วันนี้เราจะมารีวิวครีมน้องหมีม่วง 𝐄𝐳𝐞𝐫𝐫𝐚 จ้า ใครไม่อยากอ่านยาวข้ามไปสรุปด้านล่างเลย
มือใหม่หัดรีวิว ผิดพลาดประการใดขออภัยล่วงหน้า
จุดเริ่มต้นย้อนไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว อายุย่างเข้าเลขสามมาสักพัก จากเดิมที่เป็นคนผิวมัน จึงไม่ค่อยชอบใช้ครีมใดๆ ประกอบกับมั่นใจว่าผิวดี (เข้าข้างตัวเองแหละดูออก ) ดังนั้น routine skincare จึงมีแค่ cleansing กับ กันแดด
จนเมื่อผิวเริ่มเปลี่ยนมาเข้าสู่สภาวะผิวผสมความมันโดยรวมลดลง คือ Tzone ยังมันเล็กน้อย แต่ uzone ปกติ ก็เริ่มอยากหาครีมที่ให้ความชุ่มชื้นมาบำรุงผิวบ้าง โดยมีเงื่อนไขคือต้องสามารถใช้ช่วงเช้าก่อนแต่งหน้าได้โดยไม่ทำให้หน้ามันเยิ้ม ซึมดี (รีบค่ะ) และไม่เป็นคราบเวลาแต่งหน้า
และแล้วก็ได้มีโอกาสลองใช้ครีมหมีม่วงจากการได้ sampleมา สิ่งที่ถูกใจอย่างแรกที่ไม่เจอในครีมชุ่มชื้นอื่นที่ใช้มาคือ texture ดีมากกก เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว ไม่มัน ไม่เป็นคราบ ลงกันแดดต่อก็ไม่เป็นขุย คือความชุ่มชื้นดีไม่ดีไม่รู้แต่ texture ดีคือ first impression จริงๆครีมหมีนี้เค้าดังในแง่เป็นเวชสำอางค์ให้ความชุ่มชื้นในเด็กที่ผิวแห้งและผิวแพ้ง่ายอยู่แล้วด้วยก็มั่นใจคุณภาพได้ ส่วนประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นหลังมาลองใช้กับตัวเอง ณ ตอนนั้น (5 ปีที่แล้ว) ถือว่าตอบโจทย์มากให้ความชุ่มชื้นได้พอดีสำหรับเรา
มาดูที่ส่วนผสมหลักกันบ้าง
Saccharide isomerate ตัวนี้เคลมว่าเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่คล้ายกับ NMF (natural moisturing factor) หรือสารที่ให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่มีในผิวปกติของคนเรา สารพวกนี้พออายุมากขึ้นจะค่อยๆลดลง ทำให้ผิวแห้งลง เราชอบตรงที่เค้าเลือกส่วนประกอบคล้ายสารที่มีอยู่ในผิวปกติ เพราะอะไรที่ดูไม่แปลกปลอมก็จะไม่ค่อยทำให้เกิดอาการแพ้
Stimu-tex AS เป็นส่วนผสมของสารที่ช่วยบรรเทาอาการแพ้ คัน ระคายเคือง (spent grain wax, Butyrospermum Parkii extract and Argania spinosa kernel oil) ซึ่งเราไม่มีปัญหาตรงนี้เลยบอกไม่ได้ว่าช่วยขนาดไหน
ไม่มีน้ำหอม ไม่มีพาราเบน ไม่มีสเตียรอยด์ สามารถใช้ต่อเนื่องได้ไม่มีผลข้างเคียง เริ่ด!
โดยรวมเราถือว่าเป็นครีมที่ดีและซื้อใช้มาต่อเนื่องตัวหนึ่งเลย แต่แน่นอนว่ามัน #ไม่มีskincareที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนและทุกช่วงเวลามีแต่Skincareที่เหมาะกับผิวเราที่สุดในช่วงเวลาหนึ่ง
สรุป มาถึงตอนนี้ เราแนะนำ ezerra cream สำหรับผิวขาดน้ำที่ต้องการเสริมความชุ่มชื้น ได้ทั้งผิวมัน ผิวผสม ผิวแพ้ง่าย แต่ ถ้าผิวแห้งมากๆ ต้องการความชุ่มชื้นเยอะๆ หรือ เกราะป้องกันผิวเสีย ตัวนี้เดี่ยวๆเอาไม่อยู่ จากประสบการณ์ตรงเมื่อเดือนธันวาคม ช่วงหนาวมากๆ ผิวเข้าสู่สภาพแห้งทั้งหน้า ทา ezerra แล้วผิวหน้ายังขึ้นขุย แห้งลอก เป็นหย่อมๆ ส่วนหนึ่งอาจเพราะ ตามแนะนำคือให้ทาวันละ 3-4 ครั้ง แต่ชีวิตจริงเราทาแค่ 2 ครั้ง เช้า เย็น ระหว่างวันไม่สะดวกจริงๆ เลยใช้วิธีหาครีมที่ช่วยเสริม skin barrier มาเสริม และตัวนั้นคือ…….. Cerave moisturizing lotion อยากรู้ว่าตัวนี้เอาอยู่ไหม ไว้มาเล่าให้ฟังนะ
[CR] รีวิวครีมหมีม่วง ezerra ( ซื้อเอง ใช้เอง รีวิวเอง no sponsor )
