🔴โควิดวันนี้ "หมอเบิร์ท" แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 187 ราย เสียชีวิต 2 ราย
วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โฆษก ศบค.) แถลงถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย จากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ว่า....✔
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มvราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 13,687 ราย หายป่วยแล้ว 10,662 ราย ยังรักษาใน รพ. 2,950 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 75 ราย
รายละเอียดผู้เสียชีวิต 2 ราย มีดังนี้...✔
ผู้เสียชีวิตรายที่ 74 ชายชาวอังกฤษ อายุ 61 ปี เดินทางมาจากอังกฤษ ถึงไทย 25 ธ.ค. และเข้ากักตัว มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ต่อมา 29 ธ.ค. ผลตรวจยืนยันพบเชื้อ หลังจากนั้น 30 ธ.ค. มีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น ผู้ป่วยปฏิเสธใช้ท่อช่วยหายใจ ต่อมาวันที่ 9 ม.ค. อาการหนักมากขึ้น ใส่ท่อช่วยหายใจ อาการยังคงแย่ลง และเสียชีวิตวันที่ 24 ม.ค.64
ผู้เสียชีวิตรายที่ 75 หญิงชาวไทย อายุ 56 ปี ชาวสมุทรสาคร โรคประจำตัวหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยไม่ได้ไปในพื้นที่เสี่ยง ใช้ชีวิตที่บ้าน แต่มีสามีเป็นผู้สัมผัสกับผู้ค้าอาหารทะเลที่ตลาดทะเลไทย ต่อมา 21 ม.ค. มีอาการแน่นหน้าอก หายใจเหนื่อยหอบ นำส่ง รพ. แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ มีภาวะหัวใจหยุดเต้น แพทย์ทำการกู้ชีพ ผู้ป่วยไม่ตอบสนองและเสียชีวิต ซึ่งทีมแพทย์สงสัยเนื่องจากมีประวัติเสี่ยงสัมผัส จึงเก็บตัวอย่างส่งตรวจ ผลออกวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา พบเชื้อโควิด
รายละเอียดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ วันที่ 25 ม.ค. 2564 จำนวน 187 ราย มีดังนี้..✔
1.ผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 61 ราย
2.ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 116 ราย
3.ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (State Quarantine) 10 ราย
https://www.sanook.com/news/8343858/
🔴สยามไบโอไซเอนซ์ เร่งผลิตวัคซีนโควิด-19
วันที่ 25 ม.ค. 2564 เวลา 12:22 น.
สยามไบโอไซเอนซ์ เร่งผลิตวัคซีนโควิด ตั้งเป้าเป็นฐานการผลิตวัคซีนโควิด-19 แห่งภูมิภาคอาเซียน
นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด กล่าวว่า สยามไบโอไซเอนซ์มีความภาคภูมิใจที่ได้รับเลือกจากแอสตร้าเซเนก้าให้เป็นฐานการผลิตวัคซีน ป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ที่ตรงตามมาตรฐานระดับโลก ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ของสยามไบโอไซเอนซ์ทุกคน เร่งทำงานแข่งกับเวลา โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ตัดสินใจปรับแผนการผลิตยาชีววัตถุเดิม โดยทุ่มสรรพกำลัง ในการผลิตวัคซีนที่ได้ตรงตามมาตรฐานของแอสตร้าเซเนก้าในเวลารวดเร็วที่สุดเพื่อที่ชีวิตความเป็นอยู่ของ คนในชาติ เศรษฐกิจไทย รวมถึงประชาชนและเศรษฐกิจระดับภูมิภาค จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ดังปณิธานของบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ที่มุ่งมั่นที่จะทำให้คนไทยและทั่วโลกมีวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
