ผมว่าเคสนี้ ตากล้อง โคตรไม่มืออาชีพเลย ไม่รู้สิ อาจจะคนละแนว เอาจริงๆถ้าจะโปรโมทผลงาน เวลาเมมลง ก็ใส่เครดิต ก็ได้(ไม่รู้เพราะ อฟช ห้ามรึเปล่า ไม่ค่อยเห็น เครดิตคนนอกเลย) หรือไม่ก็ขอมาซักรูปนึก ทำดป็นพอร์ต ในเพจ หรือ ig ตัวเอง ใส่ชื่อนางแบบ สถานที่ เวลา กล้อง/ฟิล์ม อะไรก็ว่าไป

มันก็ควรจะแบบนี้

พูดถึง ภาพรวมทั้งวงนะ  
คำว่าตากล้อง  vip     ที่มีปัญหาจากดราม่า  คือ.......      

    เคยสงสัยไหมว่ารูปสวยๆระดับใกล้เคียงมืออาชีพ    ใครถ่าย ?  

  บางรูปน้องแต่งตัว เซต  นั้นหละครับตากล้อง vip        

แฟนคลับคนคิดว่าเป็นฝีมือ  ญาติ หรือ เพื่อน ถ้ารูปทั่วไปก็ใช่​    
แต่บางรูปใช้ เลนส์ กล้องเทพ    มุมกล้อง แสงเงา การจัดวางเฟรม อย่างโปร เกินเพื่อนทั่วไปแน่ๆ
ใช่ครับ น้องก็คนปกติมีสังคม เพื่อนๆ      แต่คนที่อยู่รอบตัวน้องถ้ารักจริงต้องรู้จักวางตัว

ตากล้องประจำด้อม ติดต่อเมม  ไปถ่ายให้    /  จ้างช่างมืออาชีพถ่าย   / ร้ายกว่านั้น วัวถ่าย ให้
สมมุติ นาย A  รู้จักไปเที่ยวกับเมมเบอร์ มีฝีมือถ่ายรูป แค่ไม่ถ่ายตัวเองร่วมเฟม  น้องก็ไม่ผิดกฏบริษัทแล้ว แต่ถ้าข่าวรู้ถึงแฟนคลับทั่วไปก็เละครับ
ต่อไป น้องแอบมีแฟน เวลาไปเที่ยวด้วยกันก็อ้างว่า แค่ตากล้องคนถ่ายรูปได้   บรรทัดฐานอยู่ตรงไหน   แล้วคนที่โดนลงโทษไปก่อนจะรู้สึกยังไง


ส่วนตากล้องที่ อฟช  เชิญไป  เช่นเปิดงาน  ซิง 9  ไปถ่ายตามงานที่เดินสาย  ผมเฉยๆนะกลุ่มคนเหล่านี้ที่ผมรู้จักทำงานหนัก   ลงทุนเยอะ ไม่ได้พิเศษอะไรเลย

-------------------------------------------------------
กรณี  ดราม่า ล่าสุด    ปัญหา มาจากการแสดงตัวตนคนถ่ายไง  ขิงกันเลยว่าตูคือคนถ่ายรูปนะ และมีหยอกล้อราวสนิทกัน
  มันจงเกิด คำโตๆว่าตากล้อง VIP

   จึงเกิดการเปรียบเทียบ   กว่าจะได้ถ่ายรูปกับน้อง  เสียเงินเป็นพัน   350 คุย 8 วิ    

  พอเป็นตากล้อง VIP  ที่ไปด้วยไม่มีลิมิตแถมใกล้ชิดกว่าด้วย  

  ผมเข้าไปอ่านในเว็บ มืด  *copy มานะ*

กล้องก็ไม่ได้เทพกว่า ....  
ฝีมือก้ธรรมดา   ได้ไปถ่ายได้ไง ...   แอบติดต่อน้องลับหลังหรอ พวกเราทำตามกฏแทบตาย  
   หมดอารมณ์... จะตามแล้วพอไม่เสียตังให้อีกแล้ว  เหนื่อย  
ธุรกิจ ไอดอล คือจุดขาย คือ สายสัมพันธ์  ระหว่างไอดอล-แฟนคลับ-ความเชื่อใจ     ชึ่งมันเปราะบางมากๆ    

อฟช ไม่เคยดูแลให้เป็น มาตราฐาน
เละไหมครับธุรกิจ ไอดอล

เข้ามานึกว่าใคร อ่อคนนี้ ไม่เท่าไหร่หรอก
ถ้ารู้จักกับคนที่สนิทกับคนนี้อีกคน อกแตกตายกันแน่ๆ
แต่เจ้าตัวดันปิดไพรเวทตั้งแต่มีดราม่าตากล้อง VIP สมัยก่อน (เหมือนรู้ตัวไว)
ทุกวันนี้ก็ยังลงขิงกันเองอย่างบ่อย
--------------

