ปัจจุบันมีคอลลาเจนวางขายอยู่มากมาย หลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็บอกว่าดีต่างๆกันไป วันนี้เราจะแนะนำ 5 เทคนิคการเลือกซื้อคอลลาเจนให้กับคุณ แต่ก่อนจะไปถึงเทคนิคการเลือกซื้อคุณควรรู้ก่อนว่าคอลลาเจนคืออะไร กินไปทำไมกันนะ
*บทความจากการหาข้อมูลในงานวิจัยต่างประเทศ พบว่าการทานคอลลาเจนได้ผลจริงนะครับ
แต่ถ้าหากผิดพลาดประการใดสามารถท้วงติงได้ครับ
.
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีมากที่สุดในร่างกายทำหน้าที่คล้ายกาว ยืดเกาะอวัยวะทุกอย่างของคุณเอาไว้ ถ้าอายุเกิน 30-40 ปี คอลลาเจนก็จะลดลง ผิวหนัง กระดูก ข้อ กล้ามเนื้อ เส้นผม เล็บ ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพตามไปด้วย
.
นอกจากนี้ตัวการที่เร่งให้คอลลาเจนของเราเสื่อมสลายไปเร็วมากขึ้นได้แก่ การทานอาหารที่มีน้ำตาลทรายผสมมากๆ ความเครียด ขาดสารอาหาร โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ สูบบุหรี่ การโดนแสงแดด และมลพิษจากอากาศ
.
การทานคอลลาเจนเสริมจึงช่วยให้ ลดเลือดริ้วรอย เสริมความยืดหยุ่นของผิวหนัง ทำให้ผิวนุ่มลื่นมากขึ้น, ลดอาการปวดข้อ ข้อเสื่อม เสริมสร้างน้ำไขข้อ , เสริมสร้างมวลกระดูก , บำรุงเส้นผมและเล็บ, ลดไขมันตามเส้นเลือด , ปรับสมดุลล้ำไส้ ลดอาการท้องผูกหรือท้องเสียบ่อยๆ
.
1.เลือกคอลลาเจนให้ถูกชนิด คอลลาเจนแบ่งเป็น 3 ชนิดได้แก่
คอลลาเจนชนิด 1 (type 1) เป็นส่วนประกอบของผิวหนัง เล็บ และเส้นผม
คอลลาเจนชนิด 2 (type 2) พบตามไขข้อ และกระดูกอ่อน
คอลลาเจนชนิด 3 (type 3) พบมากในกล้ามเนื้อ
ดังนั้นเราควรเลือกใช้คอลลาเจนที่มีส่วนผสมของ คอลลาเจนชนิดที่ 1 มากที่สุดเพื่อการบำรุงผิวพรรณ และเส้นผม
เลือกชนิดที่ 2 และ 3 กรณีที่ต้องการบำรุง ไขข้อ กล้ามเนื้อ
(จริงแล้วมีคอลลาเจนมากกว่า 10 type แต่ไม่ขอลงรายละเอียดในที่นี้นะครับเพราะไม่เกี่ยวข้องกับผิวและข้อ)
.
2. เลือกคอลลาเจนที่มีขนาดเล็ก
คอลลเจนขนาดเล็กร่างกายจะดูดซึมได้ง่ายและนำไปซ่อมแซมผิวหนัง เล็บ ผม และไขข้อได้โดยตรง โดยให้เลือกคอลลาเจนที่เขียนว่า เป็นไฮโดรไลซ์คอลลาเจน หรือ คอลลาเจนเปปไทด์ (hydrolized collagen, collagen peptide) จะมีขนาดเล็กกว่าคอลลาเจนปกติ ทำให้ได้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
.
3. ปริมาณคอลลาเจนถ้ามีมากยิ่งทำให้ถูกนำไปใช้ได้มากยิ่งขึ้น
เนื่องจากข้อมูลในงานวิจัยที่เห็นผลจริง มีใช้ขนาดตั้งแต่ 2500-10000 มก ต่อวัน และ ให้ติดต่อกันตั้งแต่ 1-6 เดือนขึ้นไป
โดยสรุปคือควรรับประทานคอลลาเจนมากกว่า 5,000-10,000 มก. ต่อวันจะยิ่งได้ผลเร็ว
ส่วนถ้าอายุน้อย (<35 ปี) อาจใช้วันละ 2,500-5,000 มก. ก็เพียงพอแล้ว
.