วันนี้เราจะมารีวิวครีมน้องหมีม่วง 𝐄𝐳𝐞𝐫𝐫𝐚 จ้า ใครไม่อยากอ่านยาวข้ามไปสรุปด้านล่างเลย
มือใหม่หัดรีวิว ผิดพลาดประการใดขออภัยล่วงหน้า
จุดเริ่มต้นย้อนไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว อายุย่างเข้าเลขสามมาสักพัก จากเดิมที่เป็นคนผิวมัน จึงไม่ค่อยชอบใช้ครีมใดๆ ประกอบกับมั่นใจว่าผิวดี (เข้าข้างตัวเองแหละดูออก ) ดังนั้น routine skincare จึงมีแค่ cleansing กับ กันแดด
จนเมื่อผิวเริ่มเปลี่ยนมาเข้าสู่สภาวะผิวผสมความมันโดยรวมลดลง คือ Tzone ยังมันเล็กน้อย แต่ uzone ปกติ ก็เริ่มอยากหาครีมที่ให้ความชุ่มชื้นมาบำรุงผิวบ้าง โดยมีเงื่อนไขคือต้องสามารถใช้ช่วงเช้าก่อนแต่งหน้าได้โดยไม่ทำให้หน้ามันเยิ้ม ซึมดี (รีบค่ะ) และไม่เป็นคราบเวลาแต่งหน้า
และแล้วก็ได้มีโอกาสลองใช้ครีมหมีม่วงจากการได้ sampleมา สิ่งที่ถูกใจอย่างแรกที่ไม่เจอในครีมชุ่มชื้นอื่นที่ใช้มาคือ texture ดีมากกก เกลี่ยง่าย ซึมเร็ว ไม่มัน ไม่เป็นคราบ ลงกันแดดต่อก็ไม่เป็นขุย คือความชุ่มชื้นดีไม่ดีไม่รู้แต่ texture ดีคือ first impression จริงๆครีมหมีนี้เค้าดังในแง่เป็นเวชสำอางค์ให้ความชุ่มชื้นในเด็กที่ผิวแห้งและผิวแพ้ง่ายอยู่แล้วด้วยก็มั่นใจคุณภาพได้ ส่วนประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นหลังมาลองใช้กับตัวเอง ณ ตอนนั้น (5 ปีที่แล้ว) ถือว่าตอบโจทย์มากให้ความชุ่มชื้นได้พอดีสำหรับเรา
มาดูที่ส่วนผสมหลักกันบ้าง
Saccharide isomerate ตัวนี้เคลมว่าเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่คล้ายกับ NMF (natural moisturing factor) หรือสารที่ให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่มีในผิวปกติของคนเรา สารพวกนี้พออายุมากขึ้นจะค่อยๆลดลง ทำให้ผิวแห้งลง เราชอบตรงที่เค้าเลือกส่วนประกอบคล้ายสารที่มีอยู่ในผิวปกติ เพราะอะไรที่ดูไม่แปลกปลอมก็จะไม่ค่อยทำให้เกิดอาการแพ้
Stimu-tex AS เป็นส่วนผสมของสารที่ช่วยบรรเทาอาการแพ้ คัน ระคายเคือง (spent grain wax, Butyrospermum Parkii extract and Argania spinosa kernel oil) ซึ่งเราไม่มีปัญหาตรงนี้เลยบอกไม่ได้ว่าช่วยขนาดไหน
ไม่มีน้ำหอม ไม่มีพาราเบน ไม่มีสเตียรอยด์ สามารถใช้ต่อเนื่องได้ไม่มีผลข้างเคียง เริ่ด!
โดยรวมเราถือว่าเป็นครีมที่ดีและซื้อใช้มาต่อเนื่องตัวหนึ่งเลย แต่แน่นอนว่ามัน #ไม่มีskincareที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนและทุกช่วงเวลามีแต่Skincareที่เหมาะกับผิวเราที่สุดในช่วงเวลาหนึ่ง
สรุป มาถึงตอนนี้ เราแนะนำ ezerra cream สำหรับผิวขาดน้ำที่ต้องการเสริมความชุ่มชื้น ได้ทั้งผิวมัน ผิวผสม ผิวแพ้ง่าย แต่ ถ้าผิวแห้งมากๆ ต้องการความชุ่มชื้นเยอะๆ หรือ เกราะป้องกันผิวเสีย ตัวนี้เดี่ยวๆเอาไม่อยู่ จากประสบการณ์ตรงเมื่อเดือนธันวาคม ช่วงหนาวมากๆ ผิวเข้าสู่สภาพแห้งทั้งหน้า ทา ezerra แล้วผิวหน้ายังขึ้นขุย แห้งลอก เป็นหย่อมๆ ส่วนหนึ่งอาจเพราะ ตามแนะนำคือให้ทาวันละ 3-4 ครั้ง แต่ชีวิตจริงเราทาแค่ 2 ครั้ง เช้า เย็น ระหว่างวันไม่สะดวกจริงๆ เลยใช้วิธีหาครีมที่ช่วยเสริม skin barrier มาเสริม และตัวนั้นคือ…….. Cerave moisturizing lotion อยากรู้ว่าตัวนี้เอาอยู่ไหม ไว้มาเล่าให้ฟังนะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้