เรื่องสั้น : ปีศาจ บทที่ 2

กระทู้สนทนา

บทที่ 2 การตอบโต้

หลังจากวันแรกในโรงเรียนใหม่จบลง อุปสรรค หรือ สัก นั่งรถเมล์ วน อนุสาวรีย์กลับบ้าน รถเมล์สายนี้จะข้ามฝั่งธนบุรี ตรงมาหน้าโรงเรียน และ ขากลับก็ขึ้นหน้าโรงเรียน รถเมล์ จะวนอนุสาวรีย์แล้วกลับไปฝั่งธนบุรี โดยไม่ต้องข้ามถนน และ ระหว่างนั่งรถดมฝุ่น PM2.5 ใจของสักก็ขุ่นมัว จนกระทั่งเขาลงรถป้ายปากซอยบ้านพอดี  เมื่อกลับถึงบ้านเขาก็เห็นแม่ กำลังทำกับข้าวมื้อเย็น และก็กวาดบ้าน สักรีบเข้าไปช่วยแม่ กวาดบ้านแทน และ ให้แม่นั่งพัก รอซุปกระดูกหมูต้มให้ได้เวลาสุก และข้าวในหม้อหุงข้าวก็ยังหุงไม่เสร็จ ทำให้แม่สักได้นั่งพัก และ ยิ้มให้สัก พร้อมถามว่า โรงเรียนเป็นไงมั่งลูก ....

สัก เห็นแม่เหนื่อยกับการทำงานบ้าน และกับข้าวอาหารมื้อเย็น บ้านเขาไม่รวยอะไร พ่อทำงานคนเดียว แม่เลี้ยงลูก 3 คน เขาเป็นคนโต มีน้องชายห่างกัน 2 ปี ซึ่งก็หมายมั่นจะให้เข้าเรียนที่เดียวกับเขา น้องชายเขาชื่อ อุปโหลก เป็นเด็กหน้าตาดี ท่าทางไม่ยอมใคร และมีน้องสาวชื่อ อุปถัมอยู่ ป 1 

สัก ตอบแม่ว่า ก็ไม่มีอะไรแม่ 
แม่สักก็พยักหน้า แล้วบ่นว่า เมื่อย และ ปวดหลัง ทำให้สักรีบเข้าไปช่วยนวดให้แม่ เหมือนกับพี่เขาเคยทำตั้งแต่เด็กๆ นวดนิดๆ หน่อยๆ แม่ก็บอกพอ หายเมื่อยแล้ว และไปทำกับข้าว ทำอาหารเย็นต่อ และ พอค่ำๆ พ่อสัก ก็กลับบ้านมา ด้วยรถโดยสารสาธารณะเช่นกัน แล้ว ครอบครัว ก็กินข้าวพร้อมกัน และ สักก็รู้สึกสบายใจขึ้น เข้านอนและ เตรียมตัวไปโรงเรียนในวันที่ 2 ต่อไป 

เช้าวันที่ 2 วันพฤหัสของสัปดาห์ สักไปโรงเรียนด้วยรถเมล์สายเดิม ขึ้นหน้าปากซอยแล้วรถก็เข้าอู่พอดี สักต่อรถคันใหม่แบบไม่เสียตังค์เพราะป้ายหน้าปากซอยบ้านสักนั้นคือป้ายสุดท้ายก่อนเข้าอู่รถเมล์ สักก็ไม่ต้องข้ามถนนทั้งขาไป และกลับบ้าน ทำให้พ่อแม่อุ่นใจ อย่างน้อยก็เรื่องการเดินทาง

