ถ้าคุณเลิกกับแฟนที่กำลังจะแต่งงาน คุณจะยังเป็นเพื่อนกับแฟนไหม

ถ้าแฟนคุณมาบอกเลิกคุณ ด้วยความเห็นแก่ตัวในหลายๆเรื่อง คุณจะยังเป็นเพื่อนกับแฟนไหม

จขกท. คุยกับแฟนอยากให้ปรับก่อนแต่งงาน คือย้ายมาอยู่ทางโซนบ้านเรา 
เขาก็เหมือนมีทีท่าจะมา 
แต่เอาพ่อเขามาอยู่ด้วย และในอนาคตจะเอาแม่(ที่หย่ากับพ่อ)​มาอยู่ด้วย และเขามีแนวโน้มจะไม่อยู่บ้าน ให้เราดูแลพ่อแม่ 
เราก็เลยพอถามเรื่องการใช้ชีวิต
1. ถ้าแม่ หรือน้องเรามีปัญหา เราจะเอาเงินส่วนที่หามาด้วยกันไปช่วยน้องได้ไหม (น้องมีบ้านมีรถกันแล้ว เก็บค่าเช่ากันได้บ้าง)
คำตอบ >> ผช. ตอบว่าไม่เข้าใจคำถาม🤣😂😂

2. เราจะต้องใช้เงินประมาณ 4-50000 บาท (เรามีเงินเก็บที่หามาด้วยกันประมาณ ล้านกว่าบาท)
คำตอบ>> แฟนเรา.. ถอดพระของเราที่เค๊าเอาไปห้อยคอ และบอกให้เราเอาไปขาย
และต่อด้วย"คุณมีมากกว่าเค๊า... คุณน่าจะเอาสมบัติที่คุณมีไปขาย เพราะเรามีมากกว่าเขา" 

เราก้อเลยอึ้งแบบ อึ้งมาก555

ผ่านไปหลายวัน เราก้อนัดกินข้าวกะพี่ที่เคารพของเรา2 คน จะมาคุยกันเรื่องนี้ ว่าจะทำยังไงต่อไป หรือแก้ปัญหา​ยังไง 

แฟนเราเขาก้อมาด้วย เรานั่งได้ 5 นาที  
แล้วเขาก็ถามว่า "จะเอายังไง"

เราก้อเลยบอกว่า "เรานัดพี่มาคุย2คน ขอคุยกับพี่ก่อน"

พี่ก้อพยายามจะให้ดีกัน แต่มีคำถามหนึ่งว่า "แฟนเราเคยให้เงินใช้ไหม ที่ช่วยกันมา" 

เราตอบว่าไม่เคย แต่มีก่อนหน้านี้ราวๆ 1 เดือน ให้มา 25000 บาท เราขายของได้

พี่เขาก็อึ้งไป เพราะช่วยกันมาปีนึงแล้ว และเราดูแลพ่อให้เขาที่บ้าน  ส่วนร้านเราก้อขาดทุน 

พอคุยจบแฟนเราก็เข้ามา... 

พี่ก้อสรุปว่า เว้นระยะทบทวนทั้งคู่ แล้วค่อยๆคิดและปรับเข้าหากัน.. 

แต่แฟนเรารีบพูดว่า.. "ทัศนคติและความคิดเรา ไม่ตรงกัน เราไปด้วยกันไม่ได้ เขาได้เคยปรับแล้ว "

เราก้อเลยถามว่า "เราทำผิดอะไร" และแฟนเราปรับตัวตรงไหน

ซึ่งเขาก้อตอบไม่ได้ 

พี่เราก้ออึ้ง ส่วนเราก้ออึ้ง แต่ก็อึ้งน้อยเพราะได้คำตอบที่ค้างคาใจ เรื่องความมีน้ำใจของเขา และแนวทางการใ้ช้ชีวิตต่อไป 

เราก้อเลยงง ๆ ว่า
1.จะต้องทำยังไงต่อไป
จะประคับประคองไปก่อน ดีไหม เพราะเราไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง ตลอดเวลาที่คบกัน แต่มี 1  ครั้งเรื่องความเห็นไม่ตรงกัน เรื่องคุยก่อนแต่งที่ต้องปรับ (แต่เขาก้อไม่เห็นตอบและปรับอะไร)​
แต่เขารักเด็กและอยากมีลูก

2.เลิกขาดตามที่เขาบอก  //จะเป็นเพื่อนต่อไปดีไหม

หรือเลิกคบยิ้มเลย (เพราะชั่วเกินมนุษย์ 55 ไม่ปรับใดๆแต่จะเลิกกัน และรีบหาคนใหม่ )​

คือตอนนี้เกรงใจพี่ ที่ให้เป็นคุยกันไปแบบพี่น้องที่สนิท เขาก็คงอยากให้ดีกัน
เพราะต้องทำงานร่วมกันในบางเรื่อง

แต่สำหรับเรา ไม่อยากเป็นเพื่อนแล้ว เพราะยิ้มเห็นแก่ตัวเกินไป และกลัวจะใจอ่อนไปดีกัน
ส่วนเขาน่าจะ move on ไปแล้ว เพราะเราจนลง และไม่ได้ดูพ่อให้เขาแล้ว

