โมรี เด็กหญิงบ้านนอก เดินทางเข้ากรุงเทพฯมาหางานทำหลังจากเรียนจบปริญญาตรี เธอได้งานเป็นเสมียนที่บริษัทเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ได้เงินเดือนหมื่นกว่าบาทถือว่าไม่น้อยเลยสำหรับเธอ
เธอพักอยู่กับน้าสาวซึ่งขายกับข้าวตามสั่งอยู่ที่บ้าน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องค่าที่พักอาศัย มีเจียดเงินบางส่วนส่งให้ที่บ้านต่างจังหวัดและเก็บเป็นเงินออม ความสุขในการใช้เงินของเธอคือการได้ท่องไปลิ้มชิมรสขนมหวานตามร้านต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ เมืองที่มีแต่ของอร่อยในวันสุดสัปดาห์คนเดียว
วันหนึ่งเธอได้เดินทางไปชิมขนมที่ร้านเบเกอรี่ชื่อดังแห่งหนึ่งข้างสถานีรถไฟฟ้า เลือกซื้อบราวนี่กับน้ำสตรอเบอรี่ปั่น และมีคุ๊กกี้เสี่ยงทายแถมมาให้หนึ่งอัน เธอจ่ายเงินแล้วหาที่นั่งสบาย ๆ ริมหน้าต่าง มีเพลงเปิดคลอพอได้ยิน
“คุ๊กกี้เสี่ยงทาย...” หญิงสาวพึมพำพร้อมกับค่อย ๆ ฉีกพลาสติกใสที่ห่อขนมชิ้นนี้ออก
“...ดึงดัน...” อ่านข้อความจากกระดาษสีขาวเล็ก ๆ ที่สอดอยู่ในคุ๊กกี้บางกรอบก้อนกลม พร้อมกับแปลกใจในคำทำนายนี้
หญิงสาวเก็บกระดาษชิ้นนี้ใส่กระเป๋าสตางค์ และทานขนมตรงหน้าจนหมดแล้วจึงเดินทางกลับบ้าน
และแล้วก็มาถึงวันหยุดอีกครั้งหนึ่งหลังจากวุ่นวายกับงานเอกสารที่บริษัทในวันทำงาน วันนี้เธอจะไปทานน้ำแข็งไสที่ร้านขนมหวานริมแม่น้ำในตอนเย็น
เมื่อไปถึง รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับแสงไฟที่ประดับร้านสีสันสวยงาม เธอเดินไปที่ประตูกระจกบานพับ มีป้ายสีน้ำเงินเขียนว่า ดึง เธอจึงจับที่ด้ามจับประตู ในขณะนั้นเอง มีผู้ชายคนหนึ่ง กำลังจะออกจากร้าน เขาจับที่ด้ามจับประตูที่มีป้ายเขียนว่า ดัน
หญิงสาวและชายหนุ่มทำตามข้อความบนประตูที่เขียนไว้พร้อมกันคือ ดึงดัน ทันใดนั้นเองก็เกิด ไฟฟ้าสถิต ไฟช๊อตทั้งสองคนพร้อมกัน ได้ยินเสียง “เปี้ยะ เปี้ยะ”
ทั้งสองคนรู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ รู้ได้ว่าโดนไฟช๊อตพร้อมกัน และได้มองหน้าสบตากันพอดี
“เจ็บไหมครับ” ฝ่ายชายหนุ่มเอ่ยถามก่อน
“นิดหน่อยค่ะ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวตอบไปตามความรู้สึก
“ผมเป็นเจ้าของร้านนี้ครับ เชิญเข้ามานั่งทานน้ำแข็งไสกันนะครับ” ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง สวมแว่นตา ใส่ผ้ากันเปื้อนสีขาว ชวนลูกค้าหน้าใหม่หน้าตาน่ารักให้เข้าไปในร้าน
หญิงสาวเดินเข้าไปที่หน้าเคาท์เตอร์ กวาดตามองเครื่องขนมต่าง ๆ ที่มีให้เลือกมากมาย
“ทับทิบกรอบ ลูกบัว เผือก ใส่น้ำแดง ค่ะ” หญิงสาวบอกชายหนุ่ม เมนูนี้เธอมักสั่งบ่อย ๆ เมื่อมีโอกาสทานน้ำแข็งไส
“ได้เลยครับผม เชิญหาโต๊ะนั่งตามสบายเลยนะครับ” ชายหนุ่มตักเครื่องขนมต่าง ๆ อย่างทะมัดทะแมง แล้วเดินไปเสริฟหญิงสาวที่นั่งอยู่โต๊ะมุมห้องหน้าร้าน
“ผมชื่อโนบินะครับ เชิญทานให้อร่อยเลยนะครับ” ชายหนุ่มกล่าวยิ้ม ๆ
หลังจากทานเสร็จหญิงสาวจึงลุกขึ้นแล้วเดินไปที่แคชเชียร์เพื่อจะชำระเงิน
ชายหนุ่มยื่นนามบัตรที่มีเบอร์โทรศัพท์ แทนใบเสร็จรับเงิน แล้วกล่าวว่า
“ผมขอเลี้ยงคุณครับ” หญิงสาวเขินก้มหน้ายิ้มแล้วรับนามบัตรมา
การทอดสะพานของชายหนุ่ม ไม่ทำให้เขาผิดหวัง เพราะหญิงสาวได้โทรกลับมาในเย็นวันนั้นเลย
คำทำนายของคุ๊กกี้เสี่ยงทายช่างน่าอัศจรรย์ หญิงสาวได้แต่งงานกับชายหนุ่มคนนี้ในที่สุด เธอได้เล่าเรื่องนี้ลงในเฟซบุ๊ก มีการแชร์เรื่องราวของเธอมากมาย บางทีเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ ก็อาจเป็นจริงได้ อยู่ที่ว่าคุณจะเชื่อหรือเปล่า
- จบค่ะ -
เรื่องสั้น : ...ดึงดัน...
