ตอนนี้เราอายุ13ย่าง14ค่ะเริ่มรู้ตัวมาประมาณ2ปีแล้วว่ามีโรคทางจิต คือเราเป็นคนชอบความรุนแรง อารมณ์แปรปรวน เวลานอนไม่ปกติ ทานอาหารมากบ้างน้อยบ้างบางวัน และมีอาการทำร้ายตัวเองค่ะ
เราเริ่มทำร้ายตัวเองตั้งแต่สองปีก่อน ช่วงนั้นคือทำบ่อยมากๆแต่ทำเพื่อระบายอารมณ์อย่างเดียวเพราะคิดว่า "ในเมื่อไม่สามารถระบายมันออกไปกับใครได้ก็ระบายออกมาให้หมดกับตัวเอง" เราทำแบบนั้นปีครึ่งจนแม่มาเห็นแผลเข้า ตอนแรกแม่ก็ไม่ได้สนใจ ตำหนินิดหน่อยเพราะเรามีงานพิเศษที่ต้องแต่งตัว(งานแสดงทั่วไป)และอาจจะมีผลต่อรายได้ของครอบครัว เราที่เห็นว่ามันไม่ได้หนักหนาขนาดนั้นก็ทำต่อไปอีกครึ่งปีแม่ก็เห็นว่าเราทำอีกแล้วเลยถามเราว่า ไปหาหมอมั้ย ตอนนั้นเราดีใจมากค่ะที่แม่เริ่มใส่ใจแต่ก็ไม่สบายใจเกี่ยวกับตัวเองจึงตอบไปว่า ไปค่ะ เราก็นึกว่าแม่จะพาไปแต่ก็สะอึกที่แม่ตอบกลับมาว่า อะไรอะ เป็นบ้าหรอจะไปหาหมอจิต ตรงนี้เราได้แต่เงียบแล้วกลั้นน้ำตาไว้เลยค่ะ
สาเหตุที่ทำให้เราเป็นแบบนี้คิดว่ามาจากครอบครัวและสังคมในโรงเรียนค่ะ ตั้งแต่อายุ10ปีก็เริ่มถูกเพื่อนร่วมยั้นจับกลุ่มบูลลี่ต่างๆนานาจนอายุ12ก็เริ่มเพลาๆกันลงเพราะเริ่มโตๆกันแล้ว แต่ครอบครัวเราถูกกดดันเรื่องเกรดมาตั้งแต่อนุบาลแล้วค่ะ แบบว่า ต้องเรียนได้เกรดเท่านี้นะ ตาำกว่านี้จะถูกยึดของเล่นนะ ต้องท็อปห้าวิชานี้นะ ถ้าได้ต่ำกว่าที่ตั้งไว้ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ท่าทางและน้ำเสียงจะดูไร้เยื่อใยกว่าปกติและจำคำพูดเสียดสีให้เจ็บแสบเล็กน้อย
เหตุการณ์ที่กระจิตใจเรามากที่สุดเป็นตอนอายุ12ค่ะ ช่วงวัยนี้คือเราต้องทำเกรดเพื่อไปสอบเข้าโรงเรียนอื่นซึ่งเราบอกครอบครัวไว้แล้วว่าจะต่อโรงเรียนเดิมท่านก็เข้าใจแต่พอเกรดออกมา เราได้เกรด3.55ซึ่งต่างจากปีก่อนๆที่ได้3.6หรือมากกว่านี้ เพราะด้วยเหตุผลหลายๆอย่างที่ทำมห้เราเกรดตก เราพยายามอธิบายแต่ท่านก็ไม่ยอมเข้าใจจนเราต้องเอาไปบอกเพื่อนหนึ่งและเพื่อนก็ช่วยคุยให้จนเราสาม่รถต่อโรงเรียนเดิมได้
มาถึงปัจจุบันนี้เราก็มีอาการทำร้ายตัวเองร่วมกับพยายามฆ่าตัวตายอยู่บ่อยครั้ง แต่จะชอบแอบทำเพราะกลัวว่าถ้าถูกเจออีกก็จะโดนด่าว่าบ้าอีก ตอนนี้เรามีเพื่อนอยู่คนเดียวเราปรึกษาอะไรหลายๆอย่างกับนางแต่นางก็ดูจะปล่อยมันผ่านไปเฉยๆเหมือนกัน
