ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะ ว่าปกติเราจะรีวิวแต่เรื่องท่องเที่ยว เลยอาจจะไม่ถนัดในการรีวิวพวกการรีโนเวทห้อง ครั้งนี้ครั้งแรกเลยในการรีวิวเรื่องพวกนี้ (อย่างว่าแหละเนอะ ใครจะรีวิวเรื่องนี้ได้กันบ่อยๆ 55)

อะไรที่ทำให้เราอยากจะรีโนเวทห้อง เรื่องมันเกิดจากช่วงโควิด และ Lockdown ครั้งแรก ที่เราต้องมา Work From Home ที่ห้องเป็นเดือนๆ นี่แหละ มันทำให้เราเริ่มให้ความสำคัญกับห้องพักมากขึ้น เพราะปกติแล้วเราก็ใช้เวลาที่จะพักผ่อนในห้องแค่ตอนหลังเลิกงาน กลับมาก็นอน ตื่นเช้าก็ไปทำงาน มันเลยไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไร แต่พอต้องมาอยู่ที่ห้องเป็นเดือนๆ ติดๆ กัน มันก็เลยเริ่มอยากที่จะปรับปรุงห้องให้มันดีขึ้น นี่เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเริ่มต้นรีโนเวทห้องนี้

เริ่มจากส่วนไหนก่อนดี เอาเป็นว่าเริ่มจากส่วนของแปลนห้องกันก่อนดีกว่า เพื่อนๆ จะได้นึกภาพตามกันไปได้ถูก (อันนี้วาดเอง 55) ฉบับบ้านๆ มากๆ 
คอนโดที่เราอยู่ จะมีเนื้อที่ 40 ตรม นะคะ แปลนห้องก็ประมาณนี้แหละ 

มาดูห้องเดิมๆ ก่อนที่เราจะเริ่มการรีโนเวทกันก่อนเลยดีกว่า

ส่วนแรกจะเป็นส่วนของห้องนอนก่อน ถ้าเพื่อนๆ สังเกตเห็นในภาพจะมีกล่องพลาสติกสีขาวเยอะๆ  คือเราเอามาใส่เสื้อผ้าที่ใส่ไม่พอในตู้เสื้อผ้ารวมไปถึงของเยอะแยะมากมาย แต่เอาเข้าจริงๆ ซื้อเท่าไรก็ไม่พออยู่ดี พอมานั่งคำนวนค่ากล่องพลาสติกที่ซื้อมาทั้งหมด ซื้อทีละอัน สองอัน แต่พอรวมๆแล้วจะซื้อตู้เสื้อผ้าได้ 1 ตู้แล้วมั้ง 

ในภาพด้านล่างที่เห็น ของในกล่องหายไปหมดแล้ว เพราะเราเพิ่งคิดได้ว่าอยากจะทำรีวิวก็ตอนที่เริ่มรื้อของย้ายแล้ว 

ส่วนที่ 2 จะเป็นห้องนั่งเล่น  ซึ่งจากภาพที่เห็นคือ ของก็จะเยอะมากเช่นกัน สังเกตได้แล้วแทบจะไม่มีที่เดินเลย มุมสุดใกล้หน้าต่างยังคง Concept เดิมคือ กล่องพลาสติกใส่เสื้อผ้า 555 ล้นมาที่ห้องนั่งเล่น รูปนี้ถ่ายช่วง Work From Home คอมเลยเยอะหน่อยเพราะเอาคอมกลับมาทำงานที่ห้อง

ส่วนที่ 3 ก็จะเป็นห้องครัว ซึ่งเรารู้สึกว่ามันยังไม่เป็นสัดเป็นส่วนเท่าไร แต่ตู้ครัวที่ได้มาจากโครงการตั้งแต่แรก มันเป็นพวกไม้ปาติเกิ้ล ซึ่งพอใช้ไปนานๆ หลายปี ก็จะเริ่มบวมเริ่มพังตามกาลเวลาค่ะ (ที่เห็นตู้เย็นสองใบเพราะจะเอาอีกตู้นึงย้ายไปอีกทีจ๊ะ)