4. เลือกคอลลาเจนที่ไม่ผสมน้ำตาลหรือสารปรุงแต่งอื่นๆ
เพราะจะทำให้คอลลาเจนถูกดูดซึมได้น้อยลง และน้ำตาลยังไปทำลายผิวของคุณโดยตรงอีกด้วย
.
5. เลือกคอลลาเจนที่มาจากปลาทะเลน้ำลึก
คอลลาเจนจากปลาทะเล (marine) จะดีกว่า วัว หมู หรือไก่ เพราะคอลลาเจนจากปลาทะเลมีความบริสุทธ์มากที่สุด ดูดซึมได้ดีที่สุดและ ปลอดภัยมากที่สุด
ข้อควรระวังคือคนที่แพ้ปลา อาจจะต้องระวังการแพ้ด้วยนะครับ
.
บทความเขียนโดย Dr.Boy, SMED
ถ้าสนใจเรื่องสุขภาพ มีกลุ่มไลน์ ถามตอบปัญหา
และแบ่งปันข้อมูลสุขภาพให้ทุกวันครับ มี ebook แจกฟรี ขอได้หลังไมค์ครับ
หรือใครสนใจอยากรู้เรื่องอะไรคอมเม้นถามได้นะครับเดียวจะไปหาข้อมูลมาให้ครับ
References
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://bit.ly/3aTvMea
https://bit.ly/2KJPmil
https://bit.ly/3n0kZkN
https://www.nytimes.com/2019/11/09/style/self-care/collagen-benefits.html
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/30681787/
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6835901/
https://www.publish.csiro.au/HC/pdf/HC15947
https://www.researchgate.net/publication/276696375_An_Overview_of_the_Beneficial_Effects_of_Hydrolysed_Collagen_as_a_Nutraceutical_on_Skin_Properties_Scientific_Background_and_Clinical_Studies
กระทู้อื่นๆ
14 วิตามินสำหรับคนอยากผิวขาวใสหรือลดริ้วรอย
https://ppantip.com/topic/40445853
3 ข้อข้องใจเกี่ยวกับแคลเซียมและกระดูก กินแล้วดีหรือไม่?
https://ppantip.com/topic/40431896
5 เทคนิคการเลือกซื้อคอลลาเจนที่คุณต้องรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อ
*บทความจากการหาข้อมูลในงานวิจัยต่างประเทศ พบว่าการทานคอลลาเจนได้ผลจริงนะครับ
แต่ถ้าหากผิดพลาดประการใดสามารถท้วงติงได้ครับ
.
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีมากที่สุดในร่างกายทำหน้าที่คล้ายกาว ยืดเกาะอวัยวะทุกอย่างของคุณเอาไว้ ถ้าอายุเกิน 30-40 ปี คอลลาเจนก็จะลดลง ผิวหนัง กระดูก ข้อ กล้ามเนื้อ เส้นผม เล็บ ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพตามไปด้วย
.
นอกจากนี้ตัวการที่เร่งให้คอลลาเจนของเราเสื่อมสลายไปเร็วมากขึ้นได้แก่ การทานอาหารที่มีน้ำตาลทรายผสมมากๆ ความเครียด ขาดสารอาหาร โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ สูบบุหรี่ การโดนแสงแดด และมลพิษจากอากาศ
.
การทานคอลลาเจนเสริมจึงช่วยให้ ลดเลือดริ้วรอย เสริมความยืดหยุ่นของผิวหนัง ทำให้ผิวนุ่มลื่นมากขึ้น, ลดอาการปวดข้อ ข้อเสื่อม เสริมสร้างน้ำไขข้อ , เสริมสร้างมวลกระดูก , บำรุงเส้นผมและเล็บ, ลดไขมันตามเส้นเลือด , ปรับสมดุลล้ำไส้ ลดอาการท้องผูกหรือท้องเสียบ่อยๆ
.