(เขาจะนิสัยรุนแรงเวลาเขาเสียเปรียบ /ขับรถถ้าไม่พอใจจะลงไปหาเรื่องคันอื่น  หรือถ้าเราพูดเตือนข้อเสียเขา เช่นขโมยของ เขาจะโมโหและสบถออกมา)​ แต่ภายนอกเวลาปกติ คือเป็นคนดี ขี้สงสาร  แต่โมโหง่าย
แต่ถ้าใครมาทำอะไรเราก็จะไม่ยอมโดนเด็ดขาด

สำหรับเราก่อนหน้านี้ เราก็ยังเป็นเพื่อนคุยได้ แต่เหมือนบอกเลิกเราได้ 3 วัน ก็จะหาคนคุยแก้เหงาแล้ว

เราก็เลยลำบากใจ 

รบกวนขอคำปรึกษา​เพื่อนๆทุกคนในนี้ด้วยนะคะ
(และอยากได้คำปรึกษาคนที่เคยมีครอบครัว ด้วยคะ)​
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 43
ฟังแล้วขยักแขยง

“ชอบขโมยของ”

“จะเป็นสมาชิก rbsc”

คุณเลิกไปเถอะ บุญของคุณแล้วที่เขาเป็นคนบอกเลิก
ในทางกลับกันวันนึงคุณขอเลิกเอง อาจไม่ได้เลิกง่ายๆ
ยิ่งถ้าหลงไปมีลูกด้วยละก็ ... คุณลองจินตนาการดูว่าคุณอยากให้ลูกคุณนิสัย บุคลิกแบบพ่อเค้าไหม ถ้าไม่ บุญมาถึงแล้วค่ะ
คุณจะเป็นอิสระแล้ว
ถ้าเขาขอเป็นเพื่อนก็บอกได้ แต่ตีตัวออกห่างๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าตอบตามหัวกระทู้คือเราไม่นิยมเป็นเพื่อนกับแฟนเก่า
ทุกวันนี้เรายังไม่นับใครเป็นเพื่อนง่าย ๆ และไม่มีความจำเป็นต้องมีเพื่อน
เรื่องอะไรต้องไปเอาคนที่คุยกันไม่รู้เรื่องมาเป็นเพื่อน

แต่ถ้าให้ตอบว่าแฟนคุณเห็นแก่ตัวไหม เราว่า 50/50 เพราะโจทย์คุณแต่ละอย่างมีแต่เรื่องเงิน
และคุณเป็นฝ่ายได้ แน่นอนว่าฝ่ายที่เสียมันก็ต้องมีอึ้ง ๆ กันบ้าง
เช่น คุณต้องการให้เขาย้ายมาทางคุณ อันนี้เขาหยวน โอเคผ่าน

คำถามต่อไป คุณจะเอาเงินส่วนที่หามาด้วยกันไปช่วยแม่ช่วยน้อง (กรณีลำบากใช่ไหม ?)
ถ้าเป็นเรา ๆ ก็อึ้ง คือน้องโตจนป่านนี้ทำไมต้องช่วย แล้วถ้าเราอยู่ในฐานะลำบากน้องคุณจะช่วยเค้าไหม
แล้วน้องคุณทำไมคุณไม่เก็บเงินไว้ช่วยเอง อันนี้เค้าคงคิดในใจแต่ไม่ได้ถามคุณ

คำถามต่อมา จะเอาเงินที่หาด้วยกัน (อีกแล้ว) ไปใช้ครึ่งนึงเลย ใช้เรื่องอะไรก็ไม่รู้ ถ้าเป็นการไปใช้ส่วนตัว
มันก็สมควรแล้วที่เค้าย้อนว่าทำไมไม่เอาของส่วนตัวที่ขายได้ไปหมุนก่อน

อันนี้จากที่เราคิดนะ การตั้งสถานการณ์สมมุติมันบอกอะไรไม่ได้ 100% ไม่ต้องกับแฟนหรอก
ต่อให้น้องแท้ ๆ เรามาสมมุติว่าถ้าเค้าผ่อนอะไรไม่ไหวให้เราช่วยได้ไหม เราแน่ใจว่าเราจะตอบว่าไม่
และในใจคงนึกว่าเกี่ยวอะไรกับชั้น อยากหาหนี้เองก็ใช้เองสิ คงไม่มีใครรีบบอกได้จ้า ยินดีเลยถูกไหม
แต่ชีวิตจริงถ้าสถานการณ์กดดัน สุดท้ายมันก็ต้องช่วยกันแหละ และต้องดูด้วยว่าน้องทำตัวดีกับเราไหมด้วย

สรุปคือ มันยังสรุปไม่ได้ว่าใครเห็นแก่ตัว ไม่ใช่เงินเรา ๆ ก็ใจกว้างได้เสมอ แต่ถ้าเป็นเงินเรา เราก็คิดหนักนะ
แต่ดีแล้วที่คุณคิดว่าควรจะเลิกกันดีไหม เราว่าดี เพราะขนาดโต ๆ กันแล้วคุยกันเองยังไม่รู้เรื่องต้องไปเอาพี่ที่ไหนไม่รู้มาฟังด้วย
ถ้าอยู่ด้วยกันปวดหัวตาย เพราะมันจะมีเรื่องอื่นตามมาอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่