ส่วนสุดท้าย คือห้องน้ำ จริงๆ ส่วนนี้เป็นส่วนที่คิดว่า เดี๋ยวค่อยทำก็ได้ แต่เออ พอคุยกันไปมา แล้วก็มีแต่คนบอกว่า ถ้าทำห้องแล้ว มาทำห้องน้ำที่หลัง ห้องก็จะเลอะเทอะ ฝุ่นก็จะเพียบอีก ก็เลยตัดสินใจทำให้จบๆ ไปทีเดียว

หลังจากดูภาพก่อนที่จะรีโนเวทกันแล้ว มาสรุปสิ่งที่เราจะเปลี่ยนแปลงห้องนี้กันดีกว่า เราเลือกที่จะเปลี่ยนห้องให้เป็นโทนอบอุ่นๆ สว่างๆ เน้นโทนสีขาว ไม้ เทา เพื่อทำให้ห้องดูกว้างขึ้น (คิดเองว่ามันช่วย 55) และอยากให้ห้องดูโล่งๆ สบายๆ ต้องบอกก่อนว่ารีวิวนี้จะบ้านๆ มากๆ เพราะว่าเราไม่ได้จ้าง Interior ใดๆ ทุกอย่างที่ทำขึ้น การจัดวางต่างๆ เกิดจากการจินตนาการ และมโนล้วนๆ นะ 

1. พื้นห้องทั้งหมด เปลี่ยนจากพื้นลามิเนต เป็นกระเบื้องยาง คลิ๊กล็อค เราเลือกสีโทนอ่อน เพื่อให้ห้องดูกว้างขึ้น 

2. ทาสีห้องใหม่ เป็นสีโทนเทาอ่อนๆ ถามว่าทำไมถึงไม่ติดวอลเปเปอร์ เราคิดเองว่าเพราะมันเป็นคอนโดเก่า และมันยังมีส่วนที่น้ำรั่วอะไรอย่างนี้ ถ้าติดวอลเปเปอร์ ถ้าเกิดมันรั่วอีก จะมองเห็นได้ยาก และที่สำคัญเลย เวลาติดวอลเปเปอร์จะรื้อหรือเปลี่ยนใหม่ ก็ต้องเสียค่าจ้างรื้อวอลเก่าออกอีก เลยคิดว่าทาสีไปซะให้มันจบๆ และที่สำคัญสุดเลย คือค่าใช้จ่ายการทาสีถูกกว่าวอลเยอะเหมือนกัน 555

3. อย่างที่เห็นประตูห้องทั้งหมดของเราจะเป็นโทนสีน้ำตาลเข้มออกไปทางแดง ซึ่งเราคิดว่ามันน่าจะไม่เข้ากับห้องที่คิดว่าจะทำเป็นสีโทนอ่อน เลยกัดฟันเสียตังพ่นสีขาวทั้งหมดแทน และเปลี่ยนกลอนประตูให้เป็นสีเงินทั้งหมดจะได้เข้ากับห้องมากขึ้น

4. ทำการรื้อครัวใหม่ จัดครัวใหม่ให้มีส่วนของโต๊ะที่สามารถนั่งทานข้าวได้ และถ้าไม่ได้นั่งทานข้าวก็ยังเอาโต๊ะที่ต่อเพิ่ม มาทำเป็นที่เตรียมอาหารต่างๆ ได้เช่นกัน และให้ใต้โต๊ะทานข้าวเป็นตู้เก็บของเพื่อให้เก็บของได้เยอะขึ้นได้ด้วย ตามภาพด้านล่าง (วาดแบบ บ้านมากๆ)  และในส่วนตรงห้องครัว ก็มีการปูพื้นกระเบื้องใหม่โทนสีสว่างเช่นกัน 

5. ตู้รองเท้า และตู้เก็บของด้านบน ตรงด้านซ้ายข้างประตูทางเข้า เราอยากได้ตู้ที่เก็บรองเท้าได้เยอะๆหน่อย 

6. เป็นในส่วนของห้องนั่งเล่น และโต๊ะทำงาน ก็จะเน้นซ่อนปลั๊กไฟไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ ทีวี และอุปกรณ์กล่องต่างๆ ไว้ในตู้ให้หมด เพราะเราอยากให้ห้องนี้ แบบโล่งๆ ดูไม่รก ให้ทุกอย่างเก็บในตู้ให้หมด