เธอพักอยู่กับน้าสาวซึ่งขายกับข้าวตามสั่งอยู่ที่บ้าน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องค่าที่พักอาศัย มีเจียดเงินบางส่วนส่งให้ที่บ้านต่างจังหวัดและเก็บเป็นเงินออม ความสุขในการใช้เงินของเธอคือการได้ท่องไปลิ้มชิมรสขนมหวานตามร้านต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ เมืองที่มีแต่ของอร่อยในวันสุดสัปดาห์คนเดียว
วันหนึ่งเธอได้เดินทางไปชิมขนมที่ร้านเบเกอรี่ชื่อดังแห่งหนึ่งข้างสถานีรถไฟฟ้า เลือกซื้อบราวนี่กับน้ำสตรอเบอรี่ปั่น และมีคุ๊กกี้เสี่ยงทายแถมมาให้หนึ่งอัน เธอจ่ายเงินแล้วหาที่นั่งสบาย ๆ ริมหน้าต่าง มีเพลงเปิดคลอพอได้ยิน
“คุ๊กกี้เสี่ยงทาย...” หญิงสาวพึมพำพร้อมกับค่อย ๆ ฉีกพลาสติกใสที่ห่อขนมชิ้นนี้ออก
“...ดึงดัน...” อ่านข้อความจากกระดาษสีขาวเล็ก ๆ ที่สอดอยู่ในคุ๊กกี้บางกรอบก้อนกลม พร้อมกับแปลกใจในคำทำนายนี้
หญิงสาวเก็บกระดาษชิ้นนี้ใส่กระเป๋าสตางค์ และทานขนมตรงหน้าจนหมดแล้วจึงเดินทางกลับบ้าน
และแล้วก็มาถึงวันหยุดอีกครั้งหนึ่งหลังจากวุ่นวายกับงานเอกสารที่บริษัทในวันทำงาน วันนี้เธอจะไปทานน้ำแข็งไสที่ร้านขนมหวานริมแม่น้ำในตอนเย็น
เมื่อไปถึง รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับแสงไฟที่ประดับร้านสีสันสวยงาม เธอเดินไปที่ประตูกระจกบานพับ มีป้ายสีน้ำเงินเขียนว่า ดึง เธอจึงจับที่ด้ามจับประตู ในขณะนั้นเอง มีผู้ชายคนหนึ่ง กำลังจะออกจากร้าน เขาจับที่ด้ามจับประตูที่มีป้ายเขียนว่า ดัน
หญิงสาวและชายหนุ่มทำตามข้อความบนประตูที่เขียนไว้พร้อมกันคือ ดึงดัน ทันใดนั้นเองก็เกิด ไฟฟ้าสถิต ไฟช๊อตทั้งสองคนพร้อมกัน ได้ยินเสียง “เปี้ยะ เปี้ยะ”
ทั้งสองคนรู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ รู้ได้ว่าโดนไฟช๊อตพร้อมกัน และได้มองหน้าสบตากันพอดี
“เจ็บไหมครับ” ฝ่ายชายหนุ่มเอ่ยถามก่อน
“นิดหน่อยค่ะ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวตอบไปตามความรู้สึก
“ผมเป็นเจ้าของร้านนี้ครับ เชิญเข้ามานั่งทานน้ำแข็งไสกันนะครับ” ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง สวมแว่นตา ใส่ผ้ากันเปื้อนสีขาว ชวนลูกค้าหน้าใหม่หน้าตาน่ารักให้เข้าไปในร้าน
หญิงสาวเดินเข้าไปที่หน้าเคาท์เตอร์ กวาดตามองเครื่องขนมต่าง ๆ ที่มีให้เลือกมากมาย
“ทับทิบกรอบ ลูกบัว เผือก ใส่น้ำแดง ค่ะ” หญิงสาวบอกชายหนุ่ม เมนูนี้เธอมักสั่งบ่อย ๆ เมื่อมีโอกาสทานน้ำแข็งไส
“ได้เลยครับผม เชิญหาโต๊ะนั่งตามสบายเลยนะครับ” ชายหนุ่มตักเครื่องขนมต่าง ๆ อย่างทะมัดทะแมง แล้วเดินไปเสริฟหญิงสาวที่นั่งอยู่โต๊ะมุมห้องหน้าร้าน
“ผมชื่อโนบินะครับ เชิญทานให้อร่อยเลยนะครับ” ชายหนุ่มกล่าวยิ้ม ๆ
หลังจากทานเสร็จหญิงสาวจึงลุกขึ้นแล้วเดินไปที่แคชเชียร์เพื่อจะชำระเงิน
ชายหนุ่มยื่นนามบัตรที่มีเบอร์โทรศัพท์ แทนใบเสร็จรับเงิน แล้วกล่าวว่า
“ผมขอเลี้ยงคุณครับ” หญิงสาวเขินก้มหน้ายิ้มแล้วรับนามบัตรมา
การทอดสะพานของชายหนุ่ม ไม่ทำให้เขาผิดหวัง เพราะหญิงสาวได้โทรกลับมาในเย็นวันนั้นเลย
คำทำนายของคุ๊กกี้เสี่ยงทายช่างน่าอัศจรรย์ หญิงสาวได้แต่งงานกับชายหนุ่มคนนี้ในที่สุด เธอได้เล่าเรื่องนี้ลงในเฟซบุ๊ก มีการแชร์เรื่องราวของเธอมากมาย บางทีเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ ก็อาจเป็นจริงได้ อยู่ที่ว่าคุณจะเชื่อหรือเปล่า