เราเคยถามแม่อยู่ครั้งหนึ่งค่ะทำนองว่าถ้าป่วยเป็นอาการทางจิตต้องทำยังไง แม่ตอบกลับมาว่า ต้องนั่งสมาธิทำจิตใจให้สงบเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง ตรงนี้คือเราปรี๊ดมากค่ะแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เราเคยคิดจะไปพบแพทย์ด้วยตัวเองแต่เพราะเป็นลูกคนเล็กและเป็นคนสร้างรายได้ให้ครอบครัวพ่อและแม่เลยหวงเป็นพิเศษ เราเรียนพิเศษตั้งแต่วันอาทิตย์-วันศุกร์ มีเวลาว่างวันเสาร์วันเดียวเราจึงต้องการพักผ่อนรวมทั้งผู้ปกครองไม่อนุญาตให้ไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะถ้าเกิดเราเป็นอะไรไปจะมีผบต่อระบบเงินของครอบครัว
เราไม่กล้าจะบอกหรือขอผู้ปกครองเพื่อไปพบแพทย์ โทรสายด่วนก็มีคู่สายไม่พอ ปรึกษาเพื่อนก็เหมือนเพียงแค่ได้นะบายแต่ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น ปรึกษาครูแนะแนวก็กลับครูจะเอาไปป่าวประกาศทั่วโรงเรียน ตอนนี้เราหมดที่พึ่งแล้วค่ะ เราควรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตแบบนี้ดี เราต้องแก้ปัญหาจากจุดไหนก่อน เราจะทำยังไงให้มีคนเข้าใจว่าเราที่เป็นแบบนี้มันทรมานมาก
อยากเข้าพบจิตแพทย์แต่ครอบครัวยังมีทัศนคติลบกับโรคทางจิต
เราเริ่มทำร้ายตัวเองตั้งแต่สองปีก่อน ช่วงนั้นคือทำบ่อยมากๆแต่ทำเพื่อระบายอารมณ์อย่างเดียวเพราะคิดว่า "ในเมื่อไม่สามารถระบายมันออกไปกับใครได้ก็ระบายออกมาให้หมดกับตัวเอง" เราทำแบบนั้นปีครึ่งจนแม่มาเห็นแผลเข้า ตอนแรกแม่ก็ไม่ได้สนใจ ตำหนินิดหน่อยเพราะเรามีงานพิเศษที่ต้องแต่งตัว(งานแสดงทั่วไป)และอาจจะมีผลต่อรายได้ของครอบครัว เราที่เห็นว่ามันไม่ได้หนักหนาขนาดนั้นก็ทำต่อไปอีกครึ่งปีแม่ก็เห็นว่าเราทำอีกแล้วเลยถามเราว่า ไปหาหมอมั้ย ตอนนั้นเราดีใจมากค่ะที่แม่เริ่มใส่ใจแต่ก็ไม่สบายใจเกี่ยวกับตัวเองจึงตอบไปว่า ไปค่ะ เราก็นึกว่าแม่จะพาไปแต่ก็สะอึกที่แม่ตอบกลับมาว่า อะไรอะ เป็นบ้าหรอจะไปหาหมอจิต ตรงนี้เราได้แต่เงียบแล้วกลั้นน้ำตาไว้เลยค่ะ