7. ส่วนฝั่งตรงข้ามทีวี จะเป็นโซฟา เราคิดว่าเดี๋ยวเราจะติดรูป ก็เลยให้เค้าทำกล่องไฟ ให้ตกลงมาตรงรูปภาพ แล้วติดแผ่นอะคริลิกขุ่น เพื่อให้แสงมันดูซอฟลง ไม่สว่างเกินไป 

8. ในส่วนห้องนอน เราจะเน้นเป็นตู้เสื้อผ้ายาวๆ เป็นตัว L เพื่อจะได้เก็บทุกสิ่งอย่างไปในตู้ให้หมด และเตียงนอนใต้เตียงเป็นแบบยกเก็บของได้อีก เผื่ออนาคตของเยอะขึ้น 555

9. ในส่วนของห้องน้ำ คือไปเห็นคอนโดส่วนกลางที่นึงมาแล้วแบบชอบกระเบื้องลายหินอ่อนมาก ก็เลยเลือกที่จะเป็นลายหินอ่อน และเปลี่ยนตรงอ่างล้างหน้าเป็นตู้เก็บของตู้บน และตู้ล่าง เพื่อเก็บของให้ได้เยอะๆ เช่นเดิม

จากที่เราจะเปลี่ยนแปลงทั้งหมด จะเห็นได้ว่า เราเน้นทุกอย่างเป็นสิ่งที่เก็บของให้ได้เยอะๆ ทั้งหมด เพราะเราคิดว่า คอนโดมันไม่ได้ใหญ่มากถ้าเก็บของไปในตู้ให้หมด มันจะดูสะอาดตา และดูห้องโล่งขึ้นค่ะ

คราวนี้เรามาดูการรีโนเวทกันเลยดีกว่า 

 ก็เริ่มจากการรื้อพื้น รื้อครัวกัน รวมไปถึงทำห้องน้ำกันก่อนเลยจ้า

  


 


ตอนที่คิดจะทำห้องน้ำ ไม่หนักใจเท่าตอนไปเลือกกระเบื้องห้องน้ำ เพราะในใจเราแค่คิดว่าเออ จะเอาลายหินอ่อนใช่ป่ะ แต่พอไปถึงที่จริงๆ มันหินอ่อนทั้งนั้น แล้วประเด็นคือหินอ่อนแบบไหนที่เหมาะกับเรา หินอ่อนอันไหนที่เราชอบจริงๆ เราเลยใช้วิธีถ่ายรูปออกมาดูอีกรอบนึง ว่าเออมันออกมาแล้วจะสวยไหมบวกกับจินตนาการ มโนล้วนๆ อย่างรูปแรกเป็นกระเบื้องที่เราเลือกพื้นและผนังที่ห้องน้ำ อย่างพื้น เราไม่อยากได้ที่มันด้านไปเลย ก็เลยเลือกแบบที่เป็นกึ่งด้านกึ่งเงาแทนค่ะ ส่วนผนังเอาเป็นแบบเงาไป

(กระเบื้องของบุญถาวรที่เราสั่งไปทำห้องน้ำ ข้อดีคือ สั่งได้ตลอด ไม่พอก็ยังมีสต๊อกของ และสามารถสังได้เป็นแผ่นๆ ก็ขาย)
   
รูปล่างเป็นรูปที่ทาง พนักงานของสยามตากส่งรูปมาให้ดูลายหินอ่อน ที่จะปูที่ตรงห้องครัว ข้อดีของสยามตากที่สั่งกระเบื้องคือ กระเบื้องถูกมาก แต่ข้อเสียคือ มีจำนวนจำกัด เพราะฉะนั้นหากเลือกว่าจะปูกระเบื้องโดยใช้ของสยามตาก ให้สั่งเผื่อไว้เลย เพราะหากเกิดผิดพลาดขึ้นมา สั่งเพิ่มจะไม่มีนะคะ ของหมดเร็วมาก 


