ในช่วงปี 2531-2535 ถือว่าเป็นช่วงที่วงการโทรทัศน์ไทยเติบโตอย่างรวดเร็วมาก โดยเฉพาะรายการประเภท "เกมส์โชว์" ก็มีรายการและผู้จัดต่าง ๆ ขยันขันแข่งเรตติ้งกันอย่างคึกคัก กระทั่งตัวผู้แข่งขันที่ร่วมรายการก็ไม่จำกัดว่าต้องเป็นดาราที่มีชื่อเสียง ซึ่งเราจะเห็นว่าเกมส์โชว์ในสมัยนั้นมักจะแจกอย่างกระหน่ำให้กับผู้แข่งขันทุกคน แถมการทำหน้าที่ของพิธีกรก็สร้างความบันเทิงและคุมเกมได้เป็นอย่างดี จึงเป็นเสน่ห์ที่มีสีสันให้วงการจอแก้วรุดหน้าต่อไป

เท่าที่เราค้นพบเกมส์โชว์ที่ออกอากาศในช่วงนั้นจะพบว่ามีอยู่นับสิบรายการ แต่ที่เป็น "หัวแถว" หรือมีความโดดเด่นจนเป็นที่นิยม มีของรางวัลมาล่อใจอย่างมหาศาล และมีการทำ "แจ็คพอตแตก" อยู่หลายครั้ง เท่าที่นับนิ้วได้ก็มีอยู่อย่างน้อย 5 รายการ...

โดย 5 รายการที่จะกล่าวต่อไปนี้คือเกมส์โชว์ยอดนิยมที่ยังคงเป็นที่กล่าวถึงจวบจนปัจจุบัน บางรายการยังคงดำเนินอยู่ บางรายการรวมทั้งผู้ผลิตและสถานีที่ออกอากาศก็เหลือแค่ความทรงจำ

เป็นรายการที่นำภาพความ "น่ารัก" ของเหล่าสรรพสัตว์มาให้ผู้ร่วมรายการได้ทายเป็นเกมที่ "น่าลุ้น" ถ่ายทอดสาระรวมกับความบันเทิงได้อย่างกลมกลืน รายการนี้มีพิธีกรหมุนเวียนหลายท่าน โดยแรกเริ่มก็คือ "นิรุตติ์ ศิริจรรยา" ก่อนจะเปลี่ยนให้บูมสุดขีดจากการทำหน้าที่ของพิธีกรตัวฮอต "เศรษฐา ศิระฉายา" พร้อมเสียงบรรยาย VTR จาก "สมจินต์ ธรรมทัต" ออกอากาศช่วงเช้าวันอาทิตย์ ทางช่อง 5 ผลิตโดย "รัชฟิล์มทีวี" เจ้าของเดียวกับรายการ "มาตามนัด"

อันดับ 4 : จุดเดือด 

หลังจากที่ "เจเอสแอล" ประกาศยกเลิกเกม "พลิกล็อค" เนื่องจากรายการถึงจุดอิ่มตัว ประกอบกับพิธีกร "ปัญญา นิรันดร์กุล" ไปเปิดบริษัทของตนเอง...เจเอสแอลไม่ยอมถอยที่จะทำเกมใหม่และชื่อใหม่ พร้อมทั้งพิธีกรที่เรียกได้ว่าใหม่แกะกล่อง ทั้ง "นพพล โกมารชุน", "กาญจนาพร ปลอดภัย", "จริยา พุกกะมาน" และยอดตลก "โน้ต เชิญยิ้ม" ไม่น่าเชื่อว่ารายการนี้จะได้รับความนิยมตามรายการเดิมอย่างติด ๆ ด้วยรูปแบบเกมและของรางวัลอันชวนตื่นเต้น ออกอากาศหลังจบเกมน่ารักน่าลุ้น ทุกวันอาทิตย์

รายการที่ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นรายการแรกของบริษัท "เวิร์คพอยท์" รูปแบบแรกเริ่มเป็นการประลองความสามารถส่วนบุคคล แต่พอจวนถึงทางตันก็ได้ปรับให้เป็นเกมส์โชว์อย่างเต็มรูปแบบ เริ่มด้วยการทายคำจากภาพปริศนา ตบท้ายด้วยการชั่งสิ่งของจากน้ำหนักเบาสุดถึงหนักสุด เพื่อชิงของรางวัลสูงสุดคือ "ทองคำ 1 กิโลกรัม" พิธีกรในยุคนั้นก็เริ่มจาก "ปัญญา นิรันดร์กุล" ก่อนเปลี่ยนตัวมาเป็น "วัชระ ปานเอี่ยม", "เสกสรร ชัยเจริญ" สู่ยุคคลาสสิกอย่าง "ซูโม่กิ๊ก" และ "หม่ำ จ๊กมก" ที่เรียกความครื้นเครงไม่น้อยหน้าใคร

เปิดศักราช 2533 ด้วยรายการที่เป็นที่จับตามองของหลายฝ่าย เพราะเป็นเกมส์โชว์รายแรกที่แจกเช็คเงินสดมูลค่า 1 ล้านบาท แถมคู่พิธีกรในยุคนั้นก็ทำท่าว่าขายดิบขายดีเช่นกัน นั่นคือ "ปัญญา นิรันดร์กุล" และ "มยุรา ธนะบุตร" รูปแบบแรกเริ่มเป็นการทายใจระหว่างผู้แข่งขันที่มาเป็นคู่ ถ้าตอบได้ตรงกัน 4 ข้อจะได้เงินล้านทันที ก่อนจะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนเกม และยังได้ "หม่ำ จ๊กมก" มาเป็นตัวเสริมจนมาเป็น "แก๊งสามช่า" ที่คอยสร้างสีสันตลอดรายการเฉกเช่นปัจจุบัน  

เราขอยกตำแหน่งเกมส์โชว์คุณภาพยอดนิยม(ในใจตลอดกาล)ไว้ให้กับ..."มาตามนัด" ผู้บุกเบิกเกมส์โชว์ไพรม์ไทม์ยุคไฮเทค ออกอากาศสามวันติดต่อกัน ของรางวัลก็แน่นหนา ใคร ๆ ก็อยากมาเล่นเกมนี้ได้ถ้ามีไหวพริบและปฏิภาณดี คู่พิธีกรยุคคลาสสิกอย่าง "เศรษฐา ศิระฉายา" กับ "ญาณี จงวิสุทธิ์" ก็เข้ากันได้ดีแบบสุด ๆ มีสรรพสิ่งให้ติดตามตลอดทุก ๆ ตอน...มิน่าล่ะที่รายการนี้มีเรตติ้งเป็นอันดับ 1 จากการประเมินของหลาย ๆ สำนักในสมัยนั้น

และนี่คือ 5 เกมส์โชว์ดังแห่งยุคของเราและแฟน ๆ ที่เกิดทัน...คิดถึงกันบ้างนะ สวัสดี.