นางนวลพรรณ กล่าวว่า บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด บริษัทผู้ผลิตยาชีววัตถุแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2552 ตามพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพของคนไทย ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ผลิตได้แก่ยารักษาโรคชีววัตถุอาทิ ยาเพิ่มเม็ดเลือดแดงให้กับผู้ป่วยที่มีอาการไตวายเรื้อรัง และยาเพิ่มเม็ดเลือดขาว ให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด โดยยาทั้ง 2 ตัวผลิตด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ ชั้นสูง สามารถบำบัดรักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศไทยลดการพึ่งพายาจากต่างชาติ ช่วยสร้างความมั่นคงให้กับระบบสาธารณสุขของประเทศอย่างยั่งยืนและด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับโลก ของโรงงาน บริษัทฯ จึงได้รับการรับรองมาตรฐานสากล PIC/S GMP, ISO9001, ISO17025 และ ISO13485 อีกทั้งได้รับ ความไว้วางใจให้เป็นผู้ผลิตยาและชุดตรวจโรค ให้แก่องค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 ที่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัดได้ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พัฒนาและผลิต ชุดตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบ RT-PCR ซึ่งเป็นวิธีตรวจวินิจฉัยโรคตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) และได้มอบให้หน่วยงานราชการใช้ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยในประเทศมากกว่า 100,000 ชุด
ก้าวสำคัญต่อมาคือ การผลิตวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และบริษัทแอสตร้าเซเนก้า ผู้ผลิตชีวภัณฑ์ชั้นนำของโลก
ในเดือนตุลาคม 2563 บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ , บริษัท เอสซีจี , แอสตร้าเซเนก้า และกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงในความร่วมมือเพื่อที่จะให้วัคซีนนี้ได้มีใช้อย่างแพร่หลายในภูมิภาคอาเซียน จากหนังสือแสดงเจตจำนงดังกล่าว ได้นำไปสู่สัญญารับจ้างผลิตระหว่าง แอสตร้าเซเนก้า และสยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งสัญญานี้แสดงให้เห็นว่า สยามไบโอไซเอนซ์ เป็นบริษัทที่มีความสามารถทางเทคโนโลยีชั้นสูง สามารถดำเนินการผลิตได้อย่างมีคุณภาพและมาตรฐานสากล จากการถ่ายทอดเทคโนโลยีของแอสตร้าเซเนก้า ส่งผลให้สยามไบโอไซเอนซ์ เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย การผลิตวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้า ที่มีมากกว่า 20 แห่งทั่วโลก สำหรับวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้าใช้เทคโนโลยีในการผลิตใกล้เคียงกับ การผลิตยาชีววัตถุจากเซลล์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งสยามไบโอไซเอนซ์ มีประสบการณ์ในการผลิตยา ชีววัตถุด้วยเทคโนโลยีนี้ และมีผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดแล้วทั้งในประเทศ และส่งออก โรงงานของสยามไบโอไซเอนซ์ ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากล มีศักยภาพที่จะรองรับการผลิตวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้าได้ทุกขั้นตอน และเป็นโรงงานทีใช้เทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สามารถรองรับการขยายกำลังการผลิตได้ในอนาคต
สยามไบโอไซเอนซ์จึงเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 โดยสยามไบโอไซเอนซ์ได้ดำเนินการผลิตวัคซีนโดยยึดนโยบายไม่กำไร ไม่ขาดทุน หรือ no profit, no loss ในช่วงที่มีการระบาดนี้ ซึ่งเป็นนโยบายเดียวกันกับของแอสตร้าเซเนก้า
ภารกิจผลิตวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข จำนวนเงินประมาณ 600 ล้านบาท และจากบริษัท เอสซีจี 100 ล้านบาท เพื่อต่อยอด ศักยภาพของโรงงานให้มีความพร้อมในการผลิตวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด เมื่อผลิตวัคซีนได้สำเร็จ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จะสั่งซื้อวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 จากแอสตร้าเซเนก้า เป็นมูลค่าเท่ากับ จำนวนเงินทุนที่ได้รับ เพื่อส่งมอบให้กับรัฐบาลในการดูแลสุขภาพของคนไทยต่อไป
https://www.posttoday.com/social/general/643579
วัคซีนใกล้เข้ามาแล้ว สู้ๆค่ะ
