🥀มาลาริน/ชัดเจนนะคะ...สธ.ยันเจรจา "โคแวกซ์" แต่ไม่เข้าเงื่อนไขให้ ปท.ยากจน

โคมาวอ สธ.ยันเจรจา "โคแวกซ์" แต่ไม่เข้าเงื่อนไขให้ ปท.ยากจน

สธ.ยันไม่เคยทิ้งความหวังได้วัคซีนจาก “โคแวกซ์” ยันเจรจาตั้งแต่ต้น แต่ไม่เข้าเงื่อนไขของโครงการให้ ปท.ยากจน ส่วนไทยถูกจัดระดับปานกลาง

อาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2564 เวลา 17.25 น.



เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขไม่ยอมเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ ซึ่งเป็นโครงการขององค์การอนามัยโลก ในการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า ตนขอชี้แจงว่าในการจัดหาวัคซีนมีการวางแผนเข้าร่วมกับโครงการโคแวกซ์ด้วยตั้งแต่แรก แต่ในการเจรจานั้นโครงการนี้เป็นโครงการที่ให้วัคซีนฟรีกับประเทศยากจน ซึ่งทางโครงการจัดประเทศไทยอยู่ในประเทศรายได้ปานกลาง จึงไม่ได้รับตรงนี้ 

แต่หากจะเข้าร่วมก็ต้องนำเงินไปร่วมลงขันในการจัดหาวัคซีนซึ่งในขณะนั้นทางโครงการก็ยังไม่ได้ระบุว่าจะเอาวัคซีนตัวไหน และขณะนั้นก็ยังไม่มีวัคซีนตัวใดที่มีความคืบหน้ามาก เพียงแต่บอกให้ไทยเอาเงินไปร่วมลงขัน เมื่อได้มาแล้วก็จะได้วัคซีนในรูปแบบของการซื้อในราคาตามปกติ ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่ได้เงินคืน จึงเป็นเรื่องยากในการที่จะเอาเงินไปลงตรงนั้น
 
“อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ทิ้งเรื่องของการเจรจาในโครงการโคแวกซ์ ซึ่งขณะนี้วัคซีนเริ่มทยอยออกมา เราคุยกันอยู่เรื่อยๆ ในเรื่องข้อมูลต่างๆ อาจจะสามารถแบ่งให้ประเทศไทยซื้อได้หรือไม่ในราคาต้นทุน หรือราคาถูก แต่ประเทศไทยไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับวัคซีนฟรีอยู่แล้ว” นพ.โอภาส กล่าว

อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/politics/821075

จากนี้ไทยคงต้องซื้ออย่างเดียวค่ะ

เพราะไม่อยู่ในฐานะประเทศยากจน

คนไทยบางส่วนที่อยากจน และว่าคนไทยจะอดตายทุกข์ยากตายแสนสาหัสนั้น

ก็รับทราบไว้นะคะ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 24 มกราคม​ 2564 เวลา 11.30 น.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประจำวันที่ 24 มกราคม​ 2564 เวลา 11.30 น.

แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 24 มกราคม​ 2564 เวลา 15.00 น.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ​ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 24 มกราคม​ 2564 เวลา 15.00 น.


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2564
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/255649449386720


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19
ณ วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2564

ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 13,500 ราย(เพิ่มขึ้น 198 ราย)
-เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้น 118 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อที่กลับจากต่างประเทศในState quarantineเพิ่มขึ้น 6 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 73 ราย(ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 4,568 ราย)

เสียชีวิตรวม 73 ราย (วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 10,567 ราย(78.27%) (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 119 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 2,860 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ 118 ราย มีรายละเอียดดังนี้จาก สมุทรสาคร(76) กรุงเทพมหานคร(21) นนทบุรี(1)  สมุทรสงคราม(7) ราชบุรี(1) สมุทรปราการ(12)  

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 6 ราย และเข้า State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพ(3) ชลบุรี(2) และยะลา(1) มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศเบลเยียม 1 ราย
- จากประเทศมาเลเซีย 1 ราย
- จากประเทศบาห์เรน 1 ราย
- จากประเทศฝรั่งเศส 2 ราย
- จากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย

สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 99 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 2 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 2.1 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 71 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ71.9)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 172,913 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 427,635 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 10.6 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,891 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 10 ล้านราย  คิดเป็นร้อยละ 96
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 126 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 151 ของโลก

สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 137,098ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 462 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 3,045ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 180,455 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ อยู่ที่ 4,275  ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 456 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 0 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 41 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 0 ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 0 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 35 ราย

ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/3489575844501296


อินโดนีเซียจะให้วัคซีนโควิด-19 ให้ประชากรวัยทำงาน อายุ 18 - 59 ปี เป็นกลุ่มแรก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชาชนวัยทำงานจำนวนมากตกงาน ส่งผลให้เศรษฐกิจอินโดนีเซียถดถอยครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษ ส่วนประชากรกลุ่มที่ 2 ที่จะได้รับวัคซีน คือ ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป

สำหรับวัคซีนของ Sinovac เป็นวัคซีนส่วนใหญ่ที่จะฉีดให้ประชากรชาวอินโดนีเซีย กว่า 181 ล้านคน

ตั้งแต่ มี.ค. 63 - ปัจจุบัน อินโดนีเซียมีผู้ติดเชื้อกว่า 939,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตกว่า 27,000 คน

ที่มา : สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/255647869386878


We are in this together - and we will get through this, together.
เราผจญกับวิกฤตนี้พร้อมกัน และเราจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

António Guterres
เลขาธิการสหประชาชาติ
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/255652002719798


ไม่ทิ้งกัน
รถด่วนปันสุข - รับทุกข์ สู่ชุมชนนำร่อง 5 จังหวัดพื้นที่สีแดง

กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)ส่งรถ Mobile “ปันสุขสู่ชุมชน” นำร่องพื้นที่ 25 จังหวัดสีแดง
เพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางของกระทรวง พม. ในชุมชนที่เป็นพื้นที่ปิดที่ไม่สะดวกในการเดินทางไปดำเนินชีวิตข้างนอกได้

โดยการนำเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ มามอบให้ครอบครัวผู้มีรายได้น้อย และได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 เป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการดำรงชีพ นอกจากนี้ ยังได้มีการรับเรื่องร้องทุกข์ในชุมชน เพื่อให้การช่วยเหลือโดยตรงอย่างรวดเร็วต่อไป

โดยในวันที่ 27 มกราคมนี้ จะนำรถ พม. Mobile จำนวน 15 คัน ลงพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/255673779384287


แผนการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก จ.สมุทรสาคร
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/255681842716814


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อย. ชวนสแกนQR “เช็คก่อนซื้อ” เผย 77 ผู้ผลิต "หน้ากากอนามัย" ที่ผ่านการรับรองโดย อย.

รู้แล้ว เช็คเลย
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/5643173165708157


นายกฯ ให้เอกชนนำเข้าวัคซีนได้ แต่ต้องผ่าน อย.

นายกฯ มีนโยบายให้เอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ได้ โดยขอให้ยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนวัคซีนกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ถูกต้อง อย. จะพิจารณาตรวจสอบวัคซีนที่จะขอนำเข้ามาใช้ในประเทศไทย ซึ่งจะต้องได้รับการประเมินก่อนนำไปใช้จริง

โดยทาง อย.จะประเมินทั้งในด้านคุณภาพ ด้านความปลอดภัย และด้านประสิทธิผลของวัคซีน ว่าเหมาะสมกับคนไทย โดยผู้ที่ต้องการขึ้นทะเบียนจะต้องแสดงข้อมูลเอกสารหลักฐานเพื่อประเมินคุณสมบัติของวัคซีนทั้ง 3 ด้านดังกล่าว

อย. ได้ปรับการทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 อย่างเต็มที่ ด้วยการระดมเพิ่มผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและภายนอกมาร่วมพิจารณา เพื่อให้สามารถอนุมัติวัคซีนได้โดยเร็วที่สุด แต่ยังคงไม่สามารถผ่อนคลายกฎเกณฑ์หรือลดหย่อนการกำกับดูแล เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของประชาชน

นายอนุชา บูรพชัยศรี  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า “การจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 นี้ ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ ภายใต้สถานการณ์ที่มีความต้องการใช้สูงทั่วโลก อีกทั้งวัคซีนที่มีอยู่ เพิ่งเสร็จจากงานวิจัยเข้าสู่กระบวนการผลิตของแต่ละบริษัท ดังนั้นการนำเข้าวัคซีนต้องมั่นใจว่าเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัย มีคุณภาพมาตรฐาน และมีประสิทธิผล เนื่องจากวัคซีนที่อย. รับขึ้นทะเบียนเป็นวัคซีนที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในภาวะฉุกเฉิน ที่จะต้องมีระบบการกำกับติดตาม เฝ้าระวังความปลอดภัยจากการใช้อย่างต่อเนื่อง”
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/5643410159017791
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่