ส่วนตัวเราว่า คห. 35 น่าจะตอบโจทย์สุด
เพราะนี่คือโมเดลธุรกิจที่มีคนเสียตังค์เพื่อให้ได้มาซึ่งการพูดคุย การได้รูป
และอยู่ดีๆ มีคนที่สนิทหรือมีเส้นสายมาได้ฟรี แถมขิงอีกต่างหาก
เราว่าไม่ควรใช้คำว่า "อิจฉา" เพราะมีคนกำลังโดนเอาเปรียบอยู่
แต่โอตะจะเลิกสนับสนุนก็คงไม่ได้ ก็สงสารน้องกันอีก มันก็วนแบบนี้แหละ
ใครหมดแรงใจก็ถอยกันเองถึงโอตะเสียใจกัน
แต่เคส นทล. น้องอุ้ม มัยร่า จูเน่ เค้ก ฯลฯ ตากล้องดีใจกันจะตาย
--------------

เราขอแบ่งเลเวลตากล้องแล้วกัน
เวลแรก
เคสที่จะยกคือกรณีน้องอุ้ม เคยมีกระทู้น่าจะ 2 ปีก่อนได้มั๊งที่คนตั้งข้อสงสัยว่าทำไมรูปสวยเกิน
และ บ้านแอดมินรวมถึงคนที่แสดงตัวรับรู้รู้จักตากล้องกันน่าจะเกือบหมด และรับได้ เพราะ
"ตากล้องไม่ได้ลงส่วนตัวเลย" ซึ่งนั้นมันกลายเป็น Win-Win situation ไปเลย
เพราะที่เราทราบมาตากล้องที่ถ่ายก็มืออาชีพเลย
--------------

เวลสอง
เรายกเคสใกล้ตัวสุดก็ตากล้องของสื่อเราเอง ก็เคยได้ถ่ายเบื้องหลัง MV น้อง
หรือได้ถ่ายน้องตามงานอีเว้นต์ต่างๆ ในฐานะสต๊าฟ
เจ้าตัวเอารูปมาลงแท็กเสร็จสรรพ ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ โอตะก็มองว่าเป็นทีมงาน
ส่วนงานสื่อการทำข่าว เวลามีงาน BNK48 เจ้าตัวมักจะขอไม่ไป หรือไปหมายงานอื่น
เพราะมีครั้งหนึ่งที่น้องไหว้และเรียกชื่อต่อหน้าโอตะ ซึ่งเจ้าตัวมองว่าไม่ดี จะดูสนิทเกินไป
หรือถ้าไม่ใช่งานแต่เวลาไปถ่ายข้างนอกเจ้าตัวก็จะลงหลังน้องด้วยการรีโพส
ไม่มีการไปคุยหน้าวอลล์ เราว่าแบบนี้ถือเป็นการให้เกียรติกันนะ
แต่ในหมู่ตากล้องหลายคนจะมองว่าขิงแหละ
--------------

เวลสาม
เคสมิวสิคที่มีตากล้องคนนึงประจำบ้านมิวสิค
ที่ถ่ายยังไงน้องก็มองกล้องตลอด แล้วมีประเด็นไปไหนมาไหนกับน้องตลอด
แล้วเรื่องมาแดงตอนแอดมินบ้านคู่มาแฉ หลังบ้านคู่ล่ม มีวิดีโอหลักฐานไปกับน้องสองต่อสอง
แล้วสุดท้ายตากล้องแถลงว่ากึ่งๆ ยอมรับ แต่ไม่ได้ตามแล้ว เคสนี้มาไวเงียบไว
แต่สำหรับตากล้องคือเสียงแตก เพราะเจ้าตัวลงแบบตากล้องเราคือการรีโพส
หรือการโพสในมุมแบบเจอกันตามงานอีเว้นต์เท่านั้น แต่หลายรูปก็ดูบังเอิญไปที่เหมือนเจอและหลังงาน
จนมองว่ามีการนัดน้องส่วนตัว
--------------

เวลสุดท้าย
เคสมัยร่าชัด ถึงน้องจะโดนหลายกระทง แต่มีกระทงนึงที่ชัด
คือการไปสถานที่ภายนอกกับบุคคลหนึ่ง แล้วมีการวิเคราะห์กันว่าอ้าวเมมอื่นก็มีไปนิ
แต่จบลงที่เคสมัยร่าคือไปกัน 2 คน (พิสูจน์ได้รึเปล่าก็ไม่รู้ไม่ได้ตาม)
แต่หลักๆ คือตัวตากล้องที่ถ่าย ดันทำ
"ถ่ายติดตัวเองในกระจก" "ลงรูปแสดงตัวเสมือนเป็นคนถ่ายและเหมือนไปที่เดียวกับน้อง"
เลยเกิดการพูดกันเล่นๆ ในกลุ่มตากล้องว่าถ้ามีคนอื่นไปด้วยก็คงไม่ผิด
-------------

