ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 1
1. สองอย่างนี้เหมือนๆ กันครับ ไม่ได้มีรายงานเปรียบเทียบว่ามันต่างกันจริงๆ ระดับไหน แต่ส่วนตัวถ้าให้เลือก ขอเลือก fractora ครับ
2. ทั้งสองอย่างนี้ ได้ผลกับหลุมสิวที่ไม่ได้หนักหนาสาหัสครับ จำนวนครั้งในการรักษา 10+ ครับ ถ้า 2 3 4 ครั้ง มันก็ดีขึ้น แต่ดีในระดับต้องส่องกล้องวัดผลกัน คือมันไม่ใช่ดีมากๆๆๆ อย่างที่เราคาดหวังครับ
3. นองจากตระกูล Ematrix ก็จะมี PicoLaser LIOB อันนี้ข้อดีคือ ไม่ต้องพักหน้านาน สองสามวันแรกหน้าแดงมาก แต่หลังจากนั้นหายไวมากๆ 5-7 วัน แทบเป็นปกติ100% ส่วนผลลัพธ์จะเน้นไปที่หลุมตื้นๆ และรูขุมขนกว้างมากกว่าครับ
4. หลุมใหญ่ หลุมลึก หลุมโค้งปุ่มปั่ม แนะนำให้ทำ สับซิชั่นแล้วฉีดยาเร่งคอลลาเจนครับ แต่สับซิชั่นที่ว่านี้ คือการใช้เข็มปลายมีดสอดลงไปคว้านเลยนะครับ ไม่ใช่เอาเข็มธรรมดามาจิ้มๆ ส่วนยาเร่งคอลลาเจน ก็เช่น PDRN PN PC แต่ขอให้เขาใช้เปอร์เซนต์สูง ไม่ใช่เอาแบบเจือจาง หรือแบบคอกเทลที่มีวิตามินโน่นนี่นั่น แต่กลับให้ PDRN นิดเดียว (มันจะมีขวดแบบคอกเทล ใส่เปปไตด์ ใส่วิตามินโน่นนี่ แล้วผสม PDRN นิดเดียว แต่เวลาขาย เขาจะบอกเราว่า PDRN 1ขวดซะแบบนั้น)
2. ทั้งสองอย่างนี้ ได้ผลกับหลุมสิวที่ไม่ได้หนักหนาสาหัสครับ จำนวนครั้งในการรักษา 10+ ครับ ถ้า 2 3 4 ครั้ง มันก็ดีขึ้น แต่ดีในระดับต้องส่องกล้องวัดผลกัน คือมันไม่ใช่ดีมากๆๆๆ อย่างที่เราคาดหวังครับ
3. นองจากตระกูล Ematrix ก็จะมี PicoLaser LIOB อันนี้ข้อดีคือ ไม่ต้องพักหน้านาน สองสามวันแรกหน้าแดงมาก แต่หลังจากนั้นหายไวมากๆ 5-7 วัน แทบเป็นปกติ100% ส่วนผลลัพธ์จะเน้นไปที่หลุมตื้นๆ และรูขุมขนกว้างมากกว่าครับ
4. หลุมใหญ่ หลุมลึก หลุมโค้งปุ่มปั่ม แนะนำให้ทำ สับซิชั่นแล้วฉีดยาเร่งคอลลาเจนครับ แต่สับซิชั่นที่ว่านี้ คือการใช้เข็มปลายมีดสอดลงไปคว้านเลยนะครับ ไม่ใช่เอาเข็มธรรมดามาจิ้มๆ ส่วนยาเร่งคอลลาเจน ก็เช่น PDRN PN PC แต่ขอให้เขาใช้เปอร์เซนต์สูง ไม่ใช่เอาแบบเจือจาง หรือแบบคอกเทลที่มีวิตามินโน่นนี่นั่น แต่กลับให้ PDRN นิดเดียว (มันจะมีขวดแบบคอกเทล ใส่เปปไตด์ ใส่วิตามินโน่นนี่ แล้วผสม PDRN นิดเดียว แต่เวลาขาย เขาจะบอกเราว่า PDRN 1ขวดซะแบบนั้น)
แสดงความคิดเห็น
เลเซอร์ E-matrix vs. Fractora?
ขอบพระคุณค่ะ