🔴มาลาริน/25 ม.ค.ไทบพบโควิด 187ราย เสียชีวิต 2ราย/สยามไบโอไซเอนซ์ ตั้งเป้าเป็นฐานการผลิตแห่งภูมิภาคอาเซียน
วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โฆษก ศบค.) แถลงถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย จากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ว่า....✔
ล่าสุด สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มvราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 13,687 ราย หายป่วยแล้ว 10,662 ราย ยังรักษาใน รพ. 2,950 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 75 ราย
รายละเอียดผู้เสียชีวิต 2 ราย มีดังนี้...✔
ผู้เสียชีวิตรายที่ 74 ชายชาวอังกฤษ อายุ 61 ปี เดินทางมาจากอังกฤษ ถึงไทย 25 ธ.ค. และเข้ากักตัว มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ต่อมา 29 ธ.ค. ผลตรวจยืนยันพบเชื้อ หลังจากนั้น 30 ธ.ค. มีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น ผู้ป่วยปฏิเสธใช้ท่อช่วยหายใจ ต่อมาวันที่ 9 ม.ค. อาการหนักมากขึ้น ใส่ท่อช่วยหายใจ อาการยังคงแย่ลง และเสียชีวิตวันที่ 24 ม.ค.64
ผู้เสียชีวิตรายที่ 75 หญิงชาวไทย อายุ 56 ปี ชาวสมุทรสาคร โรคประจำตัวหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยไม่ได้ไปในพื้นที่เสี่ยง ใช้ชีวิตที่บ้าน แต่มีสามีเป็นผู้สัมผัสกับผู้ค้าอาหารทะเลที่ตลาดทะเลไทย ต่อมา 21 ม.ค. มีอาการแน่นหน้าอก หายใจเหนื่อยหอบ นำส่ง รพ. แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ มีภาวะหัวใจหยุดเต้น แพทย์ทำการกู้ชีพ ผู้ป่วยไม่ตอบสนองและเสียชีวิต ซึ่งทีมแพทย์สงสัยเนื่องจากมีประวัติเสี่ยงสัมผัส จึงเก็บตัวอย่างส่งตรวจ ผลออกวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา พบเชื้อโควิด
รายละเอียดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ วันที่ 25 ม.ค. 2564 จำนวน 187 ราย มีดังนี้..✔
1.ผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 61 ราย
2.ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 116 ราย
3.ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (State Quarantine) 10 ราย
https://www.sanook.com/news/8343858/
🔴สยามไบโอไซเอนซ์ เร่งผลิตวัคซีนโควิด-19
วันที่ 25 ม.ค. 2564 เวลา 12:22 น.
สยามไบโอไซเอนซ์ เร่งผลิตวัคซีนโควิด ตั้งเป้าเป็นฐานการผลิตวัคซีนโควิด-19 แห่งภูมิภาคอาเซียน
นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด กล่าวว่า สยามไบโอไซเอนซ์มีความภาคภูมิใจที่ได้รับเลือกจากแอสตร้าเซเนก้าให้เป็นฐานการผลิตวัคซีน ป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ที่ตรงตามมาตรฐานระดับโลก ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ของสยามไบโอไซเอนซ์ทุกคน เร่งทำงานแข่งกับเวลา โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ตัดสินใจปรับแผนการผลิตยาชีววัตถุเดิม โดยทุ่มสรรพกำลัง ในการผลิตวัคซีนที่ได้ตรงตามมาตรฐานของแอสตร้าเซเนก้าในเวลารวดเร็วที่สุดเพื่อที่ชีวิตความเป็นอยู่ของ คนในชาติ เศรษฐกิจไทย รวมถึงประชาชนและเศรษฐกิจระดับภูมิภาค จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ดังปณิธานของบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ที่มุ่งมั่นที่จะทำให้คนไทยและทั่วโลกมีวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