เท่าที่เราคุยกับตากล้องที่รู้จักส่วนตัว อฟช.ไม่ได้ห้าม แต่ให้ระมัดระวังเรื่องการวางตัว
รูปสวยๆ ย่อมดึงดูดคนนอกให้มาตามได้ เราว่าน้องได้ประโยชน์ตรงนี้
ส่วนตากล้องเอาจริงๆ ถ้ามืออาชีพอ่ะ ย่อมรู้อยู่แล้วการลงแบบไหนส่งผลเสียต่อน้อง
แต่นั้นแหละบางคนลงหรือคุยเพื่อขิง บางคนเอาเป็นพอร์ตไปโชว์ คอนเนคชั่นหาเงิน
ตากล้องส่วนใหญ่ดูออกอยู่แล้วรูปนี้โทนแบบนี้ใครถ่าย โดยไม่ต้องแปะเครดิต
ถ้าอิงมาตรฐานมัยร่า เราว่าเคสนี้คนที่ตากล้องคนนี้ลงก็ควรโดนนะ แสดงตัวขนาดนั้น
และยิ่งถ้ารู้จักเพื่อนตากล้องคนนี้อีกคนคำว่า VIP ต้องเติม V เยอะๆ เลยแหละ
ปลาเผากลายเป็นปลาตอตะโกแน่ๆ (แต่แอดมินแก๊งบ้านนี้น่าจะรับกันได้แบบเคสน้องอุ้มมั๊ง)
-------------

สุดท้ายเรามองว่าอยู่ที่การวางตัวตากล้องมากกว่า ว่าอยากจะให้เป็นแบบไหน
เราว่าที่จะดราม่าเรื่องพวกนี้มากสุด 2 กลุ่มคือ
โอตะสายกล้องที่ไม่มีคอนเนคชั่น (ต้องมาทั้งแคมป์ บางทีเสียตังค์ซื้อที่ก็มี)
กับกลุ่มที่ตัวเองอยู่ภายใต้กฎกติกามาตลอด
(ชั้นจ่ายตังค์เพื่อได้คุยกับน้อง 8 วิ กับได้ถ่ายรูป 2 shot จากมือถือเท่านั้นเอง)
แต่ยุคครูปิ๋ม เราว่าปล่อยขึ้นเยอะนะ และเน้นเส้นสายมากขึ้น
แต่แปลกใจเรื่องสื่อที่สื่อหลัก มาน้อยลงมาก ไม่รู้ว่าจำกัดลงไหม
สื่อออนไลน์ที่ลงข่าวกลุ่มญี่ปุ่นอย่าง IDP หรือ Edge ก็เริ่มหายไป เห็นลงแต่ฝั่งญี่ปุ่นอย่างเดียว
จริงๆ น่าเก็บสื่อสายนี้ไว้ เพราะแม้คนไทยอาจไม่คุ้น แต่คนญี่ปุ่นมาอ่านอย่างน้อยก็ได้อัพเดต 48G ไทย
เหลือแต่สื่อออนไลน์ไทยที่ต้องมีคอนเทนต์เกี่ยวกับไอดอล ซึ่งเรามองว่าทำให้แคบและเฉพาะกลุ่มเกินไป
-------------

ก็หวังว่าจะเป็นอีกเคสที่ อฟช. ยุคครูปิ๋มไม่น่าจะมีแถลงอะไรคงปล่อยจางให้ทะเลาะกันเองก็ได้
เพราะตากล้องคนนี้เคยมีประเด็นเรื่องถ่ายรุ่นสองมาก่อนแล้วนิ และเราว่าข้างในรู้จักอยู่แล้ว

ปัญหาใต้พรมของวงนี้ ขึ้นอยู่กับว่าเมมเบอร์คนนั้นเป็นใคร ถ้าเป็นตัวท้อปคนปกป้องเยอะ คนแก้ต่างให้เพียบ จากผิดก็กลายเป็นถูกได้ อฟช ยังได้ประโยชน์ ก็นิ่งๆเงียบๆ เนียนๆไป แต่ถ้าเป็นเมมไม่ท้อป จุดจบเป็นยังยังไง ก็มีตัวอย่างให้เห็นแล้ว สุดท้ายปัญหาก็ยังซุกไว้ใต้พรมเหมือนเดิม รอวันล่มสลาย