เริ่มต้นมาจากการปี 60 ซื้อบ้านหลังหนึ่งที่ผู้กู้หลักไม่สามารถกู้คนเดียวผ่านได้จึงขอให้มีผู้กู้ร่วม
โดยผู้กู้หลักจะทำการรีไฟแน๊นซ์หลังครบ 3 ปี เนื่องจากจะย้ายงานเพิ่มฐานเงินเดือนให้มีศักยภาพในการกู้คนเดียว
สัญญาณเตือนครั้งที่ 1
ผิดนัดชำระ 3 วัน ธนาคารโทรมาทวงหนี้กับผู้กู้ร่วม
ผู้กู้ร่วมมีการติดต่อกลับไปซึ่งผู้กู้หลักได้ชำระหลังจากนั้น 1 วัน
หลังจากนั้นผู้กู้ร่วมรู้สึกสงสัยในศักยภาพในการผ่อนชำระของผู้กู้หลัก ได้มีการสอบถาม และเสนอแนวทาง
1.หากไม่มีกำลังผ่อนชำระแล้วขอเสนอให้ทำการขาย ผู้กู้หลักปฏิเสธ และบ่ายเบี่ยง
2.ทวงถามถึงการรีไฟแน๊นซ์ก่อนครบกำหนด 3 ปี ผู้กู้หลักขอให้รอจนกว่าจะหาคนมีเสียบชื่อแทนได้/อ้างว่าเพิ่งย้ายงานไม่ครบ 1 ปีไม่สามารถทำการกู้ใหม่ได้
สัญญาณครั้งสุดท้ายหลังเวลาผ่านไป 3 ปี (ระหว่างทางมีถามเรื่องการผ่อนชำระ การรีไฟแน๊นซ์เป็นระยะ คำตอบที่ได้คือ ไม่มีปัญหาเรื่องการชำระเงิน แต่ยังหาคนมากู้แทนไม่ได้จะทำการรีไฟแน๊นซ์เมื่อครบ 3 ปี)
ผู้กู้ร่วมต้องการทำธุรกรรมทางการเงินกับทางธนาคาร คือการกู้สินเชื่อรถยนต์ ธนาคารปฏิเสธการกู้เนื่องจากผู้กู้ร่วมติดเครดิตบูโร
ผู้กู้ร่วมจึงตัดสินใจตรวจสอบเครดิตบูโร พบว่าบัญชีการกู้ร่วมมีการไม่ผ่อนชำระมากกว่า 3 เดือนซึ่งธนาคารไม่ได้โทรมาทวงถามกับผู้กู้ร่วมแบบครั้งแรกจึงสอบถามกลับไปทางผู้กู้หลักและธนาคาร
ความจากผู้กู้หลัก
1.ได้มีการขอพักชำระหนี้เป็นเวลา 6 เดือนซึ่งธนาคารไม่ได้แจ้งว่าจะต้องจ่ายเดือนไหนไ ด้มีการชำระไปบางส่วนแล้ว
2.ได้มีการให้ญาติดำเนินเรื่องในการกู้ซื้อบ้านแทนเพื่อเอาชื่อออก
ความจากธนาคาร
1.ผู้กู้หลักขอพักชำระและได้มีการติดตามหนี้โดยผู้กู้หลักไม่ทำการจ่ายเป็นเวลาเกิน 3 เดือน ธนาคารได้ส่งจดหมายแจ้งหนี้ และบัญชีติด NPL
2.ทางผู้กู้หลักยังไม่มีการชำระเงินเข้ามาเพื่อปรับสถานะบัญชีเป็นปกติ
ขอถามความเห็นว่าในกรณีแบบนี้ทางผู้กู้ร่วมสามารถทำอะไรได้บ้าง
1.ผู้กู้ร่วมเสียเครดิตบูฌรทำธุรกรรมไม่ได้ 36 เดือน(ตามที่ธนาคารแจ้ง)
2.ผู้กู้หลักไม่ยินยอมที่จะให้ขายบ้านและไม่มีหลักฐานในการดำเนินเรื่องปรับสถานะบัญชีที่ติด NPL
3.ผู้กู้หลักผลัดไปเรื่อยๆไม่ได้ความชัดเจน
ตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ต้องการให้จบเร็วที่สุด