นางนวลพรรณ กล่าวว่า บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด บริษัทผู้ผลิตยาชีววัตถุแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2552 ตามพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพของคนไทย ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ผลิตได้แก่ยารักษาโรคชีววัตถุอาทิ ยาเพิ่มเม็ดเลือดแดงให้กับผู้ป่วยที่มีอาการไตวายเรื้อรัง และยาเพิ่มเม็ดเลือดขาว ให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด โดยยาทั้ง 2 ตัวผลิตด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ ชั้นสูง สามารถบำบัดรักษาโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศไทยลดการพึ่งพายาจากต่างชาติ ช่วยสร้างความมั่นคงให้กับระบบสาธารณสุขของประเทศอย่างยั่งยืนและด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับโลก ของโรงงาน บริษัทฯ จึงได้รับการรับรองมาตรฐานสากล PIC/S GMP, ISO9001, ISO17025 และ ISO13485 อีกทั้งได้รับ ความไว้วางใจให้เป็นผู้ผลิตยาและชุดตรวจโรค ให้แก่องค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 ที่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัดได้ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พัฒนาและผลิต ชุดตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบ RT-PCR ซึ่งเป็นวิธีตรวจวินิจฉัยโรคตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO) และได้มอบให้หน่วยงานราชการใช้ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยในประเทศมากกว่า 100,000 ชุด
ก้าวสำคัญต่อมาคือ การผลิตวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และบริษัทแอสตร้าเซเนก้า ผู้ผลิตชีวภัณฑ์ชั้นนำของโลก
ในเดือนตุลาคม 2563 บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ , บริษัท เอสซีจี , แอสตร้าเซเนก้า และกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงในความร่วมมือเพื่อที่จะให้วัคซีนนี้ได้มีใช้อย่างแพร่หลายในภูมิภาคอาเซียน จากหนังสือแสดงเจตจำนงดังกล่าว ได้นำไปสู่สัญญารับจ้างผลิตระหว่าง แอสตร้าเซเนก้า และสยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งสัญญานี้แสดงให้เห็นว่า สยามไบโอไซเอนซ์ เป็นบริษัทที่มีความสามารถทางเทคโนโลยีชั้นสูง สามารถดำเนินการผลิตได้อย่างมีคุณภาพและมาตรฐานสากล จากการถ่ายทอดเทคโนโลยีของแอสตร้าเซเนก้า ส่งผลให้สยามไบโอไซเอนซ์ เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย การผลิตวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้า ที่มีมากกว่า 20 แห่งทั่วโลก สำหรับวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้าใช้เทคโนโลยีในการผลิตใกล้เคียงกับ การผลิตยาชีววัตถุจากเซลล์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งสยามไบโอไซเอนซ์ มีประสบการณ์ในการผลิตยา ชีววัตถุด้วยเทคโนโลยีนี้ และมีผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดแล้วทั้งในประเทศ และส่งออก โรงงานของสยามไบโอไซเอนซ์ ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากล มีศักยภาพที่จะรองรับการผลิตวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้าได้ทุกขั้นตอน และเป็นโรงงานทีใช้เทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สามารถรองรับการขยายกำลังการผลิตได้ในอนาคต
สยามไบโอไซเอนซ์จึงเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 โดยสยามไบโอไซเอนซ์ได้ดำเนินการผลิตวัคซีนโดยยึดนโยบายไม่กำไร ไม่ขาดทุน หรือ no profit, no loss ในช่วงที่มีการระบาดนี้ ซึ่งเป็นนโยบายเดียวกันกับของแอสตร้าเซเนก้า
ภารกิจผลิตวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข จำนวนเงินประมาณ 600 ล้านบาท และจากบริษัท เอสซีจี 100 ล้านบาท เพื่อต่อยอด ศักยภาพของโรงงานให้มีความพร้อมในการผลิตวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด เมื่อผลิตวัคซีนได้สำเร็จ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จะสั่งซื้อวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 จากแอสตร้าเซเนก้า เป็นมูลค่าเท่ากับ จำนวนเงินทุนที่ได้รับ เพื่อส่งมอบให้กับรัฐบาลในการดูแลสุขภาพของคนไทยต่อไป
https://www.posttoday.com/social/general/643579
วัคซีนใกล้เข้ามาแล้ว สู้ๆค่ะ