วันที่  2 วันนี้พวก มาร 4 ตัวไม่มารังควาญ แต่สักก็ได้พบ ขาโจ๋ ตัวใหม่ กั๋งสุด เขาคือ สาโรจน์ ตัวสูงๆ หัวยาวๆ หน้าตาเอ๋อๆ สาโรจน์เดินถามนักเรียนเพื่อนร่วมห้องไปทีละคน ด้วยภาษาหยาบๆ เช่น มิงชื่อไร และก็ข่มคนที่ตัวเล็กๆบางคน และตัวเท่าๆกัน สาโรจน์ จะได้แต่ทำท่าขู่นิดๆ พอบางคนตาแข็งใส่ สาโรจน์จะหลบตา แล้วตีกรรเชียงออกไป และ ไม่ไปยุ่งกับ 4 มารผจญที่นั่งหลังห้องที่วันแรกล้อสัก  เแต่จะเข้าไปคุยเล่นด้วยกับ 4 คนนั้น ด้วยความที่น้อยกว่าในด้านจำนวน ที่ตัวคนเดียว ซ่าส์คนเดียวนั่นเอง และ สาโรจน์ก็ เดินมาตบหัวสัก พร้อมทักว่า ไอ้อ้วน เอาเงินมาใช้หน่อยเด๋ะ 

สัก โกรธแต่มองเห็นสาโรจน์ท่าทาง กุ๊ยดีๆนี่เอง เจ็บหัวและโกรธ แต่ก็พูดไปเบาๆว่า ไม่มี สาโรจน์ ขู่หนักขึ้น ทุบโตีะดังปัง แต่ไม่มีใครสนใจ นอกจากสัก ที่ต้องเผชิญหน้าอยู่คนเดียว และเมื่อครูเดินเข้าห้องมา ทุกอย่างก็จบ สาโรจน์กระโดดกลับโตีะที่นั่งติดประตู ส่วนสักนั่งติดหน้าต่าง เป็นอันหมดเคราะห์กันไป เพราะสาโรจน์ก็ไม่มายุ่งอีกในวันนั้น 

ชั่วโมงสุดท้าย ครูปวดท้อง ห้องไม่มีครูสอน สักนั่งคิด ทำไมหนอ โรงเรียนเก่าเขาก็เจอพวกนักเลง โรงเรียนใหม่ ก็มาเจอตั้งแต่วันแรกๆ ทั้งล้อ ทั้งรังแก ตามประสาเด็ก ม 1 เขาร้องไห้ออกมาน้ำตาไหลอาบแก้มคนเดียว ด้วยความที่ครอบครัวเขา แม่สอนว่าอย่าชกต่อย และเขาก็ไม่เคยสู้ใคร มีแต่วิ่งหนี กับโดนรังแก มีให้แคสองอย่างที่เลือก และบางวันก็เลือกไม่ได้  การฟ้องครู เหมือนแก้ปัญหาปลายเหตุ เพราะคนที่รังแกเขาตั้งแต่ประถม ไม่เคยเลิกรังแกเขา ลับหลังครูเลย จะให้พ่อแม่มาคุยกับครูกี่ครั้ง เรื่องราวฝันร้ายก็ไม่จบ สัก ยังวนเวียนในความคิดของตนเอง และทันใดนั้น ...

มือหนักพอประมาณ ตบที่บ่าสัก แล้วเรียกเขาว่า เฮ้ย ทำให้สักเช็ดน้ำตาก่อนหันไปดู ก็เห็น ไอ้หน้าขาว หรือ ไอ้ขาวหนึ่งในสี่มารที่มาล้อชื่อแม่เขา เดินมาทัก  มือวางที่บ่าสัก และ ยืนยิ้มนิดๆ แต่คราวนี้ สัก หน้าบึ้งทันที และตั้งใจว่าจะไม่ยอมอีกแล้ว เขาสะบัดมือไอ้ขาวออก แล้ว ลุกขึ้น ทำให้ ไอ้ขาว ที่ยืนอยู่แทบจะติดกัน ยืนประจัญหน้ากับสัก แบบ เพื่อนในห้องทุกคน ถึงกับหันไปดู ยกเว้น สาโรจน์ ที่ง่วนอยุ่กับการข่มขุ่  เพื่อนตัวเล็กสุดที่ชื่อ เด็กชาย ก่อบ้าน เพื่อนๆเรียนกันว่า ก่อ ๆ ๆ ก็เป็นอีกสถานการณ์หนึ่งในห้องที่แยกออกจากเรื่องของสัก

------------------------  มีต่อครับ ---------------------------
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่