ห้องน้ำก็เริ่มปูกระเบื้องกันแล้ว ของเราเป็นแบบปูกระเบื้องทับของเก่าไปเลย  จากในภาพคือเราไม่รู้ใครเป็นไงนะ แต่สำหรับเราคือเราต้องการให้กระเบื้อง ผนัง และพื้น มันต้องตรงแนวเดียวกันทั้งหมด ก็จะมีการรื้อและปูใหม่อยู่หลายรอบเหมือนกัน ไม่ตรงแนวบ้าง เอาพื้นมาปูผนังบ้าง แต่ยังดีที่มันสามารถรื้อได้เพราะว่ายังไม่ได้ยาแนว แต่ถ้ายาแนวแล้ว กระเบื้องไม่สามารถรื้อได้นะ ถ้ารื้อเราก็อาจจะเสียกระเบื้องอันนั้นไปเลย เพราะมันอาจจะแตกหรือบิ่นได้

รูปด้านบน กระเบื้องไม่ตรงแนวกัน ก็รื้อใหม่จ๊ะ

ไม่ตรงแนวรื้ออีกแหละ
 
รูปด้านบนที่วง กระเบื้องปูผิด เอากระเบื้องพื้นมาปูผนัง 555 รื้อและรื้อและรื้อ จนสุดท้ายหลังจากพยายามมาเฝ้าช่าง ก็เป็นอันตรงแนวกันเรียบร้อย

ตู้กระจกในห้องน้ำ เก็บของได้เยอะๆ จะได้ดูเรียบร้อย 555 

ติดตั้งไฟ LED รอบตู้ จะได้ดูห้องมีมิติมากขึ้น

กระจกกั้นอาบน้ำ เราก็ขอเลือกกระจกแบบมีขอบดำ แบบในภาพล่าง มันจะได้ดูแบบไปในทางเดียวกัน เพราะพวกสุขภัณฑ์ต่างๆ ที่เราใช้ จะเป็นแบบสีดำทั้งหมด (พวกสุขภัณฑ์เอาจริงๆ ไม่ได้คิดไว้ว่าจะเลือกสีดำทั้งหมด แต่พอไปเดินดู มันเหมือนมีแรงดึงดูดอ่า ก็คือเดินไปดูแต่สีดำ ก็เลยเลือกสีดำทั้งหมด


หลังจากทำๆ รื้อๆ ก็ไปดูภาพที่เสร็จเรียบร้อยกันดีกว่า จะได้สบายหูสบายตา เรื่องมาม่า เราไม่อยากพูดมาก เอาเป็นว่า ถ้าเพื่อนๆ คนไหนจะรีโนเวท เราอยากให้มีเวลาคุยกับช่างเยอะๆ และมีเวลาว่างพอที่จะไปเฝ้าเค้าบ้างในบางวันที่มันจำเป็นต้องมีเราอยู่ (อันนี้ในกรณีที่ไม่ได้จ้างคนออกแบบเนอะ) เพราะบางทีภาพของเรากับภาพของเค้ามันอาจจะไม่ตรงกันก็ได้

อย่างวันที่ติดตั้งตู้อ่างล่างหน้า เราก็อยู่ เพราะความสูงของตู้อ่างล่างหน้า มันก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนจริงๆ นะ บางทีมาตรฐานเค้าบอกสูงเท่านั้นเท่านี้ มันอาจจะไม่ตอบโจทย์เราเสมอไปก็ได้ อย่างอันนี้ความสูงก้อมีปรับขึ้นมาอีกเยอะพอสมควร หรือบางครั้งการรีโนเวทอ่า มันจะมีข้อจำกัดหลายๆเรื่อง อย่างเช่น ปลั๊กไฟ หรือจุดต่างๆ ที่มันไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ การที่เราอยู่หน้างาน มันก้อสามารถตัดสินใจอะไรได้ตรงตามที่เราต้องการมากกว่าให้เค้ามาตัดสินใจแทนเรา เพราะบางทีเค้าตัดสินใจให้ มันอาจจะไม่ได้ถูกใจเราก็ได้เช่นกัน




 ช่างสีก็เริ่มมาพ่นสี ในรูปด้านล่างเราถ่ายไว้ในวันที่พ่นสีรอบแรกค่ะ จริงๆ พ่นไปประมาณ 6-7 รอบเลยแหละ เพราะสีเก่าของเราค่อนข้างเข้ม กว่าจะทำให้ขาวเนียนได้ ยากพอสมควรเลยแหละ




รูปด้านบนเป็นประตูทางเข้าห้อง ก็จะเป็นการพ่นสีขาวแค่ฝั่งเดียว เพราะด้านนอกยังให้เป็นสีเดียวกับทางคอนโดอยู่