สาเหตุที่ทำให้เราเป็นแบบนี้คิดว่ามาจากครอบครัวและสังคมในโรงเรียนค่ะ ตั้งแต่อายุ10ปีก็เริ่มถูกเพื่อนร่วมยั้นจับกลุ่มบูลลี่ต่างๆนานาจนอายุ12ก็เริ่มเพลาๆกันลงเพราะเริ่มโตๆกันแล้ว แต่ครอบครัวเราถูกกดดันเรื่องเกรดมาตั้งแต่อนุบาลแล้วค่ะ แบบว่า ต้องเรียนได้เกรดเท่านี้นะ ตาำกว่านี้จะถูกยึดของเล่นนะ ต้องท็อปห้าวิชานี้นะ ถ้าได้ต่ำกว่าที่ตั้งไว้ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่ท่าทางและน้ำเสียงจะดูไร้เยื่อใยกว่าปกติและจำคำพูดเสียดสีให้เจ็บแสบเล็กน้อย
เหตุการณ์ที่กระจิตใจเรามากที่สุดเป็นตอนอายุ12ค่ะ ช่วงวัยนี้คือเราต้องทำเกรดเพื่อไปสอบเข้าโรงเรียนอื่นซึ่งเราบอกครอบครัวไว้แล้วว่าจะต่อโรงเรียนเดิมท่านก็เข้าใจแต่พอเกรดออกมา เราได้เกรด3.55ซึ่งต่างจากปีก่อนๆที่ได้3.6หรือมากกว่านี้ เพราะด้วยเหตุผลหลายๆอย่างที่ทำมห้เราเกรดตก เราพยายามอธิบายแต่ท่านก็ไม่ยอมเข้าใจจนเราต้องเอาไปบอกเพื่อนหนึ่งและเพื่อนก็ช่วยคุยให้จนเราสาม่รถต่อโรงเรียนเดิมได้
มาถึงปัจจุบันนี้เราก็มีอาการทำร้ายตัวเองร่วมกับพยายามฆ่าตัวตายอยู่บ่อยครั้ง แต่จะชอบแอบทำเพราะกลัวว่าถ้าถูกเจออีกก็จะโดนด่าว่าบ้าอีก ตอนนี้เรามีเพื่อนอยู่คนเดียวเราปรึกษาอะไรหลายๆอย่างกับนางแต่นางก็ดูจะปล่อยมันผ่านไปเฉยๆเหมือนกัน
เราเคยถามแม่อยู่ครั้งหนึ่งค่ะทำนองว่าถ้าป่วยเป็นอาการทางจิตต้องทำยังไง แม่ตอบกลับมาว่า ต้องนั่งสมาธิทำจิตใจให้สงบเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง ตรงนี้คือเราปรี๊ดมากค่ะแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เราเคยคิดจะไปพบแพทย์ด้วยตัวเองแต่เพราะเป็นลูกคนเล็กและเป็นคนสร้างรายได้ให้ครอบครัวพ่อและแม่เลยหวงเป็นพิเศษ เราเรียนพิเศษตั้งแต่วันอาทิตย์-วันศุกร์ มีเวลาว่างวันเสาร์วันเดียวเราจึงต้องการพักผ่อนรวมทั้งผู้ปกครองไม่อนุญาตให้ไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะถ้าเกิดเราเป็นอะไรไปจะมีผบต่อระบบเงินของครอบครัว
เราไม่กล้าจะบอกหรือขอผู้ปกครองเพื่อไปพบแพทย์ โทรสายด่วนก็มีคู่สายไม่พอ ปรึกษาเพื่อนก็เหมือนเพียงแค่ได้นะบายแต่ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น ปรึกษาครูแนะแนวก็กลับครูจะเอาไปป่าวประกาศทั่วโรงเรียน ตอนนี้เราหมดที่พึ่งแล้วค่ะ เราควรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตแบบนี้ดี เราต้องแก้ปัญหาจากจุดไหนก่อน เราจะทำยังไงให้มีคนเข้าใจว่าเราที่เป็นแบบนี้มันทรมานมาก