การตลาดออนไลน์ ใคร ๆ ก็บอกว่ายุคนี้ถ้าอยากขายดีก็ต้องทำการตลาดออนไลน์ แต่จะมีสักกี่คน จริง ๆ ที่จะเก็ทว่า 
ที่บอกให้ต้องทำการตลาดออนไลน์เนี่ย มันต้องทำอะไรมั่ง เพราะจริง ๆ แล้วคำว่าการตลาดออนไลน์มันกว้างมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น โฆษณาบน Facebook, Google, Instagram, Live สดขายเสื้อผ้าผ่าน หรือ แม้แต่โฆษณาที่มาขัดจังหวะบ่อยตอนที่กำลังดู YouTube อยู่ก็ตาม 
ซึ่งมันเยอะแยะไปหมด

 
 
 
 1.Influencer Marketing
                ผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ ที่มี “ผู้ติดตาม” ตั้งแต่หลักหมื่น ไปจนถึงหลังล้านเลยก็ว่าได้ ซึ่งการนำสินค้าไปให้ผู้มีอิทธิพล ช่วยในการทำการตลาดนั้น ก็ถือว่ามีประสิทธิภาพสุด ๆ ในยุคนี้เลย แต่การที่แบรนด์จะเลือกใช้ ผู้มีอิทธิพลคนไหนนั้น ก็ต้องคำนึงถึงสินค้าด้วยว่า มันตรงเป้าหมาย ของผู้มีอิทธิพลนั้นหรือไม่
ยกตัวอย่างเช่น มีร้านอาหารเปิดใหม่ ตกแต่งร้านได้สวยงาม รสชาติอร่อย  มีมุมน่าถ่ายรูปดี ๆ แต่ดันอยู่ในทำเลที่คนเข้าถึงยาก จึงเลือกใช้ผู้มีอิทธิพล สายตระเวนชิม หรือสายท่องเที่ยว มาช่วยแนะนำร้านเพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น 

 2.รีวิว
              นอกจาก Influencer Marketing ที่จะทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว การตลาดผ่านการรีวิวจาก
 “ผู้ใช้จริง” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะมันจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าได้เป็นอย่างดีเลย
ยกตัวอย่างเช่น มีลูกค้ารู้จักและเกิดความสนใจในสินค้าของคุณผ่านทาง Influencer แล้ว แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องหาข้อมูลสินค้าของคุณ ว่าสินค้านี้เป็นอย่างไร ใช้แล้วดีไหม มีคนพูดถึงสินค้าไปในทางที่ดีหรือไม่ ซึ่งจุดนี้แหละเป็นจุดตัดสินใจสำคัญของลูกค้าที่จะตัดสินใจไปต่อหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสินค้าของคุณสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน

         
3.โปรโมชั่น
               แน่นอนว่าถ้าอยากกระตุ้นยอดขาย ก็ต้องมี “โปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม” กันหน่อย ไม่ว่าจะเป็นการร่วมสนุกกิจกรรมในเพจแล้วได้รางวัล, ซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์แล้วได้คูปองส่วนลด แต่การทำโปรโมชั่น ก็ไม่ควรทำบ่อยจนเกินไป เพราะมันจะทำให้ลูกค้าติดราคาโปรโมชั่น ซึ่งลูกค้าจะรู้สึกไม่อยากซื้อสินค้าตอนที่ไม่มีโปรโมชั่น นั่นถือว่าเป็นผลเสียร้ายแรงต่อแบรนด์ใน “ระยะยาว” ได้เลย

4.เว็บไซต์
              ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า เว็บไซต์เป็น “พื้นฐาน” ในการทำการตลาดออนไลน์ไปเสียแล้ว เพราะยุคนี้ ใคร ๆก็เข้าไปหาสินค้าหรือบริการผ่าน Google กันทั้งนั้น ซึ่งร้านค้าไหนที่ไม่ได้ทำเว็บไซต์ ก็ไม่สามารถทำโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
      
 ที่สำคัญไปกว่านั้น เว็บไซต์ยังเป็นตัว “บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์” ให้กับลูกค้า ที่เข้ามายังหน้าเว็บไซต์แล้วเกิดความรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของเขาด้วย ซึ่งก็มีโอกาสที่จะสามารถปิดการขายผ่านหน้าเว็บไซต์ได้เองโดยที่ไม่ต้องทำอะไรให้เหนื่อยเลย เพราะระบบเว็บไซต์สมัยนี้ก็มีระบบชำระเงินผ่านหน้าเว็บไซต์ ซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก และในส่วนของธุรกิจเอง ก็สามารถบริหารจัดการสินค้าได้อย่างเป็น “ระบบมากขึ้น” อีกด้วย

 
              เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ? สำหรับใครที่คิดว่า กลยุทธ์การตลาดออนไลน์  เหมาะที่สุดกับการทำให้มียอดพุ่ง ตอนนี้คุณพอจะมีไอเดียในการจะไปต่อได้แล้วรึยัง ? ซึ่งคุณสามารถแชร์ไอเดียได้นะครับหรือพูดคุยกันได้  ไม่ว่าจะเป็นการนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณ หรือเพื่อให้ธุรกิจของคุณจะเป็นแบรนด์ที่ผู้คนรู้จักและโด่งดัง   หรืออะไรก็ตามแต่.... คุณสามารถคอมเมนต์มาด้านล่างนี้ได้เลย ผมยินดีรับฟังครับ



วรัทภพ รชตนามวงษ์