เมื่อเป็นผู้กู้ร่วมในนามแต่ต้องมาเสียเครดิตบูโรเพราะผู้กู้หลักไม่ชำระค่างวดเกิน 3 เดือน
โดยผู้กู้หลักจะทำการรีไฟแน๊นซ์หลังครบ 3 ปี เนื่องจากจะย้ายงานเพิ่มฐานเงินเดือนให้มีศักยภาพในการกู้คนเดียว
สัญญาณเตือนครั้งที่ 1
ผิดนัดชำระ 3 วัน ธนาคารโทรมาทวงหนี้กับผู้กู้ร่วม
ผู้กู้ร่วมมีการติดต่อกลับไปซึ่งผู้กู้หลักได้ชำระหลังจากนั้น 1 วัน
หลังจากนั้นผู้กู้ร่วมรู้สึกสงสัยในศักยภาพในการผ่อนชำระของผู้กู้หลัก ได้มีการสอบถาม และเสนอแนวทาง
1.หากไม่มีกำลังผ่อนชำระแล้วขอเสนอให้ทำการขาย ผู้กู้หลักปฏิเสธ และบ่ายเบี่ยง
2.ทวงถามถึงการรีไฟแน๊นซ์ก่อนครบกำหนด 3 ปี ผู้กู้หลักขอให้รอจนกว่าจะหาคนมีเสียบชื่อแทนได้/อ้างว่าเพิ่งย้ายงานไม่ครบ 1 ปีไม่สามารถทำการกู้ใหม่ได้
สัญญาณครั้งสุดท้ายหลังเวลาผ่านไป 3 ปี (ระหว่างทางมีถามเรื่องการผ่อนชำระ การรีไฟแน๊นซ์เป็นระยะ คำตอบที่ได้คือ ไม่มีปัญหาเรื่องการชำระเงิน แต่ยังหาคนมากู้แทนไม่ได้จะทำการรีไฟแน๊นซ์เมื่อครบ 3 ปี)
ผู้กู้ร่วมต้องการทำธุรกรรมทางการเงินกับทางธนาคาร คือการกู้สินเชื่อรถยนต์ ธนาคารปฏิเสธการกู้เนื่องจากผู้กู้ร่วมติดเครดิตบูโร
ผู้กู้ร่วมจึงตัดสินใจตรวจสอบเครดิตบูโร พบว่าบัญชีการกู้ร่วมมีการไม่ผ่อนชำระมากกว่า 3 เดือนซึ่งธนาคารไม่ได้โทรมาทวงถามกับผู้กู้ร่วมแบบครั้งแรกจึงสอบถามกลับไปทางผู้กู้หลักและธนาคาร
ความจากผู้กู้หลัก
1.ได้มีการขอพักชำระหนี้เป็นเวลา 6 เดือนซึ่งธนาคารไม่ได้แจ้งว่าจะต้องจ่ายเดือนไหนไ ด้มีการชำระไปบางส่วนแล้ว
2.ได้มีการให้ญาติดำเนินเรื่องในการกู้ซื้อบ้านแทนเพื่อเอาชื่อออก
ความจากธนาคาร
1.ผู้กู้หลักขอพักชำระและได้มีการติดตามหนี้โดยผู้กู้หลักไม่ทำการจ่ายเป็นเวลาเกิน 3 เดือน ธนาคารได้ส่งจดหมายแจ้งหนี้ และบัญชีติด NPL
2.ทางผู้กู้หลักยังไม่มีการชำระเงินเข้ามาเพื่อปรับสถานะบัญชีเป็นปกติ
ขอถามความเห็นว่าในกรณีแบบนี้ทางผู้กู้ร่วมสามารถทำอะไรได้บ้าง
1.ผู้กู้ร่วมเสียเครดิตบูฌรทำธุรกรรมไม่ได้ 36 เดือน(ตามที่ธนาคารแจ้ง)
2.ผู้กู้หลักไม่ยินยอมที่จะให้ขายบ้านและไม่มีหลักฐานในการดำเนินเรื่องปรับสถานะบัญชีที่ติด NPL
3.ผู้กู้หลักผลัดไปเรื่อยๆไม่ได้ความชัดเจน
ตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ต้องการให้จบเร็วที่สุด