนโควิด 19
โดยการจองล่วงหน้า ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และบริษัท แอสตราเซนเนก้า พวกเขาลงนามกันในเรื่องอะไร ทำสัญญาจองล่วงหน้าที่ไม่รับประกันว่าจะได้รับหรือไม่ได้รับวัคซีน ขึ้นอยู่กับผลวิจัย
และเหตุอื่นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้16. เรื่อง โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทย โดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอดังนี้
1. เห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับ ประชาชนไทยโดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca) และการจัดซื้อวัคซีนกับบริษัท AstraZeneca (Thailand) จำกัด และบริษัท AstraZeneca UK จำกัด ในวงเงิน 6,049,723,117.- บาท โดยให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติจัดทำสัญญาการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้า (Advance Market Commitment; AMC) ภายใต้เงื่อนไขว่ามีโอกาสที่จะได้รับวัคซีนหรือไม่ได้รับวัคซีนดังกล่าว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการวิจัยพัฒนาหรือเหตุอื่น ๆ ในวงเงิน 2,379,430,600 บาท และให้กรมควบคุมโรคจัดทำสัญญาในการจัดซื้อและบริหารจัดการวัคซีนที่ได้จากการจองล่วงหน้านั้น เมื่อคู่สัญญาสามารถจัดหาวัคซีนได้สำเร็จ (Purchase Agree For Supply of AZD1222 in Thailand; PA)) ในวงเงิน 3,670,292,517.- บาท โดยให้ดำเนินการจัดทำสัญญาทั้ง 2 ฉบับ เป็นสัญญาในโครงการที่เกี่ยวข้องแบบสัญญาเป็นชุด ตามเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ระบุในร่างสัญญา โดยให้จัดทำในคราวเดียวกัน โดยสัญญาจัดซื้อวัคซีนมีผลผูกพันเมื่อได้รับงบประมาณเรียบร้อยแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ ให้กรมควบคุมโรคจัดทำคำของบประมาณสำหรับการจัดซื้อวัคซีนตามสัญญาดังกล่าวต่อไป
ปล.2 ถ้าไม่ได้จองล่วงหน้าหรือขำระเงินมัดจำไปแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไม่ได้จ่ายเงินจอง แล้วเอาอะไรไปอ้าง เพื่อสิทธิพิเศษ คิวแรกๆ ในราคาพิเศษ
บังเอิญ โชคเข้าข้างเราตามที่เขาบอก กับมติในที่ประชุมครม.ในเรื่อง ไม่ได้แทงม้าตัวเดียว
บังเอิญ วันที่ 22 เม.ย. 2563 มี Blueprint มีแผน ขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการผลิต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บังเอิญ เดือน พ.ค. 2563 ไปเริ่มเจรจากับ oxford
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บังเอิญ ระหว่างเจรจาโรงงานเพิ่งสั่งเครื่องจักรเป็นรุ่นเดียวกับสายการผลิตของ แอสตร้าเซนเนก้า
บังเอิญ วันที่ 25 ส.ค. 2563 ครม.อนุมัติงบ 1,000 ล้านบาท อุดหนุนให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และโรงงานได้ไป 600 ล้านบาท อ้างอิงแผน Blueprint
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บังเอิญ วันที่ 15 ตุลาคม 2563 สธ.และ3-4 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องลงนาม LOI
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 สรุป สั่งจองและซื้อวัคซีน โดยจ่ายมัดจำล่วงหน้า 2,379,430,600 บาท เงื่อนไขการมัดจำถ้าสำเร็จก็ได้ ไม่สำเร็จก็ฟรี
บังเอิญ 5 มกราคม 2564 ที่ประชุมครม.มีมติให้พิจารณาสั่งซื้อเพิ่มอีกจำนวน 35,000,000 โดส
บังเอิญ โชคดี
-------------------------------------------------------
แต่มีประเด็นใหม่ในการจัดหาวัคซีนตามมติที่ประชุมเพิ่มเข้ามาอีก
เพราะมีหลายคนพยามยามอธิบายเรื่อง แทงม้าตัวเดียว
เนื้อหาในที่ประชุมครม. บางส่วนบอกว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
==========================================================
อ่านผ่านๆ ก็ดูเหมือนเราไม่ได้ฝากการจัดซื้อวัคซีนไว้กับม้าตัวเดียว แต่...
33 ล้านคน คนละ 2 โดส ก็ 66 ล้านโดส
ข้อแรก การจัดหาวัคซีนจากการตกลงแบบทวิภาคี ร้อยละ 20 ที่เดียว 61 ล้านโดส? (26+35 ล้านโดส)
ข้อสอง หาวัคซีนจากแหล่งอื่น ร้อยละ 10 ซื้อ Sinovac 2 ล้านโดส (ที่ควรจะเป็น 6.6 ล้านโดส)
ข้อสาม หาวัคซีนจาก COVAX ร้อยละ 20 ซื้อ 0 โดส (ที่มีคุณหมอบางท่านออกมาบอกเหตุผลบางเรื่องแล้ว)
ที่เหลือ = 66-61-2 = 3 ล้านโดส เอาไปเติมข้อสองก็ยังเป็น 5 ล้านโดสจากที่ควรเป็น 6.6 ล้านโดส
ไม่ได้แทงม้าตัวเดียว??
ปล. คุณอนุทินมาอธิบายเพิ่มก็สงสัยอีก ว่า กฎหมายไทย ไม่อนุญาตให้ทำ...หน่วยงานของรัฐ ไม่สามารถทำสัญญาเช่นนั้นได้
แล้วที่นายกฯ ไปเป็นประธานในพิธีลงนามในสัญญาการจัดหาวัคซีนโควิด 19 โดยการจองล่วงหน้า ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข และบริษัท แอสตราเซนเนก้า พวกเขาลงนามกันในเรื่องอะไร ทำสัญญาจองล่วงหน้าที่ไม่รับประกันว่าจะได้รับหรือไม่ได้รับวัคซีน ขึ้นอยู่กับผลวิจัย และเหตุอื่นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล.2 ถ้าไม่ได้จองล่วงหน้าหรือขำระเงินมัดจำไปแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้