🔴ไทยพบป่วยโควิด-19 เพิ่ม 198 ราย ติดเชื้อในประเทศ 191 มาจากนอก 7 เสียชีวิต 1 เป็นหญิงสูงอายุในสมุทรสาคร



ศบค. เผยไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 198 ราย ติดเชื้อในประเทศ 191 ราย มาจากต่างประเทศ 7 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 13,500 ราย  เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงอายุ 73 ปี ใน จ.สมุทรสาคร

วันนี้ (24 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า...🔻

วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 198 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 191 ราย แบ่งเป็นตรวจพบในระบบเฝ้าระวังและบริการ 118 ราย และผู้ติดเชื้อจากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 73 ราย กลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค (Quarantine) 6 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศถูกตรวจพบเชื้อ ณ จุดคัดกรอง 1 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงอายุ 73 ปี ใน จ.สมุทรสาคร มีโรคประจำตัวหลายดรค และสัมผัสผู้ติดเชื้อก่อนหน้า 

ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยรวมสะสม 13,500 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 11,136 ราย จากการคัดกรองเชิงรุก 4,568 ราย รักษาหายแล้ว 10,567 ราย เหลือรักษาอยู่ 2,860 ราย และผู้เสียชีวิตสะสม 73 ราย นับเฉพาะผู้ติดเชื้อในการระบาดรอบใหม่ สะสมที่ 9,263 ราย เสียชีวิตสะสม 13 ราย



https://mgronline.com/qol/detail/9640000007141

นายกฯ ขอเอกชนนำเข้าวัคซีน COVID-19 ขึ้นทะเบียน อย.ให้ถูกต้อง



✔นายกรัฐมนตรีให้เอกชนสามารถนำเข้าวัคซีน COVID-19 ได้ ขอให้ยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนวัคซีนกับทาง อย.ให้ถูกต้อง พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทุ่มเทยับยั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา

วันนี้ (24 ม.ค.2564) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายให้เอกชนสามารถนำเข้าวัคซีน COVID-19 ได้ โดยขอให้ยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนวัคซีนกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ถูกต้อง

ทั้งนี้ อย.จะพิจารณาตรวจสอบวัคซีนที่จะขอนำเข้ามาใช้ในประเทศไทย ซึ่งจะต้องได้รับการประเมินก่อนนำไปใช้จริง โดยทาง อย.จะประเมินทั้งในด้านคุณภาพ ด้านความปลอดภัย และด้านประสิทธิผลของวัคซีนว่าเหมาะสมกับคนไทย โดยผู้ที่ต้องการขึ้นทะเบียนจะต้องแสดงข้อมูลเอกสารหลักฐาน เพื่อประเมินคุณสมบัติของวัคซีนทั้ง 3 ด้านดังกล่าว

นอกจากนี้ อย. ได้ปรับการทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียนวัคซีน COVID-19 อย่างเต็มที่ ด้วยการระดมเพิ่มผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและภายนอกมาร่วมพิจารณา เพื่อให้สามารถอนุมัติวัคซีนได้โดยเร็วที่สุด แต่ยังคงไม่สามารถผ่อนคลายกฎเกณฑ์หรือลดหย่อนการกำกับดูแล เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณและเป็นกำลังให้คณะแพทย์ เจ้าหน้าที่ บุคลากรสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ตลอดจนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการทำงานอย่างหนัก เพื่อป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา หลังจากเกิดกรณีพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 จำนวนมาก ที่ตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2563 ซึ่งหลายภาคส่วนได้เสียสละทำงานอย่างไม่มีวันหยุด เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว

“ขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนได้ทำหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะควบสถานการณ์ได้ทั้งหมด และการติดเชื้ออยู่ในเกณฑ์ต่ำ ซึ่งปัจจุบันสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้วในหลายจังหวัด”

นายกรัฐมนตรี ยังฝากให้ทุกคนทำงานด้วยความระวัดระวัง อย่าประมาท เน้นความปลอดภัยทั้งตนเองและส่วนรวม รัฐบาลพร้อมสนับสนุนปัจจัยด้านต่างๆอย่างเต็มที่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน

https://news.thaipbs.or.th/content/300654

🔴ผงะ! พบชาวอเมริกันตายไม่กี่ชั่วโมง หลังฉีดวัคซีนโควิด-19



เว็บไซต์ฟ็อกซ์นิวส์ เว็บไซต์ข่าวของเครือข่ายโทรทัศน์ฟ็อกซ์ของสหรัฐอเมริกา รายงานเมื่อวันที่ 24 มกราคมว่า ชาวอเมริกันที่พำนักอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียรายหนึ่ง ซึ่งเพิ่งถูกตรวจสอบพบว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และเข้ารับการฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 21 มกราคมนี้ เสียชีวิตลงหลังได้รับการฉีดวัคซีนเพียงไม่กี่ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม สำนักงานนายอำเภอเพลเซอร์เคาน์ตี ซึ่งยืนยันการเสียชีวิตดังกล่าวนี้ ระบุว่า ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้ได้แน่ชัด โดยที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับรัฐ และหน่วยงานระดับประเทศกำลังสอบสวนกรณีนี้อย่างเร่งรีบ ดังนั้นข้อสรุปใดๆ ในตอนนี้จึงเป็นข้อสันนิษฐานทั้งหมด
 