1.เลือกคอลลาเจนให้ถูกชนิด คอลลาเจนแบ่งเป็น 3 ชนิดได้แก่
คอลลาเจนชนิด 1 (type 1) เป็นส่วนประกอบของผิวหนัง เล็บ และเส้นผม
คอลลาเจนชนิด 2 (type 2) พบตามไขข้อ และกระดูกอ่อน
คอลลาเจนชนิด 3 (type 3) พบมากในกล้ามเนื้อ
ดังนั้นเราควรเลือกใช้คอลลาเจนที่มีส่วนผสมของ คอลลาเจนชนิดที่ 1 มากที่สุดเพื่อการบำรุงผิวพรรณ และเส้นผม
เลือกชนิดที่ 2 และ 3 กรณีที่ต้องการบำรุง ไขข้อ กล้ามเนื้อ
(จริงแล้วมีคอลลาเจนมากกว่า 10 type แต่ไม่ขอลงรายละเอียดในที่นี้นะครับเพราะไม่เกี่ยวข้องกับผิวและข้อ)
.
2. เลือกคอลลาเจนที่มีขนาดเล็ก
คอลลเจนขนาดเล็กร่างกายจะดูดซึมได้ง่ายและนำไปซ่อมแซมผิวหนัง เล็บ ผม และไขข้อได้โดยตรง โดยให้เลือกคอลลาเจนที่เขียนว่า เป็นไฮโดรไลซ์คอลลาเจน หรือ คอลลาเจนเปปไทด์ (hydrolized collagen, collagen peptide) จะมีขนาดเล็กกว่าคอลลาเจนปกติ ทำให้ได้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
.
3. ปริมาณคอลลาเจนถ้ามีมากยิ่งทำให้ถูกนำไปใช้ได้มากยิ่งขึ้น
เนื่องจากข้อมูลในงานวิจัยที่เห็นผลจริง มีใช้ขนาดตั้งแต่ 2500-10000 มก ต่อวัน และ ให้ติดต่อกันตั้งแต่ 1-6 เดือนขึ้นไป
โดยสรุปคือควรรับประทานคอลลาเจนมากกว่า 5,000-10,000 มก. ต่อวันจะยิ่งได้ผลเร็ว
ส่วนถ้าอายุน้อย (<35 ปี) อาจใช้วันละ 2,500-5,000 มก. ก็เพียงพอแล้ว
.
4. เลือกคอลลาเจนที่ไม่ผสมน้ำตาลหรือสารปรุงแต่งอื่นๆ
เพราะจะทำให้คอลลาเจนถูกดูดซึมได้น้อยลง และน้ำตาลยังไปทำลายผิวของคุณโดยตรงอีกด้วย
.
5. เลือกคอลลาเจนที่มาจากปลาทะเลน้ำลึก
คอลลาเจนจากปลาทะเล (marine) จะดีกว่า วัว หมู หรือไก่ เพราะคอลลาเจนจากปลาทะเลมีความบริสุทธ์มากที่สุด ดูดซึมได้ดีที่สุดและ ปลอดภัยมากที่สุด
ข้อควรระวังคือคนที่แพ้ปลา อาจจะต้องระวังการแพ้ด้วยนะครับ
.
บทความเขียนโดย Dr.Boy, SMED
ถ้าสนใจเรื่องสุขภาพ มีกลุ่มไลน์ ถามตอบปัญหา
และแบ่งปันข้อมูลสุขภาพให้ทุกวันครับ มี ebook แจกฟรี ขอได้หลังไมค์ครับ
หรือใครสนใจอยากรู้เรื่องอะไรคอมเม้นถามได้นะครับเดียวจะไปหาข้อมูลมาให้ครับ
References
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กระทู้อื่นๆ
14 วิตามินสำหรับคนอยากผิวขาวใสหรือลดริ้วรอย
https://ppantip.com/topic/40445853
3 ข้อข้องใจเกี่ยวกับแคลเซียมและกระดูก กินแล้วดีหรือไม่?
https://ppantip.com/topic/40431896