ฟ็อกซ์นิวส์ ระบุด้วยว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ผู้ตายได้รับวัคซีนของไฟเซอร์ หรือของโมเดอร์นา อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เคยปรากฏมีหลายรายแสดงอาการแพ้วัคซีน แม้ว่าอาการแพ้รุนแรงยังหายากอย่างมากก็ตาม และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นางเอริกา เอส. แพน นักระบาดวิทยาแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียก็เคยเสนอให้ยุติการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาที่ผลิตออกมาล็อตหนึ่ง เนื่องจากก่อให้เกิดอาการแพ้รุนแรงในผู้รับวัคซีนเกือบ 10 ราย
 
ด้านสำนักงานสาธารณสุขแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียยังคงยืนยันว่า อาการแพ้รุนแรง หรือแอนาฟีแลกซิส ที่อาจถึงแก่ชีวิต นั้นเกิดขึ้นได้ยากมาก ที่อัตรา 1 ต่อ 100,000 คนเท่านั้น

https://www.matichon.co.th/foreign/news_2544870

🔴อนุทิน ปฏิเสธเปิดสัญญาซื้อวัคซีนโควิด ชี้เป็นเรื่องเอกชน อัด ธนาธร เสนอข้อมูลไม่จริง


“อนุทิน” เมินเปิดเผยสัญญาจัดซื้อวัคซีนโควิดระหว่าง แอสตร้าเซนเนก้า กับ สยามไบโอไซเอนซ์ - อัดข้อมูล “ธนาธร” ไร้ความจริง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงข้อกล่าวหาการจัดซื้อวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยยืนยันว่า การดำเนินการไม่ได้ล่าช้ากว่าประเทศอื่น แต่ต้องยึดหลักความปลอดภัย และคุณภาพของวัคซีน ซึ่งการจัดซื้อมีขั้นตอน ไม่ใช่สั่งซื้อแล้วจะได้ของทันที อีกทั้งการจัดซื้อวัคซีนยังติดเงื่อนไขของ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง ที่การจ่ายเงินซื้อจะต้องมีสินค้าอยู่จริง ซึ่งแตกต่างกับบางประเทศที่ยอมเสี่ยงจ่ายเงินไปก่อน โดยยังไม่ทราบว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะหากเกิดความเสียหาย เงินที่จ่ายไปก็จะสูญเปล่า
 
ส่วนกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เรียกร้องให้เปิดสัญญาการจัดซื้อวัคซีนโควิด ที่ทำกับบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำกัด กับ สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด นั้น เห็นว่าไม่สามารถทำได้เนื่องจากคู่สัญญาเป็นเอกชนทั้งคู่ และอยู่เหนือการควบคุมของรัฐ ยืนยันไม่ใช่วัคซีนผูกขาดเพราะมีการเจรจาซื้อหลายบริษัท ซึ่งเรื่องวัคซีนคนที่รู้ดีที่สุดคือหมอและคณะกรรมการวิชาการที่ตั้งขึ้นมาศึกษาการใช้วัคซีนโดยเฉพาะ รัฐมนตรีมีหน้าที่เห็นชอบตามที่คณะกรรมการวิชาการเสนอเรื่องมา ซึ่งข้อมูลที่นายธนาธรนำมาเปิดเผยปราศจากข้อเท็จจริง

นายอนุทิน ยังเปิดเผยถึงกรณีที่ไม่มีบริษัทผลิตวัคซีนอื่นมาขอจดทะเบียนกับ อย. ไทย ว่า เราไม่ได้ปิดกั้น แต่การจดทะเบียนช่วงนี้เป็นการใช้ตามสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EUA ไม่ใช่การจดทะเบียนเพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์ พร้อมย้ำถึงนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่เพียงกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น

https://www.sanook.com/news/8343710/

ใช้ชีวิตวิถีใหม่ ใส่หน้ากากอนามัยจนชินแล้วนะคะ

ระมัดระวังในเรื่องระยะห่างและไปในที่แออัดด้วยค่ะ